xs
xsm
sm
md
lg

ชงขุนคลังผุดสำนักงานให้เช่า ดึง 4 ไร่ปากซอยราชครูจาก บบส.ขึ้นโครงการ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คลังตีปีกหลังดีลควบรวม บบส.-บสก.เสร็จเตรียมโอนที่ดินทำเลทอง 4 ไร่เศษปากซอยราชครู ถนนพหลโยธิน ติดรถไฟฟ้า คืน หลังหน่วยงานราชการหลายแห่งน้ำลายสอจ่อคิวฮุบที่ตามเป็นมัน เตรียมชงเรื่องเสนอ รมว.คลัง เปิดประมูลให้เอกชนพัฒนาอาคารสำนักงานเชิงพาณิชย์หารายได้เข้ารัฐ ระบุหากโรงการสำเร็จอาจเปิดให้หน่วยงานราชการสามารถเช่าพื้นที่ได้ในราคาพิเศษ

แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ขณะนี้แผนการควบรวมของบรรษัทบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน (บบส.) กับบริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (บสก.) ใกล้จะจบกระบวนการ โดยอยู่ระหว่างการชำระคืนหนี้สินและทรัพย์สิน ซึ่งพื้นที่ในส่วนของพื้นที่อาคารสำนักงานบริเวณปากซอยราชครู จำนวน 4 ไร่ ริมถนนพหลโยธิน จะต้องคืนกลับมาเป็นที่ราชพัสดุตามกฎหมาย และอยู่ในการดูแลของกรมธนารักษ์ โดยกระบวนการโอนที่ดินกลับนั้นอยู่ในระหว่างกระบวนการ และคาดว่า จะแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายนนี้

อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การบริหารจัดการที่ราชพัสดุมีประสิทธิภาพ ทางกรมธนารักษ์ได้มีการจัดทำแผนในการพัฒนาที่ดินบริเวณดังกล่าวไว้รองรับ โดยจะเสนอให้กระทรวงการคลังพิจารณาควบคู่ไปกับการโอนคืนที่ดินตามแนวนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ต้องการให้พัฒนาพื้นที่ราชพัสดุบริเวณใกล้เคียงกับแนวรถไฟฟ้าทั้งหมด ให้เป็นอาคารสำนักงาน โรงแรม หรือคอมเพล็กซ์ขนาดใหญ่ เพื่อสร้างรายได้ในเชิงพาณิชย์

ทั้งนี้ ในส่วนของที่ดินจำนวน 4 ไร่เศษแปลงดังกล่าวนั้น มีราคาประเมินที่ดินตามราคาตลาดที่ 500 ล้านบาท และใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ซึ่งถือว่าเป็นที่ดินที่มีทำเลดีมาก ดังนั้นกระทรวงการคลัง จึงเห็นว่า น่าจะนำมาพัฒนาเป็นโครงการที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้รัฐมากกว่าใช้เป็นพื้นที่ของหน่วยงานราชการเท่านั้น

“เดิมที่ดินบริเวณนี้เป็นสำนักงานของ สูง 7-8 ชั้นนั้น แต่ หากกรมธนารักษ์ได้พื้นที่กลับมา จะเสนอแนวทางพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวให้ รมว.คลัง ตัดสินใจ โดยอาจทุบตึกเดิมทิ้งไป และก่อสร้างอาคารสูงขนาดใหญ่ เป็นอาคารสำนักงาน 300-400 ยูนิต เพื่อให้ใช้พื้นที่ได้มากขึ้นแล้วจากนั้นจะแบ่งให้เช่าเชิงพาณิชย์ และอาจจะเปิดทางให้หน่วยงานราชการที่ต้องการใช้พื้นที่เช่ายกชั้นไปเลย อาจจะเช่าราคาพิเศษ และร่วมกับการให้เอกชนเข้ามาเช่าใช้พื้นที่ด้วย เท่ากับว่าทุกฝ่ายได้ประโยชน์ร่วมกัน และดีกว่าให้หน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งเข้ามาใช้พื้นที่เปล่าๆ”

โดยในปัจจุบันเริ่มมีหน่วยงานราชการต่างๆ ยื่นความจำนงขอเข้าใช้พื้นที่ดังกล่าวแทน บบส.เป็นจำนวนมาก เช่น สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ซึ่งกรมธนารักษ์ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะมอบพื้นที่ดังกล่าวให้กับหน่วยงานใดเข้าใช้ โดยกรมธนารักษ์จะให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาแผนในภาพรวมของการพัฒนาก่อน

อย่างไรก็ตาม หากกระทรวงการคลังเห็นชอบกับแนวทางการพัฒนาโครงการดังกล่าวให้เป็นอาคารสำนักงาน ก็อาจจะจะเข้าข่ายที่จะต้องปฏิบัติตามเกณฑ์ของพ.ร.บ.ร่วมการงานภาครัฐและเอกชน พ.ศ.2535 (พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ) เนื่องจากมีมุลค่าโครงการเกิน 1,000 ล้านบาท โดยเฉพาะมูลค่าของที่ดินก็มีมูลค่าสูงถึง 500 ล้านบาทแล้ว หากมีการก่อสร้างอาคารสำนักงานให้เช่า และค่าดำเนินการต่างๆ รวมเข้ามาแล้วมูลค่าโรงการทั้งหมดก็จะเกิน 1,000 ล้านบาทแน่นอน

ดังนั้น เพื่อให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ จึงต้องปฏิบัติตามเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัด โดยหากจะมีการเปิดให้เอกชนมาดำเนินการ ก็ต้องมีการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) และความไปได้ในเชิงธุรกิจ รวมถึงการเปิดประมูลเป็นการทั่วไป ซึ่งบริษัทธนารักษ์พัฒนาสินทรัพย์ จำกัด (ธพส.) ซึ่งกรมธนารักษ์ถือหุ้นอยู่ก็สามรถเข้ามาประมูลเพื่อดำเนินงานได้ เพียงแต่ต้องยอมรับว่า ธพส.อาจจะยังมีความสามารถไม่มากเพียงพอที่จะดำเนินโครงการขนาดใหญ่ เนื่องจากเพิ่งก่อตั้งขึ้นมาไม่กี่ปี และไม่เชี่ยวชาญเพียงพอที่จะแข่งขันกับเอกชนมืออาชีพได้เต็มที่
กำลังโหลดความคิดเห็น