เชียงคาน ไม่ธรรมดา คว้าเหรียญเงิน “แหล่งท่องเที่ยวยั่งยืนโลก” จาก Green Destinations เป็นแห่งแรกในอาเซียน และเป็นแห่งที่ 3 ของเอเชีย โดยเชียงคานมีความโดดเด่นในด้านการจัดการแหล่งท่องเที่ยว
“องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน” หรือ “อพท.” เปิดเผยว่า อพท. ได้รับการแจ้งผลการประเมินของ Green Destinations ว่า “เชียงคานได้รับการรับรองมาตรฐานแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืนในระดับ Silver Award” โดยระบุว่า เชียงคานมีความโดดเด่นในด้านการจัดการแหล่งท่องเที่ยว (Destination Management) ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเข็มแข็งในการบริหารจัดการ ทั้งในส่วนของ อพท. ที่มีหน้าที่ในการประสานงาน องค์กรจัดการแหล่งท่องเที่ยว (DMO) ทั้งในระดับจังหวัดและระดับท้องถิ่นทุก ภาคส่วน และที่สำคัญคือ องค์กรภาคประชาชนเพื่อการท่องเที่ยวเชียงคานอย่างยั่งยืน ผ่านกระบวนการมีส่วนร่วม Co-creation & Co-own ตั้งแต่การร่วมคิด ร่วมวางแผน ร่วมปฏิบัติ ร่วมรับผิดชอบ ร่วมรับผลประโยชน์และร่วมเป็นเจ้าของ อย่างแท้จริง
ลุยยกระดับพื้นที่จนสามารถคว้ารางวัล
นาวาอากาศเอก อธิคุณ คงมี ผู้อำนวยการองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือ อพท. เปิดเผยว่า อพท. ได้คัดเลือกพื้นที่เชียงคาน เป็นพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ภายใต้แนวทางเกณฑ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก (Global Sustainable Tourism Criteria : GSTC) มาตั้งแต่ปี 2562 โดยใช้กลไกการขับเคลื่อนขององค์กรจัดการแหล่งท่องเที่ยว (Destination Management Organization: DMO) ทั้งในระดับจังหวัดและเชื่อมโยงสู่ระดับพื้นที่
โดยได้นำเสนอกรณีการแก้ไขปัญหาผลกระทบต่อวัฒนธรรมท้องถิ่น “ตักบาตรข้าวเหนียว” ด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนที่ร่วมกันพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนในพื้นที่จนเกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม โดยในปี 2563 เชียงคานได้รับการจัดอันดับให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืน 100 แห่งของโลก หรือ 2020 Sustainable Destinations TOP 100 จาก Green Destinations หน่วยงานที่ทำหน้าที่รับรองมาตรฐานแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ซึ่งก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2014
ต่อมา อพท. ได้ขับเคลื่อนการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเชียงคาน ภายใต้แนวทางเกณฑ์ GSTC มาอย่างต่อเนื่อง ตามเป้าหมายความยั่งยืนในแผนที่นำทาง (Roadmap) และดำเนินการเข้าสู่ระบบรับรองมาตรฐานแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืนในระดับสากลกับหน่วยงาน Green Destinations ด้วยกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชน ภาคีเครือข่ายและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกว่า 30 หน่วยงาน
โดยในเดือนพฤศจิกายน 2566 อพท. ได้ร่วมกับเทศบาลตำบลเชียงคานส่งใบสมัครเชียงคานเข้าสู่ระบบรับรองมาตรฐานแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืนในระดับสากลให้แก่หน่วยงาน Green Destinations จนสามารถคว้ารางวัลดังกล่าวมาครองได้สำเร็จ
รางวัล Green Destinations Award แห่งแรกในอาเซียน
สำหรับรางวัลเหรียญเงิน Green Destinations ที่เชียงคานได้รับในครั้งนี้ เป็นรางวัลที่มีมาตรฐานเข้มข้นและได้ยากมาก เพราะปัจจุบันมีแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับรางวัลเพียง 122 แหล่งจากทั่วโลก และเชียงคาน จังหวัดเลยของประเทศไทยเรา เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งแรกของอาเซียนที่ได้รับรางวัล และเป็นแหล่งที่ 3 ของเอเชีย ที่ได้รับรางวัลหลังจากแหล่งท่องเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นและไต้หวัน
