ชวนผ่อนคลายท่ามกลางธรรมชาติร่มรื่นใจกลางกรุงเทพฯ ณ “Bhawa Spa” ซอยสุขุมวิท 8 เดย์สปาไทยระดับพรีเมียม ที่มีโปรแกรมนวดและทรีตเมนต์หลากหลายให้เลือก โดยในปีนี้ เพิ่งได้รับรางวัล Thailand Tourism Awards 2025 ประเภทการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
ใจกลางเมืองใหญ่ที่วุ่นวาย ยังมีมุมเล็กๆ ในซอยสุขุมวิท 8 ที่เปรียบเสมือนโอเอซิสใจกลางกรุง เป็นแหล่งพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติอันร่มรื่น บรรยากาศเงียบสงบ ที่เหมาะอย่างยิ่งกับการมาปรับสมดุลร่างกายและจิตใจ
ณ บ้านเก่า ใจกลางกรุงเทพฯ เป็นที่ตั้งของ “Bhawa Spa” หรือ “BHAWA SPA on the eight” (บาว่า สปา ออน ดิ เอท) เดย์สปาไทยระดับพรีเมียม ที่เปิดต้อนรับทุกคนให้ได้เข้ามาผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจ ด้วยทรีตเมนต์สปาที่หลากหลายและหลากหลายพิธีกรรมการนวดแผนไทยอันเป็นเอกลักษณ์
Bhawa Spa ก่อตั้งขึ้นเมื่อปลายปี 2556 จากบ้านเก่าอันเป็นสมบัติล้ำค่า ถูกปรับปรุงให้กลายมาเป็นสปาที่ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนเขตร้อนอันเขียวขจี จากความตั้งใจที่จะเก็บความเป็นธรรมชาติอันร่มรื่นนี้ไว้ แม้ว่าตัวสปาจะตั้งอยู่ใจกลางเมืองอันวุ่นวาย เพื่อให้ที่นี่ได้เป็นจุดพักผ่อนอันเงียบสงบและได้ใกล้ชิดธรรมชาติ
คุณกฤษณา เรืองศรี (คุณเอ) Owner / MD / Director of R & D เล่าให้ฟังถึงที่มาของสปาแห่งนี้ว่า เคยได้เดินทางไปที่ประเทศศรีลังกา แล้วได้ไปเห็นผลงานของ เจฟฟรีย์ บาวา สถาปนิกในตำนานชาวศรีลังกา ผู้บุกเบิกสไตล์โมเดิร์นทรอปิคอล ส่วนตัวแล้วชอบงานของบาวามากๆ เพราะงานของเขาคือความเป็นธรรมชาติ คือการอยู่กับธรรมชาติ ตอนที่เริ่มทำสปาจึงเลือกใช้ชื่อ Bhawa เนื่องจากมีคอนเซ็ปต์ที่ชัดเจน และเป็นสิ่งที่เราอยากจะเป็น
โดยคำว่า Bhawa มาจากภาษาอินเดียที่แปลว่า status of being หมายถึง สภาวะที่เป็นอยู่ หรือ การอยู่กับปัจจุบันขณะ เมื่อรวมเข้ากับคอนเซ็ปต์การอยู่กับธรรมชาติ จึงทำให้ที่นี่เน้นการใกล้ชิดธรรมชาติ ทั้งบรรยากาศภายในสปา ไปจนถึงผลิตภัณฑ์ที่เลือกใช้ ก็เป็นวัตถุดิบจากธรรมชาติเช่นกัน
“ที่บาว่า จะมีเทคนิคการนวดพิเศษ เรียกว่า บาว่าเทคนิค เป็นการใช้ศาสตร์ไทยผสมผสานกับเทคนิคต่างๆ ที่เราได้ไปเรียนมาหลายๆ ที่ มาเป็นเทคนิคของบาว่าโดยเฉพาะ”
“ส่วนออยล์ต่างๆ ของที่ใช้ที่นี่ก็เป็นของจากธรรมชาติจริง 100% ไม่ได้ใส่หัวน้ำหอม เพราะตัวนี้จะอยู่ในร่างกายอย่างน้อย 4 ชั่วโมง ถ้าคุณได้ของดีมันจะเข้าไปดูแลอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย เพื่อให้กลับมาสมดุล แต่ถ้าคุณได้น้ำหอมไปก็เท่ากับได้สารเคมีเข้าไปในร่างกาย
