ร.ต.(หญิง) ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลังจะนำที่ราชพัสดุ จำนวน 1 ล้านไร่ ที่ได้จากการขอคืนจากหน่วยราชการและไม่ได้ใช้ประโยชน์ ไปให้เกษตรกรเช่าสำหรับเพาะปลูกพืชไร่และพืชพลังงานทดแทน โดยกรมธนารักษ์จะคิดค่าเช่าเพียงไร่ละ 20 บาทต่อปี กำหนดสัญญาคราวละ 3 ปี ซึ่งขณะนี้ได้ขอคืนที่ดินแล้ว 266,539 ไร่ พร้อมเปิดให้เกษตรกรเช่าได้ทันที ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และคาดว่าจะขอคืนที่ดินครบ 1 ล้านไร่ ภายในปี 2554
ส่วนการคัดเลือกเกษตรกรผู้เช่า เป็นหน้าที่ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมยืนยันว่า จะไม่เปิดให้มีการเช่าช่วง ส่วนจำนวนที่ราชพัสดุให้เช่าไร่ต่อราย ต้องหารือกับกระทรวงเกษตรฯ อีกครั้ง เนื่องจากที่ผ่านมาให้เช่ารายละ 15 ไร่ แต่โครงการปลูกพืชพลังงานทดแทน ต้องใช้พื้นที่จำนวนมากจึงจะได้ผลดี
สำหรับในปีแรก คาดว่าจะขอคืนที่ดินในครอบครองของส่วนราชการและหน่วยงานรัฐที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ 879,302 ไร่ โดยแบ่งเป็นที่ดินว่างและใช้ประโยชน์ไม่เหมาะสม หรือใช้ไม่เต็มพื้นที่ 295,258 ไร่ และเป็นที่ดินบุกรุก 584,062 ไร่ ซึ่งจะต้องเจรจาขอคืน หรือหากใช้เพาะปลูกพืชไร่อยู่แล้ว จะให้ดำเนินการตามเกณฑ์การเช่าที่ของกรมธนารักษ์ เพราะที่ผ่านมาพื้นที่เหล่านี้ไม่มีการจ่ายค่าเช่าแต่อย่างใด โดยขณะนี้ได้ส่งหนังสือถึงทุกกระทรวง เพื่อขอคืนที่ราชพัสดุ ซึ่งรวมถึงกระทรวงกลาโหม ที่มีพื้นที่ว่างเปล่าและใช้ทางการทหารอยู่มาก หากไม่ส่งคืนจะทวงถามผ่านที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เนื่องจากการนำที่ราชพัสดุมาปลูกพืชไร่และพืชพลังงานทดแทน เป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ จากการสำรวจที่ราชพัสดุทั่วประเทศในปี 2549 พบว่ามีประมาณ 12.5 ล้านไร่ แยกเป็นที่ดินที่ใช้ประโยชน์ในราชการ เนื้อที่ประมาณ 12.337 ล้านไร่ หรือร้อยละ 98.70 และที่ดินอีก 163,000 ไร่ หรือร้อยละ 1.30 ที่จัดให้เช่าเพื่ออยู่อาศัย เกษตรกรรม และเพื่อการพาณิชยกรรม
ส่วนการคัดเลือกเกษตรกรผู้เช่า เป็นหน้าที่ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมยืนยันว่า จะไม่เปิดให้มีการเช่าช่วง ส่วนจำนวนที่ราชพัสดุให้เช่าไร่ต่อราย ต้องหารือกับกระทรวงเกษตรฯ อีกครั้ง เนื่องจากที่ผ่านมาให้เช่ารายละ 15 ไร่ แต่โครงการปลูกพืชพลังงานทดแทน ต้องใช้พื้นที่จำนวนมากจึงจะได้ผลดี
สำหรับในปีแรก คาดว่าจะขอคืนที่ดินในครอบครองของส่วนราชการและหน่วยงานรัฐที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ 879,302 ไร่ โดยแบ่งเป็นที่ดินว่างและใช้ประโยชน์ไม่เหมาะสม หรือใช้ไม่เต็มพื้นที่ 295,258 ไร่ และเป็นที่ดินบุกรุก 584,062 ไร่ ซึ่งจะต้องเจรจาขอคืน หรือหากใช้เพาะปลูกพืชไร่อยู่แล้ว จะให้ดำเนินการตามเกณฑ์การเช่าที่ของกรมธนารักษ์ เพราะที่ผ่านมาพื้นที่เหล่านี้ไม่มีการจ่ายค่าเช่าแต่อย่างใด โดยขณะนี้ได้ส่งหนังสือถึงทุกกระทรวง เพื่อขอคืนที่ราชพัสดุ ซึ่งรวมถึงกระทรวงกลาโหม ที่มีพื้นที่ว่างเปล่าและใช้ทางการทหารอยู่มาก หากไม่ส่งคืนจะทวงถามผ่านที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เนื่องจากการนำที่ราชพัสดุมาปลูกพืชไร่และพืชพลังงานทดแทน เป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ จากการสำรวจที่ราชพัสดุทั่วประเทศในปี 2549 พบว่ามีประมาณ 12.5 ล้านไร่ แยกเป็นที่ดินที่ใช้ประโยชน์ในราชการ เนื้อที่ประมาณ 12.337 ล้านไร่ หรือร้อยละ 98.70 และที่ดินอีก 163,000 ไร่ หรือร้อยละ 1.30 ที่จัดให้เช่าเพื่ออยู่อาศัย เกษตรกรรม และเพื่อการพาณิชยกรรม