โดยทาง อพท. และหน่วยงานภาคีเครือข่ายจะเข้าร่วมรับประกาศนียบัตรการรับรองมาตรฐานฯ อย่างเป็นทางการ ในงานมหกรรมการส่งเสริมการขายด้านการท่องเที่ยว (ITB Berlin 2024) ณ กรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ในเดือนมีนาคม 2567 นี้
นอกจากนี้ อพท. ยังได้มีเป้าหมายในการยกระดับแหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่พิเศษอื่น ๆ ของ อพท. เพื่อเข้าสู่ระบบรับรองมาตรฐานแหล่งท่องเที่ยวยั่งยืนในระดับสากลต่อไป เช่น ตำบลเมืองเก่าสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย ตำบลในเวียง จังหวัดน่าน และอำเภอคลองท่อม จังหวัดกระบี่ เป็นต้น
เชียงคาน เมืองงามริมฝั่งโขง
เมืองเชียงคาน อ.เชียงคาน จ.เลย ได้ชื่อว่าเป็น เป็นเมืองเล็ก ๆ ริมฝั่งโขงอันงดงามทรงเสน่ห์ ที่นี่มี “ถนนชายโขง” เป็นไฮไลต์สำคัญ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในถนนที่มีคนอยากเดินเที่ยวมากที่สุดของบ้านเรา
ถนนชายโขงแม้เป็นถนนสายสั้นๆที่มีความยาวแค่ประมาณ 2 กิโลเมตร แต่บรรยากาศใน 2 ฟากฝั่งถนนกลับน่ายลไปด้วยบรรยากาศของอาคารบ้านเรือนไม้เก่าแก่สุดคลาสสิก ที่ทอดตัวเรียงราย ท่ามกลางวิถีของชาวเชียงคานที่ดำรงอยู่อย่างเรียบง่าย
ปัจจุบันบ้านเรือนไม้ส่วนใหญ่บนถนนชายโขงได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบเป็นโรงแรม เกสต์เฮาส์ โฮมสเตย์ ร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึก ซึ่งในยามเย็นถนนชายโขงจะแปรเปลี่ยนเป็นถนนคนเดินอันคึกคัก มีสินค้า เสื้อผ้า อาหารท้องถิ่น ให้เลือกซื้อเลือกหากันมากมาย อีกทั้งยังมีมุมสวยๆงามๆมากหลายให้ถ่ายรูป เซลฟี่ กันอย่างเพลิดเพลิน
ส่วนถัดออกไปในบริเวณริมฝั่งโขงของถนนสายนี้ วันนี้มีการปรับแต่งภูมิทัศน์เป็นทางเดินริมโขงอันสวยงาม มีทั้งเส้นทางปั่นจักรยาน ทางเดินเท้า และระเบียงชมวิวริมโขง ที่เหมาะแก่การมาเดินชมวิวและชมพระอาทิตย์ตกริมแม่น้ำโขงเป็นอย่างยิ่ง
นอกจากถนนคนเดินและทางเดินริมฝั่งโขงแล้ว เชียงคานยังมีวัดต่างๆชวนให้เที่ยวชม เช่น วัดศรีคุนเมือง วัดท่าคก วัดมหาธาตุ ขณะที่อีกหนึ่งสิ่งที่เป็นไฮไลต์ต้องห้ามพลาดสำหรับผู้มาเที่ยวเชียงคานก็คือ การ“ตักบาตรข้าวเหนียว” อันขึ้นชื่อเป็นเอกลักษณ์ กับภาพของพระ-เณรที่ออกเดินบิณฑบาตเป็นแถวยาวให้ทั้งชาวเชียงคานและนักท่องเที่ยวใส่บาตรกันด้วยความรู้สึกอิ่มเอิบเปี่ยมศรัทธา
ส่วนถ้าออกนอกเมืองไปหน่อยก็จะมี“ภูทอก” เป็นจุดชมวิว ชมทะเลหมอกอันงดงาม และ“แก่งคุดคู้”แก่งใหญ่กลางแม่น้ำโขงอันน่ายล ซึ่งในบริเวณแก่งคุดคู้ยังมีร้านอาหารริมแก่งให้นั่งผ่อนคลาย และมีบริการเรือนำเที่ยวให้สัมผัสกับบรรยากาศแม่น้ำโขง
วันนี้เชียงคานยังมีแลนด์มาร์กใหม่คือ “สกายวอล์คเชียงคาน” หรือ “สกายวอล์ค ภูคกงิ้ว" ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านท่าดีหมี ต.ปากตม ห่างจากตัวเมืองเชียงคานไปราว 20 กิโลเมตร
สกายวอล์คเชียงคาน เป็นทางเดินกระจกติดพรหมแดนไทย-ลาว สามารถมองเห็นจุดตัดระหว่างแม่น้ำเหืองไหลบรรจบแม่น้ำโขง เป็นแม่น้ำสองสีตัดกันอย่างชัดเจน และสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของฝั่ง สปป.ลาว ได้อย่างสวยงาม
นอกจากนี้ภายในบริเวณสกายวอล์คเชียงคาน ยังเป็นที่ประดิษฐาน “พระใหญ่ภูคกงิ้ว” หรือ “พระพุทธนวมินทรมงคลลีลาทวินคราภิรักษ์” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางลีลาประทานพร สูงกว่า 19 เมตร ตั้งตระหง่านโดดเด่นให้ผู้ที่มาเยือนได้สักการะบูชา
นับได้ว่าเชียงคานเป็นเมืองงามริมฝั่งโขงที่มากไปด้วยสิ่งน่าสนใจอันหลากหลาย โดยเฉพาะหากไปเที่ยวในวันธรรมดาหรือไปเที่ยวในช่วงหน้าฝน เราจะได้สัมผัสกับบรรยากาศอันสุดฟินและวิถีสโลว์ไลฟ์อันทรงเสน่ห์ ที่แสดงถึงความเป็นตัวตนแห่งวิถีเชียงคานอย่างชัดเจน ชวนให้ประทับใจ และชวนให้หลงรักเชียงคานมากยิ่งขึ้น