เราต้องรู้ที่มาของวัตถุดิบที่นำมาใช้ แล้วเราก็มีฟาร์มของตัวเอง อยู่ที่ จ.ลำปาง ยังไม่ใช่ฟาร์มออร์แกนิกแท้ เพราะต้องมีขั้นตอนการเตรียมดิน การจัดการสิ่งแวดล้อมหลายปี แต่ก็เป็นฟาร์มธรรมชาติ 100% ไม่มีการใช้สารเคมีเลย ส่วนที่ปลูเยอะๆ ตอนนี้ก็มีพวกตะไคร้ โรสแมรี ที่นำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในสปา แล้วเราก็มีโรงกลั่นของตัวเอง”
สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในสปา วัตถุดิบส่วนหนึ่งก็ใช้ผลผลิตในไทย ไม่ว่าจะเป็น สครับ ที่ใช้เบสเป็นน้ำผึ้งเดือนห้าผสมกับน้ำผึ้งโครงการหลวง รังไหมที่นำมาทำเป็นทรีตเมนต์น้ำมันรังไหม ก็ใช้รังไหมจากภาคอีสาน นำไปทอดในน้ำมันมะพร้าว สกัดออกมาเป็น Silk Oil แม้แต่เกลือหิมาลายันที่เป็นของนำเข้า ก็ถูกนำมาผสมกับน้ำมันมะพร้าวจากชุมชนในไทย ที่มีกรรมวิธีการทำให้น้ำมันมะพร้าวไม่มีกลิ่นหืน
ทรีตเมนต์ที่เป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่คือ Heavenly Hot Jewel Massage เป็นการล้างและขัดเท้าเพื่อบํารุง นวดตัวด้วยน้ำมัน พร้อมหินร้อน (สามารถเลือกกลิ่นน้ํามันได้) นวดศีรษะด้วยเทคนิคของบาวา ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ ช่วยเรื่องการไหลเวียนของโลหิตได้ดีขึ้น ช่วยให้กระปรี้กระเปร่าและฟื้นฟูร่างกายที่เมื่อยล้า
และอีกโปรแกรมที่แนะนำสำหรับชาวออฟฟิศซินโดรม คือ Bhawa Stress & Anxeity Relief Massage & Therapy ล้างและขัดเท้าเพื่อบํารุง เริ่มด้วยการวอร์มด้วยนวดไทยบริเวณขา ลําตัว และมือ การนวดตัวด้วยน้ํามันเลม่อนกลาส เน้นเฉพาะบริเวณคอบ่า ไหล่ หลัง และตามด้วยการประคบเกลือสตุ นวดศีรษะตามแบบฉบับบาวา ช่วยผ่อนคลายความตึงเครียดและกล้ามเนื้อบริเวณไหล่ศีรษะ ช่วยเรื่องการนอนหลับได้ดีขึ้น
คุณชารินท์ สิงห์สถิตย์ (คุณนก) Director of Operations and Spa ให้ข้อมูลเรื่องการนวดซิกเนเจอร์ Heavenly Hot Jewel ว่า เป็นการผสมผสานระหว่างการใช้มือกับหินร้อน นวดไปพร้อมๆ กัน ด้วยการจับอุณหภูมิของเทอราพิส เพราะผิวของแขกแต่ละคนรับความร้อนได้ไม่เท่ากัน ฉะนั้น จะต้องทำยังไงให้ความร้อนพอดี ไม่เบิร์นผิว ซึ่งต้องใช้ประสาทสัมผัสของคนนวดที่ชำนาญ ตัวหินมีพลังงานสะสมอยู่ข้างใน ช่วยคลายกล้ามเนื้อได้ดี โดยเฉพาะในบางจุดที่ใช้มือนวดอย่างเดียวไม่เพียงพอ แล้วยังผสมผสานไปกับน้ำมันนวดของที่นี่ อย่างตัวตะไคร้ก็จะช่วยคลายปวดกล้ามเนื้อ
