xs
xsm
sm
md
lg

รู้จัก "คุกตวลสเลง" ย้อนรอยความโหดเหี้ยม ยุคเขมรแดงเรืองอำนาจ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หลายคนอาจเคยได้ยินเรื่องราวสุดสะเทือนใจ เกี่ยวกับเหตุการณ์ความโหดร้ายของกลุ่มคนที่ทำร้ายเพื่อนมนุษย์ด้วยกันอย่างทารุณในกัมพูชา ที่ยังคงฝังลึกจนต้องขวัญผวา และเล่าสู่กันมาจนถึงทุกวันนี้ กับ "คุกตวลสเลง" หรือ "พิพิธภัณฑ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ตวลเสลง" อนุสรณ์รำลึกถึงเหตุการณ์อันหดหู่ที่เต็มไปด้วยการนองเลือด

พิพิธภัณฑ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ตวลสเลง เป็นสถานที่รำลึกของ Security Office 21 (S-21) ของกัมพูชาประชาธิปไตย (หรือที่รู้จักในชื่อระบอบการปกครองของเขมรแดง) ตั้งอยู่ในกรุงพนมเปญที่ถูกทิ้งร้าง ซึ่งพลเมืองถูกอพยพออกไปเมื่อวันที่ 17 เมษายน พ.ศ.2518




"ตวล สเลง" (Tuol Sleng) เป็นชื่อของคุกสมัยที่เขมรแดงครองประเทศ โดยมีชื่ออีกอย่างหนึ่งว่า S-21 (Security Office 21) เป็นสถานที่ใช้กักขังและขู่เข็ญคนที่คิดว่าเป็นศัตรู หรือเป็นกบฏต่อประเทศชาติและรัฐบาล ในทุกภูมิภาค ทุกระดับชั้น รวมถึงประเทศเพื่อนบ้าน โดยจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้ผู้ถูกคุมขังสารภาพผิด และลงท้ายด้วยการฆ่า


เดิมนั้นสถานที่แห่งนี้เคยเป็นโรงเรียนมัธยม สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2505 บนพื้นที่ขนาด 600 x 400 เมตร หลังรั้วโรงเรียนมีอาคารไม้สองหลังหลังคามุงจาก หนึ่งในนั้นเคยเป็นโรงเรียนประถมตวลสเลง ต่อมาอาคารเหล่านี้รวมกันเป็นคุก S-21 เพื่อใช้ในการสอบสวนผู้ต้องขัง จากห้องเรียนกลายเป็นห้องขังและห้องทรมาน พื้นที่โดยรอบถูกล้อมรอบด้วยลวดหนามของทุกส่วนของอาคาร ป้องกันไม่ให้นักโทษที่สิ้นหวังฆ่าตัวตาย ที่ชั้นล่างของอาคาร A จากห้องเรียนหนึ่งห้องถูกแบ่งออกเป็นสองห้องเพื่อกักขังเขมรแดงระดับสูงที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นคนทรยศ ส่วนในอาคาร B, C และ D เดิมเป็นห้องเรียนชั้นล่างถูกแบ่งออกเป็นห้องเล็กๆ แต่ละห้องมีขนาด 0.8 x 2 เมตร ซึ่งสร้างด้วยอิฐ และที่ชั้นล่างสร้างด้วยไม้ เป็นห้องขังขนาดเล็กออกแบบมาสำหรับนักโทษเดี่ยว ชั้นสองมีห้องที่ใหญ่กว่าซึ่งกักขังนักโทษได้มากถึง 40 หรือ 50 คน ห้องหนึ่งทำหน้าที่เป็นสำนักงาน และอีกห้องหนึ่งเป็นสำนักงานสำหรับเอกสารและธุรการทั่วไป รวมทั้งถูกนำมาใช้ในการสอบสวนและทรมาน


เมื่อนักโทษที่ถูกคุมขังมาอยู่ที่นี่ จะถูกถ่ายภาพและโดนบังคับให้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและเครือข่ายของพวกเขา ซึ่งพวกเขาต้องให้รายละเอียดชีวประวัติ เริ่มตั้งแต่วัยเด็กและสิ้นสุดด้วยวันที่ถูกจับกุม นักโทษถูกบังคับให้เปลื้องผ้า ทรัพย์สินส่วนตัวทั้งหมดของพวกเขาถูกยึด จากนั้นพวกเขาก็ถูกนำตัวไปที่ห้องขังของพวกเขา พวกที่อยู่ในห้องขังเล็กๆ ถูกล่ามโซ่ไว้กับพื้น ในห้องขนาดใหญ่ที่ไม่มีกำแพง นักโทษถูกล่ามโซ่โดยใช้ท่อนเหล็กหลายชุด นักโทษนอนโดยหันศีรษะไปในทิศทางตรงกันข้ามเพื่อป้องกันการสื่อสาร ห้ามพูดคุยในหมู่นักโทษ




โดยนักโทษเหล่านี้นอนบนพื้นเปล่าโดยไม่มีเสื่อ มุ้ง หรือผ้าห่ม และทุกคนต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ที่เข้มงวด มิฉะนั้นพวกเขาจะถูกลงโทษด้วยการเฆี่ยนตีหรือไฟฟ้าช็อต และจะไม่ได้รับการอนุญาตให้กรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด การกระทำใดๆ ของนักโทษแม้กระทั่งการลุกขึ้นนั่ง พลิกตัว หรือผ่อนคลายตัวเอง จำเป็นต้องได้รับอนุญาตจากทหารของเขมรแดง สภาพเรือนจำที่มีผู้คนพลุกพล่านและสุขอนามัยไม่ดี ทำให้เกิดการระบาดของโรคตามมา




ผู้สอบปากคำบังคับให้ผู้ต้องขังรับสารภาพตามข้อกล่าวหาผ่านการทรมาน รูปแบบการทรมานที่ใช้ ได้แก่ ไฟฟ้าช็อต, การจมน้ำในถังน้ำ และแขวนคอด้วยเชือกมัดมือไว้ด้านหลังจนหมดสติ หลังจากรับสารภาพแล้ว นักโทษก็ถูกประหารชีวิต




ปัจจุบัน พื้นที่ของคุกตวลสเลงถูกแปรเปลี่ยนให้เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ผ่านบาดแผลและร่องรอยความเจ็บปวดทั้งทางกายและจิตใจ สู่บทเรียนที่ควรค่าแก่การศึกษาสำหรับคนรุ่นหลัง เพื่อยับยั้งต่อต้านไม่ให้เกิดสงครามขึ้นอีก ในนาม "พิพิธภัณฑ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ตวลเสลง"


พิพิธภัณฑ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ตวลเสลง ตั้งอยู่ที่ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เปิดให้ชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น. มีค่าเข้าชม ชาวต่างชาติ ราคา 5 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ



สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline


กำลังโหลดความคิดเห็น