“ระนองรักษ์”ลุยมอบนโยบายโคราช-เร่งแก้รุกที่ราชพัสดุ“สีคิ้ว”อื้อกว่าแสนไร่

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “ร.ต.หญิง ระนองรักษ์” รมช.คลัง ลงพื้นที่โคราชมอบนโยบายหน่วยงานในสังกัด ย้ำข้าราชการทำงานเชิงรุก สั่งธนารักษ์ทุกพื้นที่เร่งสำรวจที่ราชพัสดุเพื่อเรียกคืนกลับมาใช้ประโยชน์ หากพบมีการบุกรุกให้ยึดมติ ครม.ปี 2539 จัดการ เผยโคราชมีที่ราชพัสดุทั้งหมดกว่า 600,000 ไร่ ระบุกรณี ต.คลองไผ่ อ.สีคิ้ว มีปัญหาบุกรุกอื้อกว่าหมื่นราย รวมพื้นที่มากกว่า 1 แสนไร่ ส่วนการดำเนินการเอาผิดผู้บุกรุกที่ราชพัสดุที่ ประจวบฯ คืบหน้าไปมากพร้อมเสียงแข็งดำเนินคดีนายทุนผู้บุกรุกเด็ดขาดไม่มีละเว้น

วานนี้( 21 เม.ย.) ที่โรงแรมดุสิต ปริ๊นเซส อ.เมือง จ.นครราชสีมา ร.ต.หญิงระนองรักษ์ สุวรรณฉวี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังเดินทางมามอบนโยบายการทำงานให้กับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา เช่น สำนักงานคลังจังหวัด , ธนารักษ์จังหวัด , สรรพสามิตภาค 3 , สรรพสามิตพื้นที่ นครราชสีมา และ คลังเขต 3 ว่า วันนี้ได้เน้นย้ำให้หน่วยงานในสังกัด บริหารจัดการงานให้มีประสิทธิภาพ ให้การบริการที่ดีแก่ประชาชน โดยนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ให้เกิดความสะดวก รวดเร็ว และใช้ประโยชน์จากข้อมูลระหว่างหน่วยราชการร่วมกันอย่างเต็มที่

โดยเฉพาะการจัดการเกี่ยวกับที่ราชพัสดุ ให้ธนารักษ์พื้นที่และหน่วยงานราชการในจังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.) ร่วมกันสอดส่องและตรวจสอบไม่ให้มีการบุกรุกที่ราชพัสดุเพิ่มขึ้น และให้หาวิธีแก้ไข จัดการที่ราชพัสดุที่มีการครอบครองและบุกรุกอยู่ให้ถูกต้องตามกฎหมาย และ ส่งเสริมให้นำที่ราชพัสดุไปใช้เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจ ที่ออกกำลังกาย ส่งเสริมด้านกีฬา และนำไปใช้เป็นสถานที่จัดสวัสดิการให้แก่ข้าราชการให้ได้มีที่อยู่อาศัยเพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ข้าราชการ โดยให้ธนารักษ์พื้นที่ประสานงานกับจังหวัด และ อปท.ร่วมมือกันสำรวจพื้นที่ที่มีศักยภาพในการทำประโยชน์ดังกล่าว

ส่วนกรณีที่ราชพัสดุที่ส่วนราชการครอบครองแต่ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ ให้คืนกลับมาที่กรมธนารักษ์ เพื่อให้กรมธนารักษ์นำมาจัดประโยชน์ให้แก่ประชาชนและสังคม เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจของประเทศตามนโยบายของรัฐบาล

ร.ต.หญิง ระนองรักษ์ กล่าวอีกว่า สำหรับที่ราชพัสดุใน จ.นครราชสีมา มีกว่า 600,000 ไร่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการสำรวจของธนารักษ์พื้นที่ว่า ที่ราชพัสดุในจุดใดที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์และมีการบุกรุกบ้าง ซึ่งวันนี้ได้ลงพื้นที่ไปดูกรณีปัญหาที่ ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งมีที่ราชพัสดุอยู่จำนวน 5 ไร่มีส่วนราชการ 2 แห่ง คือโรงเรียนและเทศบาลตำบลหัวทะเลขอใช้ประโยชน์พร้อมกัน โดยที่ดินดังกล่าวยังเป็นที่ดินว่างเปล่าไม่มีสิ่งปลูกสร้างใด ๆ เรื่องนี้ได้มอบหมายให้ธนารักษ์พื้นที่ไปดูแลและจัดการแก้ปัญหาขอขัดแย้งระหว่าง 2 หน่วยงานดังกล่าวแล้ว

นอกจากนี้ยังได้ลงพื้นที่ดูกรณีปัญหาที่ ต.คลองไผ่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ซึ่งมีที่ราชพัสดุอยู่กว่า 100,000 ไร่ เดิมอยู่ในความรับผิดชอบของกรมราชทัณฑ์ ขณะนี้ส่วนใหญ่มีประชาชนบุกรุกเข้าไปครอบครองพื้นที่โดยปลูกสร้างบ้านและทำการเกษตรอยู่ประมาณ 10,000 ราย การดำเนินการจะพิจารณาตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ปี 2539 ว่า หากใครครอบครองที่ดินก่อนปี พ.ศ. 2495 และสามารถพิสูจน์สิทธิ์ได้ก็ถือว่าเขามีกรรมสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าว แต่หากมีปัญหาก็จะต้องพูดคุยกัน โดยใช้วิธีการแบบอะลุ้มอล่วยไม่มีความรุนแรงแต่อย่างใด

ส่วนความคืบหน้าการบุกรุกที่ดินของกรมธนารักษ์ในโครงการพัฒนาที่ดินตามแนวพระราชดำริ ที่ ห้วยสัตว์ใหญ่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ร.ต.หญิงระนองรักษ์ กล่าวว่า ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงไปสำรวจพื้นที่ และตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 3 ชุดเพื่อดำเนินการในเรื่องดังกล่าว ซึ่งต้องใช้ภาพถ่ายทางอากาศประกอบ โดยให้เวลาดำเนินการให้แล้วเสร็จภาย 60 วันและรายงานให้ทราบทุกขั้นตอน พื้นที่ดังกล่าวส่วนใหญ่ใช้ทำการเกษตร เช่น ปลูกสับปะรด ส่วนกรณีที่มีการบุกรุกเข้าไปทำรีสอร์ทก็จะต้องดูกันอีกครั้งหนึ่ง

“ในเบื้องต้นการแบ่งสิทธิการทำประโยชน์บนที่ดินของกรมธนารักษ์ ได้ให้เกษตรกรที่ทำการเกษตรหรือเป็นสมาชิกของโครงการพัฒนาที่ดินตามแนวพระราชดำริ ทำการเกษตรต่อไป รวมทั้งได้แบ่งที่ดินบางส่วนให้เกษตรกรที่เป็นสมาชิกเช่าทำการเกษตร ส่วนนายทุนที่บุกรุกให้มีการแจ้งความดำเนินคดีทันทีโดยไม่ละเว้นแต่อย่างใด สำหรับพื้นที่ราชพัสดุใน จ.ประจวบฯ มีกว่า 4 หมื่นไร่ แต่ส่วนที่ถูกบุกรุกนั้นกำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ” ร.ต.หญิงระนองรักษ์ กล่าวในที่สุด