xs
xsm
sm
md
lg

"หมู่บ้านชิราคาวาโกะ" เที่ยวหมู่บ้านมรดกโลกญี่ปุ่น ภูมิปัญญามนุษย์ผู้เรียนรู้อยู่กับธรรมชาติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ฤดูหนาวของญี่ปุ่นในช่วงต้นปีไม่เพียงแต่พัดพาความเย็นยะเยือกมาสู่ “ชิราคาวาโกะ” แต่ยังหอบหิ้วหิมะหนามาห่มคลุมให้หมู่บ้านมรดกโลกเปลี่ยนเป็นสีขาวโพลนไปทั่วทั้งหุบเขา ก่อเกิดความงดงามของทัศนียภาพที่หลายคนหลงใหล พร้อมตอกย้ำให้เห็นถึงภูมิปัญญาของมนุษย์ที่ปรับตัวอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างน่าอัศจรรย์



ชิราคาวาโกะ (Shirakawa-go) เป็นหมู่บ้านงามกลางหุบเขาที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัดกิฟุ ในบริเวณภาคกลางของญี่ปุ่น โดยชื่อ “ชิราคาวาโกะ” มาจากชื่อดั้งเดิมของภูมิภาคที่ใช้ในสมัยโบราณ หมู่บ้านแห่งนี้โอบล้อมด้วยภูเขากับป่าธรรมชาติโดยมีแม่น้ำโชคาวะไหลผ่าน และมีอาณาเขตครอบคลุมไปถึงอุทยานแห่งชาติ Hakusan และ Amo Prefectural Nature Park ซึ่งยังมีธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ปราศจากการถูกรบกวน

ลักษณะภูมิอากาศที่สำคัญอย่างหนึ่งของชิราคาวาโกะ คือ มีหิมะตกหนักตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงมีนาคม ซึ่งมีความหนาประมาณ 2 ถึง 3 เมตร (เคยมีบันทึกปริมาณหิมะสูงถึง 4.5 เมตร) ทำให้ในอดีตเคยได้รับการขนานนามว่าเป็นภูมิภาคที่ตกสำรวจ เพราะภูมิประเทศที่เป็นภูเขาโดยรอบนั้นถูกตัดขาดจากโลกภายนอกด้วยหิมะ

สะพานข้ามแม่น้ำไปยังหมู่บ้าน
หมู่บ้านแห่งนี้ปรากฏร่องรอยชีวิตมนุษย์ที่พบจากโบราณวัตถุซึ่งมีอายุนับพันปีก่อนคริสตกาล มีการขุดพบเครื่องปั้นดินเผาหลายชิ้น ส่วนชื่อ “ชิราคาวาโกะ” ปรากฏขึ้นครั้งแรกในบันทึกประวัติศาสตร์ราวปี ค.ศ. 1176 โดยเชื่อกันว่าใช้อย่างแพร่หลายในเวลานั้น เนื่องจากปรากฏในบันทึกประจำวันของขุนนางในเมืองเกียวโต


สำหรับสิ่งสำคัญอันเป็นเอกลักษณ์ของหมู่บ้านที่แสดงให้เห็นภูมิปัญญาของมนุษย์ซึ่งปรับตัวอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างกลมกลืน คือ การสร้างบ้านในรูปแบบ “กัชโช-ทสึคุริ" (Gasshou-Tsukuri) ที่มีหลังคาขนาดใหญ่อันโดดเด่น ซึ่งคำว่า “กัชโช” ในภาษาญี่ปุ่นหมายถึงการพนมมืออธิษฐาน

รูปทรงหลังคาบ้านในหมู่บ้านกลางหุบเขา จึงมีลักษณะคล้ายการพนมมือ โดยสร้างจากคานไม้ที่รองรับหลังคาที่มีลักษณะลาดเอียงสูงราว 60 องศา เป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมหลังคาจั่วที่เรียกว่าโครงสร้าง “sasu” ซึ่งปรับให้เข้ากับสภาพธรรมชาติป้องกันหิมะทับถมลงมาเรื่อยๆในช่วงฤดูหนาว

นอกจากนี้ โครงสร้างบ้านหันไปทางทิศเหนือกับทิศใต้ เพราะคำนึงถึงทิศทางลม เพื่อลดแรงต้านลมให้เหลือน้อยที่สุด ขณะเดียวกันก็ควบคุมปริมาณแสงแดดที่ส่องกระทบหลังคา เพื่อให้ฤดูร้อนนั้นเย็นสบาย ขณะที่ฤดูหนาวจะมีอากาศอุ่นขึ้น ส่วนจุดเด่นอีกด้าน คือ การสร้างบ้านจากวัสดุธรรมชาติโดยไม่มีการตอกตะปู แต่ใช้วิธีการเข้าไม้ เข้าลิ่ม เข้าเดือย เชือกรัด รวมถึงฟางมัดรวมกันหลายชั้น

