ไม อัล-ไคลา รัฐมนตรีสาธารณสุขปาเลสไตน์ กล่าวหากองกำลังอิสราเอล กำลังฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในกาซา ยิงระเบิดที่บรรจุฟอสฟอรัสขาว ซึ่งเป็นอาวุธต้องห้ามใส่โรงพยาบาลใหญ่ที่สุดของฉนวนแห่งนี้ ขณะที่สถานการณ์ ณ โรงพยาบาลแห่งนี้อยู่ในภาวะวิกฤตอยู่ก่อนแล้ว มีเด็กแรกคลอดต้องมาเสียชีวิตเนื่องจากไฟดับอันเป็นผลกระทบของสงคราม และทารกอีก 39 รายตกอยู่ในความเสี่ยง
"นี่คืออาวุธต้องห้ามของนานาชาติ เราสงสัยว่าใครจะลงโทษอิสราเอล กรณีที่ยิงปืนใหญ่พร้อมฟอสฟอรัสขาวใส่โรงพยาบาลอัล-ชิฟา" เธอกล่าวระหว่างแถลงข่าว พร้อมระบุกองกำลังอิสราเอลกำลังฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในฉนวนกาซา "จากการเสียชีวิตอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ได้กลายมาเป็นชะตากรรมของคนไข้ในโรงพยาบาลต่างๆ ในฉนวนกาซาแล้ว และเราชี้ความรับผิดชอบไปที่อิสราเอล สหประชาชาติ และประชาคมนานาชาติ"
ก่อนหน้านี้ กลุ่มสิทธิมนุษยชนหลายแห่งออกมากล่าวหา อิสราเอลใช้ฟอสฟอรัสขาวในฉนวนกาซาและเลบานอน ในเดือนที่ผ่านมา แต่อิสราเอลปฏิเสธคำกล่าวหาดังกล่าว
ระหว่างแถลงข่าวที่ด้านนอกโรงพยาบาลอัล-นาสเซอร์ ในเขตคาน ยูนิส ของกาซา แพทย์รายหนึ่งเรียกร้องประชาคมนานาชาติหยุด "อาชญากรรมสงคราม" ที่เกิดขึ้นกับโรงพยาบาลต่างๆ ในฉนวนแห่งนี้ "ตอนนี้เรากำลังวิงวอนทั่วโลก ถ้าสติรู้ผิดรู้ชอบใดๆ กรุณาดำเนินการเสียที" เขากล่าว "นักการเมืองคนไหนในโลกที่บอกว่าไม่อาจถาโถมแรงกดดันเข้าใส่พวกก่ออาชญากรรมสงคราม ที่โจมตีใส่โรงพยาบาลต่างๆ มือของพวกเขาเหล่านั้นก็คงกำลังเปื้อนเลือดอยู่"
เขากล่าวว่าโรงพยาบาลอัล-ชิฟา ที่ถูดปิดล้อมในกาซา ซิตี กำลังประสบปัญหาขาดแคลนเจ้าหน้าที่และอยู่บนขอบเหวของการพังครืน "ตอนนี้น้ำไม่ไหล ไฟฟ้าไม่มีใช้" เขากล่าว "ประตูโรงพยาบาลยังเปิดอยู่ แต่เราไม่อาจมอบความช่วยเหลือทางการแพทย์แก่คนไข้ของเราได้ เรื่องแบบนี้ต้องหยุดเดี๋ยวนี้ เราไม่อาจปล่อยให้อาชญากรรมสงครามเช่นนี้เกิดขึ้นต่อไปได้อีกแล้ว"
ส่วน อัชราฟ อัล-กิดรา โฆษกกระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์ ซึ่งเป็นตัวแทนของกระทรวงสาธารณสุขในกาซา ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของฮามาส กล่าวว่า "สถานการณ์เลวร้ายกว่าที่ทุกคนจินตนาการ เราถูกปิดล้อมอยู่ภายในศูนย์การแพทย์อัล-ชิฟา และพวกผู้ยึดครองเล็งเป้าเล่นงานภายในตัวอาคารเกือบทั้งหมดที่อยู่ภายใน"