ส่วนโปรแกรมนวด Bhawa Stress & Anxeity Relief Massage & Therapy เป็นการผสมผสานกัน ด้านล่างใช้เทคนิคนวดไทย คือยืดคลายกล้ามเนื้อส่วนขาและเท้า ด้านบนจะใช้น้ํามันตะไคร้ร่วมกับการประคบ สําหรับคนที่เป็นออฟฟิศซินโดรมจะชอบมาก เพราะเราเน้นที่ด้านบน คอ บ่า ไหล่ ศีรษะ ก็จะเหมาะกับคนเมืองมากๆ
คุณชารินท์ ให้ข้อมูลอีกว่า ทางร้านมีไฮไลต์คือการให้บริการแบบไทย “เราภูมิใจในความเป็นไทย ที่นี่จะรักษาวัฒนธรรมไทยในการให้บริการ เรื่องกิริยามารยาทต้องสวยงามอ่อนหวาน เรายังคงคลานเขาอยู่ ยังคงนั่งคุกเข่ากับแขกอยู่ ซึ่งมีหลายแขกหลายท่านที่เดินผ่านแล้วไม่เข้าใจ คิดว่าแบบค้าทาสหรือเปล่า แต่เราบอกว่ามันไม่ใช่ มันคือการแสดงความเคารพ แล้วก็คือความอ่อนน้อมถ่อมตนแบบไทย ซึ่งในงานบริการประเทศอื่นไม่มีแบบนี้ เราภูมิใจและเรายินดีที่จะทำ มันทำให้ประเทศไทย outstanding ออกมา ก็เพราะการให้บริการแบบนี้ เราอยากให้การท่องเที่ยวของประเทศไทยยังมีแบบนี้อยู่เยอะๆ”
ล่าสุดนี้ Bhawa Spa เพิ่งได้รับรางวัล Thailand Tourism Awards 2025 รางวัล ดีเด่น (Thailand Tourism Outstanding Awards) ประเภทการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Health and Wellness Tourism) สาขาเดย์สปา (Day Spa) ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่สะท้อนถึงความทุ่มเทและความตั้งใจในการสร้างสรรค์บริการคุณภาพระดับสากล
คุณกฤษณา ให้ความเห็นเรื่องการได้รับรางวัล Thailand Tourism Awards 2025 ว่า การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) พยายามผลักดันสปาไทยสู่สากล รู้สึกว่า Bhawa Spa น่าจะตรงกับรางวัลนี้ เพราะสิ่งที่เราทําน่าจะเข้าเกณฑ์ ทั้งการยกระดับสปาไทย พัฒนาบุคลากร และในเรื่องของสิ่งแวดล้อม เป็นสิ่งที่เราทํามาอยู่แล้ว
“จริงๆ เราตั้งไว้ให้ตัวเองเป็นห้องรับแขกของประเทศไทย อยากเป็นแบบนี้ตั้งแต่วันแรก เรารู้สึกว่าอาชีพนวดมีคนดูถูกมากเลย รู้สึกไม่แฟร์ เราอยากยกระดับสปาให้ทัดเทียมกับทั่วโลก อยากให้มีสแตนดาร์ดจริงๆ ด้วยทุกอย่าง ทุกๆ รายละเอียด อยากไปถึงตรงนั้น เพราะมันดีกับเรา ดีกับประเทศของเรา”
* * * * * * * * * * * * * *
“Bhawa Spa” ตั้งอยู่ในซอยสุขุมวิท 8 เขตคลองเตย กทม. (BTS นานา ทางออก 4) เปิดบริการทุกวัน เวลา 11.00-21.00 น. (Last booking 19.00 น.) Facebook : BHAWÁ
#########################################
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline