รองนายกรัฐมนตรีเบลเยียม เมื่อวันพุธ (8 พ.ย.) เรียกร้องให้ทางรัฐบาลเบลเยียม บังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรเล่นงานอิสราเอล และทำการสืบสวนกรณีการทิ้งระเบิดใส่โรงพยาบาลและค่ายผู้ลี้ภัยในฉนวนกาซา
"นี่คือเวลาแห่งการคว่ำบาตรอิสราเอล ห่าฝนแห่งระเบิดคือสิ่งที่ไร้มนุษยธรรม" รองนายกรัฐมนตรีเปตรา เดอ ซุตเตอร์ ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น "มันชัดเจนว่า อิสราเอล ไม่แคร์เกี่ยวกับเสียงร้องขอข้อตกลงหยุดยิงของนานาชาติ" เธอกล่าว
อิสราเอลเดินหน้าโจมตีใส่ฉนวนกาซาอย่างไม่รามือ แก้แค้นเหตุนักรบฮามาสบุกจู่โจมทางใต้ของอิสราเอล เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม สังหารผู้คนไป 1,400 ราย ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน และจับตัวประกันไปราว 240 คน
เจ้าหน้าที่ปาเลสไตน์ เปิดเผยว่า มีผู้คนเสียชีวิตจากปฏิบัติการโจมตีแก้แค้นของอิสราเอลแล้วมากกว่า 10,000 คน ในนั้น 40% เป็นเด็ก ส่งผลให้สงครามครั้งนี้ดำดิ่งกลายเป็นฉากแห่งการนองเลือดครั้งเลวร้ายที่สุด ในความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ ที่ยืดเยื้อมานานหลายชั่วอายุคน
ซุตเตอร์ ยังเรียกร้องให้สหภาพยุโรปควรระงับข้อตกลงคบค้าสมาคมกับอิสราเอลในทันที ในขณะที่ข้อตกลงนี้มีเป้าหมายยกระดับความร่วมมือทั้งทางเศรษฐกิจและการเมือง
นอกจากนี้ เธอยังเรียกร้องให้ดำเนินการแบนนำเข้าผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่มาจากดินแดนปาเลสไตน์ที่อยู่ภายใต้การยึดครอง และบอกว่าพวกตั้งถิ่นฐานที่ใช้ความรุนแรง เหล่านักการเมืองและบรรดาทหารที่อยู่เบื้องหลังการก่ออาชญากรรมสงครามควรถูกแบนจากการเดินทางเข้าสู่อียู
ในขณะเดียวกัน ซุตเตอร์ แนะนำให้เบลเยียม ควรเพิ่มเงินทุนสนับสนุนศาลอาญาระหว่างประเทศในเมืองเฮก ในการเข้าสืบสวนเหตุทิ้งบอมบ์ถล่มกาซา และหาทางตัดกระแสเงินทุนที่ป้อนแก่กลุ่มฮามาสไปพร้อมๆ กัน
"นี่คือองค์กรก่อการร้าย ก่อการร้ายต้องใช้ทุน และจำเป็นต้องมีการคว่ำบาตรบุคคลและบริษัทต่างๆ ที่มอบเงินแก่ฮามาส" ชุตเตอร์กล่าว
ท่ามกลางสงครามที่เวลานี้ยืดเยื้อเข้าสู่เดือนที่ 2 แล้ว ทางเจ้าหน้าที่สหประชาชาติและกลุ่มจี7 ส่งเสียงเรียกร้องหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ขอให้หยุดยิงเพื่อมนุษยธรรม เพื่อบรรเทาความทุกข์ทรมานของผู้คนในฉนวนกาซา ดินแดนที่อาคารต่างๆ พังราบเป็นหน้ากลองและเสบียงปัจจัยพื้นฐานต่างๆ กำลังหมดลง
(ที่มา : รอยเตอร์)