กองทัพอิสราเอล ซึ่งพวกชาวบ้านเล่าว่าได้สู้รบกับกลุ่มมือปืนของฮามาสตลอดทั้งคืน ทั้งในและรอบๆ กาซา สถานที่โรงพยาบาลตั้งอยู่ ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับคำกล่าวอ้างของโฆษกกระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์
ก่อนหน้านี้ กองทัพอิสราเอลอ้างว่าพวกนักรบฮามาส ที่อาละวาดจู่โจมเล่นฆ่าผู้คนในทางภาคใต้ของอิสราเอลเมื่อเดือนที่แล้ว ได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการต่างๆ อยู่ใต้โรงพยาบาลอัล-ชิฟา และโรงพยาบาลอื่นๆ ในกาซา ทำให้โรงพยาบาลเหล่านั้นเสี่ยงถูกพิจารณาว่าเป็นเป้าหมายด้านการทหาร
ฮามาสปฏิเสธว่าไม่ได้ใช้พลเมืองเป็นโล่มนุษย์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขบอกว่าการยกระดับโจมตีหนักหน่วงขึ้นของอิสราเอล ทั้งใส่โรงพยาบาลหรือใกล้โรงพยาบาล ก่อความเสี่ยงแก่คนไข้ เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์และผู้ลี้ภัยหลายพันคน ที่เข้ามาหลบภัยสงครามทั้งในและใกล้อาคารโรงพยาบาล
นอกจากนี้ โฆษกกระทรวงสาธารณสุขปาเลสไตน์ เผยด้วยว่า มีพลซุ่มยิงแอบซุ่มอยู่บนดาดฟ้าของอาคารต่างๆ ใกล้โรงพยาบาล และยิงเข้าใส่โรงพยาบาลแห่งนี้อย่างต่อเนื่อง ทำให้การเคลื่อนย้ายทางการแพทย์และประชาชนทำได้อย่างยากลำบาก
ฮามาสปฏิเสธว่าพวกเขาไม่ได้ใช้โรงพยาบาลเพื่อจุดประสงค์ทางทหาร และขอให้สหประชาชาติและคณะกรรมการกาชาดสากล ส่งคณะผู้แทนมายังโรงพยาาลอัล-ชิฟา เพื่อตรวจสอบคำกล่าวหาของอิสราเอล
"โรงพยาบาลต้องระงับปฏิบัติการหลังจากเชื้อเพลิงหมด" กิดรา กล่าว "ผลก็คือ ทารกแรกคลอดรายหนึ่งเสียชีวิตภายในห้องให้ความอบอุ่นทารก ซึ่งมีทารกอยู่ 45 คน" อัล-กิดรา ระบุ
เบื้องต้น กระทรวงสาธารสุขปาเลสไตน์ ซึ่งตั้งอยู่ในเวสต์แบงก์ ดินแดนที่ถูกอิสราเอลยึดครอง ซึ่งถูกอิสราเอลแยกออกจากกาซาและบริหารงานโดยรัฐบาลที่เป็นคู่ปรับกับฮามาส เผยว่ามีเด็กเสียชีวิต 39 ราย สืบเนื่องจากขาดแคลนออกซิเจนหรือยารักษา รวมถึงไฟฟ้าถูกตัด ก่อนต่อมาได้แก้ไขข้อมูล โดยบอกว่ามีเด็กทารกเสียชีวิต 1 ราย และอีก 39 คนตกอยู่ในความเสี่ยง
"ทารกแรกคลอด 39 คนที่โรงพยาบาลอัล-ชิฟา เสี่ยงเสียชีวิตได้ทุกเวลา และหนึ่งในนั้นเสียชีวิตแล้วในตอนเช้าวันนี้ ความล้มเหลวในการนำเชื้อเพลิงป้อนสู่โรงพยาบาลต่างๆ เท่ากับเป็นการลงโทษประหารชีวิตทารกที่เหลือ ตู้ให้ความอบอุ่นทารกจะสามารถใช้งานได้แต่จนถึงเย็นวันนี้ หลังจากนั้นเชื้อเพลิงก็จะหมดลง เรากำลังหาทางช่วยเด็กๆ ให้มีชีวิตรอด แต่เราเกรงว่าเราอาจสูญเสียพวกเขาไปหลายคนในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า โรงพยาบาลไม่มีไฟฟ้าใช้โดยสิ้นเชิง"
(ที่มา : เอเอฟพี/รอยเตอร์)
