นายสุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ แถลงว่า อยากทำความเข้าใจภาพรวมของภาวะราคาสุกรในปัจจุบัน โดยย้ำว่า ธุรกิจเลี้ยงสุกรเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ราคาสุกรตลอดระยะเวลา 50 ปีที่ผ่านมา มีขึ้นมีลงตามภาวะตลาด ยิ่งในช่วงนี้เกิดภาวะน้ำมันและต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์มีราคาสูงผิดปกติ จากการนำไปใช้ผลิตพลังงานทดแทน ซึ่งเป็นปัจจัยที่เกิดขึ้นทั่วโลก เป็นการทำลายวงจรผลิต และยิ่งกดดันให้ผู้เลี้ยงต้องรับภาระสูงมาก วงจรชีวิตของผู้เลี้ยงต้องประสบปัญหาขาดทุนมากกว่ากำไร โดยเฉพาะช่วงกลางปี 2550 ถึงกับต้องขายเนื้อสุกร 3 กิโลกรัม ในราคาเพียง 100 บาท แต่การบริโภคกลับไม่เพิ่มขึ้น ทำให้เกษตรกรขาดทุนอย่างหนักมานานเกือบ 14 เดือน ต้องแก้ปัญหากันเองด้วยการตัดตอนลูกสุกรไปฆ่าทิ้งหลายแสนตัว และผู้เลี้ยงบางส่วนทนต้นทุนที่สูงขึ้นไม่ไหว ต้องเลิกเลี้ยงไปร้อยละ 20-30 ของผู้เลี้ยงทั้งหมด ส่งผลให้ปริมาณสุกรขุนที่ออกสู่ตลาดลดลง ดังนั้น การขยับราคาขึ้นในช่วงนี้จึงเป็นไปตามต้นทุนที่แท้จริง ไม่ใช่การฉวยโอกาสแต่อย่างใด
นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรฯ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาในหลายประเทศทั่วโลกล้วนประสบปัญหาราคาเนื้อสัตว์สูงขึ้น และได้มีการแก้ไขปัญหาราคาอย่างนุ่มนวล โดยปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด เช่น จีน เวียดนาม เมื่อราคาเนื้อสัตว์ชนิดใดแพงขึ้น ก็มีการรณรงค์บริโภคเนื้อสัตว์ชนิดอื่นทดแทน ทำให้ในเวลาต่อมา เนื้อสัตว์ที่แพงอยู่ก็จะมีราคาลดลงเอง ซึ่งเป็นไปตามกลไก นับเป็นการแก้ปัญหาอย่างตรงจุด และไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรฯ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาในหลายประเทศทั่วโลกล้วนประสบปัญหาราคาเนื้อสัตว์สูงขึ้น และได้มีการแก้ไขปัญหาราคาอย่างนุ่มนวล โดยปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด เช่น จีน เวียดนาม เมื่อราคาเนื้อสัตว์ชนิดใดแพงขึ้น ก็มีการรณรงค์บริโภคเนื้อสัตว์ชนิดอื่นทดแทน ทำให้ในเวลาต่อมา เนื้อสัตว์ที่แพงอยู่ก็จะมีราคาลดลงเอง ซึ่งเป็นไปตามกลไก นับเป็นการแก้ปัญหาอย่างตรงจุด และไม่ก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง