ในภาวะเศรษฐกิจฝืดเคืองเช่นนี้ ประชาชนจากหลายหลายอาชีพบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า เมื่อต้องใช้บริการกดเงินผ่านเอทีเอ็มต่างธนาคาร ต้องประสบปัญหาการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมครั้งละ 3 บาท หรือแม้แต่กดเงิน หรือว่าโอนเงินไปต่างจังหวัด ก็ถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมครั้งละ 20 - 30 บาท ซึ่งการใช้บริการเอทีเอ็ม ช่วยธนาคารลดความแออัด ซึ่งส่งผลดีกับธนาคารเอง ประกอบกับเศรษฐกิจเช่นนี้ ทำให้ประชาชนต้องแบกรับภาระมาก
นายธวัชชัย ยงกิตติกุล นายกสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า การจัดเก็บค่าธรรมเนียมการใช้ตู้เอทีเอ็มต่างธนาคาร ถ้าเกิน 3 ครั้งต่อเดือน ครั้งต่อไปก็คิดค่าบริการ 3 บาท เป็นค่าเชื่อมโยงระบบของเอทีเอ็ม ซึ่งถือว่าเป็นบริการพิเศษให้กับลูกค้ารายย่อย และให้บริการเอทีเอ็มทำได้มากกว่าการถอนเงิน เช่น การชำระค่าสาธารณูปโภค จ่ายค่ามือถือ โอนเงิน ถ้าหากประชาชนต้องการประหยัดก็ควรวางแผนการใช้เงิน โดยไม่ถอนเงินทีละน้อยๆ ออกมาบ่อยๆ และควรใช้บริการธนาคารที่ถือบัญชีอยู่ โดยจากสถิติประชาชนทำรายการผ่านเอทีเอ็มวันละ 1 ล้านรายการ ทำให้ธนาคารมีรายได้จากส่วนนี้พอสมควร และในปี 2551 จะพัฒนาระบบ e-payment เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำรายการข้ามประเทศได้
นายธวัชชัย ยงกิตติกุล นายกสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า การจัดเก็บค่าธรรมเนียมการใช้ตู้เอทีเอ็มต่างธนาคาร ถ้าเกิน 3 ครั้งต่อเดือน ครั้งต่อไปก็คิดค่าบริการ 3 บาท เป็นค่าเชื่อมโยงระบบของเอทีเอ็ม ซึ่งถือว่าเป็นบริการพิเศษให้กับลูกค้ารายย่อย และให้บริการเอทีเอ็มทำได้มากกว่าการถอนเงิน เช่น การชำระค่าสาธารณูปโภค จ่ายค่ามือถือ โอนเงิน ถ้าหากประชาชนต้องการประหยัดก็ควรวางแผนการใช้เงิน โดยไม่ถอนเงินทีละน้อยๆ ออกมาบ่อยๆ และควรใช้บริการธนาคารที่ถือบัญชีอยู่ โดยจากสถิติประชาชนทำรายการผ่านเอทีเอ็มวันละ 1 ล้านรายการ ทำให้ธนาคารมีรายได้จากส่วนนี้พอสมควร และในปี 2551 จะพัฒนาระบบ e-payment เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำรายการข้ามประเทศได้