บ้านโบราณสามหลัง จุดถ่ายภาพยอดนิยม
แม้ว่าบ้านมีความมั่นคงแข็งแรง แต่หลังคามุงวัสดุธรรมชาติของบ้านสไตล์กัสโชมีการเสื่อมสภาพไปตามกาลเวลา อย่างไรก็ตามก็สามารถใช้ได้ทนทานยาวนานถึง 20-30 ปี โดยหากมีการเปลี่ยนหลังคา จะมีประเพณีที่ชาวบ้านมาร่วมมือกันเรียกว่า ยูอิ (Yui) ซึ่งผู้เข้าร่วมจะมีบทบาทแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับทักษะและประสบการณ์ของแต่ละคน ผู้อาวุโสที่สุดมักดูแลงานในภาพรวม ส่วนชาวบ้านที่อายุน้อยกว่าจะได้รับมอบหมายให้ส่งมัดหญ้าให้ช่างมุงหลังคา หรือทำความสะอาด ส่วนสมาชิกในครอบครัวเจ้าของบ้านจะคอยเสิร์ฟอาหารให้คนงานระหว่างวัน และร่วมกับชาวบ้านคนอื่นๆ ในการเตรียมงานฉลองในท้องถิ่นที่เรียกว่า นาโอไร (Naorai) สำหรับผู้เข้าร่วมทุกคนเมื่อหลังคาใหม่เสร็จสมบูรณ์


การออกแบบบ้านสไตล์กัสโชของชิราคาวาโกะ นับว่าได้รับความสนใจจากทั่วโลก โดย “Bruno Taut” สถาปนิกสไตล์มินิมอลชาวเยอรมันชื่อดัง ได้กล่าวว่างานเขียนเกี่ยวกับการออกแบบสไตล์กัสโชเป็นแรงบันดาลใจเบื้องหลังหนังสือ “The Re-discovery of Japanese Beauty” ของเขาอีกด้วย พร้อมทั้งยังกล่าวชื่นชมว่า ทิวทัศน์ของชิราคาวาโกะนั้น ราวกับเป็นความงดงามของสวิตเซอร์แลนด์


ปัจจุบัน หมู่บ้านชิราคาวาโกะ เหลือบ้านโบราณจากอดีตเพียงครึ่ง แต่ก็ยังมากเพียงพอที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว จนกล่าวได้ว่าเป็นหมู่บ้านสไตล์ย้อนยุคที่มีชื่อเสียงในระดับแนวหน้าของญี่ปุ่น และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกเมื่อปี ค.ศ. 1995 ในนาม “หมู่บ้านประวัติศาสตร์แห่งชิราคาวาโกะ และโกคายามะ” (ร่วมกับหมู่บ้านโกคายามะ) แต่ชิราคาวาโกะนั้นเดินทางสะดวก จึงได้รับความนิยมมากกว่า

 ศาลเจ้า ชิรากาวะ ฮาจิมัง (Shirakawa Hachiman)
แม้ว่าความงดงามของหมู่บ้านนั้น เปลี่ยนแปลงไปในทุกฤดูกาลงดงามไม่ซ้ำกัน น่าประทับใจในทุกฤดูกาล แต่ในฤดูหนาว ถือเป็นช่วงพีคซีซั่นของการท่องเที่ยว เพราะนอกจากฉายภาพความงดงามแปลกตาด้วยหิมะขาวโพลนไปทั่วแล้ว ยังมีเทศกาลแสดงแสงสียามค่ำคืน และสำคัญที่สุด คือ การเป็นช่วงเวลาที่แสดงให้เห็นความเป็นเลิศในภูมิปัญญาของมนุษย์ที่เรียนรู้อยู่กับธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ได้อย่างชัดเจน

ทัศนียภาพจากจุดชมวิว เท็นชุคาคุ (Tenshukaku)
ข้อมูลการเดินทางไปหมู่บ้านชิราคาวาโกะ
มีสองรูปแบบ ได้แก่ เช่ารถขับไปเอง หรือรถบัสโดยสาร ซึ่งมี 3 เส้นทางให้เลือก ได้แก่ เดินทางจาก คานาซาว่า (Kanazawa), ทาคายาม่า (Takayama) หรือ ชิน ทาคาโอกะ (Shin Takaoka)

ทัศนียภาพจากจุดชมวิว เท็นชุคาคุ (Tenshukaku)
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR และ Instagram : @travelfoodonline และ TikTok : @travelfoodonline




กำลังโหลดความคิดเห็น