นายยรรยง พวงราช อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กรมการค้าภายในเตรียมเสนอ 3 เรื่องเด่นให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์คนใหม่ คือ 1.การดูแลราคาสินค้าอุปโภคบริโภค อิงกลไกตลาดและให้เป็นไปตามกลไกตลาด โดยยึดหลักแบบเศรษฐกิจพอเพียงไม่ค้ากำไรเกินควร คำนึงถึงประชาชนและภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งกรมการค้าภายในมีสูตรคำนวณสินค้าอุปโภคบริโภค ในการดูแลสินค้าเป็นกลุ่ม การปรับขึ้นหรือลงจะต้องเป็นธรรม หากต้นทุนวัตถุดิบขึ้นก็ต้องดูว่าขึ้นไปมากน้อยแค่ไหน และควรให้มีการปรับขึ้นหรือไม่ ขณะเดียวกัน จะเพิ่มมาตรการช่วยเหลือผู้บริโภคผ่านโครงการธงฟ้า เช่น พันธมิตรธงฟ้า หรือโครงการธงฟ้าต่างๆ เพื่อให้กลไกตลาดทำงาน และกรมฯ จะเปิดเผยข้อมูลภาวะต้นทุนราคาสินค้า เพื่อให้ประชาชนรับทราบ
2.การดูแลราคาสินค้าภาคการเกษตร ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง โดยเฉพาะขั้นตอนการผลิต การตลาด และการส่งออก ซึ่งเห็นว่ากระทรวงพาณิชย์จะต้องมียุทธศาสตร์สินค้าเกษตร ที่ก่อนหน้านี้ดำเนินการไปแล้ว เช่น ยุทธศาสตร์ข้าว สินค้าต่อไปคือมันสำปะหลัง ยางพารา สินค้าเหล่านี้เป็นสินค้าเกษตรหลักของไทย จะทำอย่างไรให้สินค้าเกษตรเหล่านี้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงไม่สูงหรือต่ำเกินไป เพื่อให้เกษตรกรอยู่รอดได้ ซึ่งจะต้องมีศูนย์เบ็ดเสร็จเพื่อใช้เป็นกลไกผลักดันให้สินค้าเกษตรมีราคาสูงขึ้นตามฐานต้นทุนที่แท้จริง เพื่อให้เกษตรกรอยู่ดีกินดีและจะต้องพัฒนาระบบขนส่ง รวมถึงการจัดระบบฐานข้อมูลเกษตรกร
3.พัฒนาระบบกฎเกณฑ์ เพื่อสร้างการค้าให้เป็นธรรมระหว่างผู้ค้าปลีกรายใหญ่กับรายย่อย เพื่อให้ภาคธุรกิจค้าปลีกมีการแข่งขันอย่างเป็นธรรม ซึ่งเห็นว่ากฎหมายการประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่งยังเป็นสิ่งที่จะต้องมีการพัฒนาและควรออกเป็นกฎหมาย พร้อมทั้งการสร้างกฎเกณฑ์และเงื่อนไขในการทำธุรกิจร่วมกัน รวมถึงพัฒนาระบบธุรกิจการค้าโชห่วยที่ยังขาดการพัฒนา เช่น ด้านขนส่ง เงินทุน
นายยรรยง กล่าวอีกว่า ในสัปดาห์หน้ากรมการค้าภายใน จะเชิญผู้ค้าก๊าซหุงต้มโดยเฉพาะโรงบรรจุก๊าซและผู้ค้าปลีก รวมถึงสมาคมผู้เลี้ยงสุกรและโรงชำแหละสุกร มาหารือ เพื่อพิจารณาภาวะต้นทุนที่แท้จริง แต่จะดูตามความเหมาะสมว่าควรจะประชุมร่วมกับกลุ่มใดก่อน
2.การดูแลราคาสินค้าภาคการเกษตร ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง โดยเฉพาะขั้นตอนการผลิต การตลาด และการส่งออก ซึ่งเห็นว่ากระทรวงพาณิชย์จะต้องมียุทธศาสตร์สินค้าเกษตร ที่ก่อนหน้านี้ดำเนินการไปแล้ว เช่น ยุทธศาสตร์ข้าว สินค้าต่อไปคือมันสำปะหลัง ยางพารา สินค้าเหล่านี้เป็นสินค้าเกษตรหลักของไทย จะทำอย่างไรให้สินค้าเกษตรเหล่านี้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริงไม่สูงหรือต่ำเกินไป เพื่อให้เกษตรกรอยู่รอดได้ ซึ่งจะต้องมีศูนย์เบ็ดเสร็จเพื่อใช้เป็นกลไกผลักดันให้สินค้าเกษตรมีราคาสูงขึ้นตามฐานต้นทุนที่แท้จริง เพื่อให้เกษตรกรอยู่ดีกินดีและจะต้องพัฒนาระบบขนส่ง รวมถึงการจัดระบบฐานข้อมูลเกษตรกร
3.พัฒนาระบบกฎเกณฑ์ เพื่อสร้างการค้าให้เป็นธรรมระหว่างผู้ค้าปลีกรายใหญ่กับรายย่อย เพื่อให้ภาคธุรกิจค้าปลีกมีการแข่งขันอย่างเป็นธรรม ซึ่งเห็นว่ากฎหมายการประกอบธุรกิจค้าปลีกค้าส่งยังเป็นสิ่งที่จะต้องมีการพัฒนาและควรออกเป็นกฎหมาย พร้อมทั้งการสร้างกฎเกณฑ์และเงื่อนไขในการทำธุรกิจร่วมกัน รวมถึงพัฒนาระบบธุรกิจการค้าโชห่วยที่ยังขาดการพัฒนา เช่น ด้านขนส่ง เงินทุน
นายยรรยง กล่าวอีกว่า ในสัปดาห์หน้ากรมการค้าภายใน จะเชิญผู้ค้าก๊าซหุงต้มโดยเฉพาะโรงบรรจุก๊าซและผู้ค้าปลีก รวมถึงสมาคมผู้เลี้ยงสุกรและโรงชำแหละสุกร มาหารือ เพื่อพิจารณาภาวะต้นทุนที่แท้จริง แต่จะดูตามความเหมาะสมว่าควรจะประชุมร่วมกับกลุ่มใดก่อน