อุทยานแห่งชาติผาแต้ม จ. อุบลราชธานี เป็นอุทยานแห่งชาติที่มีขอบเขตอุทยานฯด้านตะวันออก ที่เป็นแนวหน้าผาทั้งหมด แล้วเป็นแนวหน้าผาที่คู่ขนานไปกับแม่น้ำโขง ไม่ว่าจะไปฝั่งไหน ด้านใดก็จะเห็นวิวทิวทัศน์ของแม่น้ำโขงจากบนหน้าผาสูงอยู่ตลอดเวลา
การเกิดหน้าผาสูงตลอดแนวแม่น้ำโขงนี้มาจากการที่แผ่นเปลือกโลกเคลื่อนที่มาเบียด ชนกันทำให้หินทรายที่ตกตะกอนจนหินเป็นชั้นต่าง ๆ (ซึ่งจะเห็นชัดเจนตามแนวตัดของหน้าผาต่าง ๆว่าชั้นมันไม่เหมือนกัน) ถูกยกตัวขึ้นมาด้วย พอหินทรายมันถูกเบียด ถูกดัน ก็มีรอยแตก สายน้ำโขงที่ไหลมาก็ค่อยๆไหลเข้ามาตามรอยแตก กัดเซาะหินทรายและพัดพาเอาหินที่แตกหักออกไป เป็นแบบนี้อยู่นับแสนนับล้านปีจนกัดเซาะหน้าผาสองฝั่ง จนกลายเป็นแม่น้ำโขง
ในขณะเดียวกันสายน้ำก็รวมไหลจากที่สูงผ่านลานหินไหลรวมกันตกลงจากหน้าผาสู่แม่น้ำโขง ในระหว่างที่ไหลผ่านลานหิน หินทรายตรงไหนที่มีความทนทานด้วยธาตุต่าง ๆ ที่เสริมความแข็งแกร่งกว่าก็ไม่ถูกกัดเซาะคงทนสภาพ แต่ตรงไหนที่รวมตัวกันหลวมๆ ก็ถูกกัดเซาะได้ง่าย
และนี่เป็นเหตุผลปรากฏการณ์ทางธรณีบนหนทรายทั้งปวง ทั้งหินสมอง บ่อน้ำหิน หรือลักษณะแบบหินปุ่ม ตามแนวหน้าผา ก็จะเห็นร่องน้ำขนาดใหญ่ ที่สายน้ำกัดเซาะหินทรายจนเป็นร่องน้ำ อย่างเช่นระหว่างผากำปั่นกับผาชะนะได หรือบริเวณน้ำตกสร้อยสวรรค์ก็เช่นกัน แม้กระทั่งบริเวณที่เรียกว่า “ผาโสก” หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวมาแรงแห่งปี 2563 นี้ก็เช่นกัน
ผาโสก เป็นร่องน้ำลึก ที่เกิดจากสายน้ำที่กัดเซาะลานหินทราย จนเป็นร่องลึกลงไปจากลานหินเดิมตั้งแต่ 1-5 เมตร ยิ่งไปใกล้หน้าผาก็ยิ่งลึก ก่อนจะตกลงจากหน้าผาสูงร่วม 50 เมตร ลงสู่เบื้องล่างแล้วจึงไหลลงแม่น้ำโขง อยู่ระหว่างน้ำตกสร้อยสวรรค์และผาเจ๊ก ด้านล่างคือหมู่บ้านท่าล้ง ด้านเหนือของบริเวณผาแต้ม
ภาพที่ปรากฏออกสู่สายตาภายนอกคือ แอ่งหินที่มีแนวยาวไปตามร่องน้ำไหลลงจากหน้าผาสูงที่มีฉากหลังเป็นทิวทัศน์แม่น้ำโขง แล้วคนลงไปแช่น้ำ เลยเรียกกันว่า “อ่างจากุชชี่ธรรมชาติ” จนเป็นที่ฮือฮาของนักท่องเทียวสายรักธรรมชาติทั้งหลาย มาวันนี้เราจะได้ไปเยือนผาโลกกัน
ผาโสกก็เหมือนกับน้ำตกบนลานหินทั่วไปที่พอฝนไม่ตก สายน้ำก็จะเริ่มหาย แม้ป่าของอุทยานแห่งชาติจะยังเป็นป่าสมบูรณ์ยังไม่ถูกบุกรุก แต่ก็เป็นป่าเต็งรังสลับลานหิน น้ำไม่สามารถซึมลงไปในดินได้ ฝนที่ตกลงมาบนลานหินก็ไม่ต่างอะไรจากที่ตกลงบนหลังคาบ้าน ฝนตกลงมาก็ไหลมารวมกันลงสู่ที่ต่ำสายน้ำจึงได้กัดเซาะลานหินทรายจนเป็นรูปร่างต่าง ๆ
ด้วยเหตุนี้ผาโสกจึงมีความสวยงามน่าตื่นตาตื่นใจ และน่าไปนอนแช่อ่างจากุชชี่หินริมหน้าผาเฉพาะในช่วงหน้าฝน ส่วนในหน้าแล้งเมื่อน้ำเหือดแห้งก็จะกลายเป็นเพียงแอ่งหินแห้งขอดธรรมดา ซึ่งทาง อช.ผาแต้ม จะเปิดผาโสกให้เที่ยวเฉพาะช่วงหน้าฝนที่มีน้ำราว กรกฎาคม-ตุลาคมหรือพฤศจิกายน ส่วนพอถึงหน้าแล้งก็จะปิดเนื่องจากไม่มีน้ำ และให้ธรรมชาติฟื้นตัว
ผาโสกมีทางขึ้นหลัก 2 ทาง หนึ่งคือเดินเท้าจากบ้านท่าล้ง ขึ้นมาบนหน้าผา ระยะเดินเท้าราว 3 กิโลเมตร อีกทางหนึ่งคือใช้รถยนต์เข้ามาตามทางลำลองที่ทางค่อนข้างสมบุกสมบัน เข้าไปเป็นระยะทางราว 6 กิโลเมตร แล้วเดินเท้าราว 300 เมตร
นอกจากนี้ก็ยังมีอีกวิธีหนึ่ง ซึ่งกลุ่มนักเดินป่านิยมกัน คือ การเดินเท้าจากหน่วยฯน้ำตกสร้อยสวรรค์ ผ่านผาต่าง ๆ ไปจนถึงผาโลก แล้วลงสู่บ้านท่าล้ง หรือ จะเดินเลียบผามาผ่านผาเจ๊ก ผาเมย ไปจนถึงผาแต้มก็ได้เช่นกัน ซึ่งนักท่องเที่ยวแนวเดินป่าจะชอบเพราะไม่มีเดินขึ้นเขาชัน เดินไปบนลานหนสลับป่าและเจอจุดชมวิวไปตลอดทาง
อย่างไรก็ดีเส้นทางนี้อาจจะต้องค้างคืน 1-2 คืน ก็แล้วแต่จะกำหนดเอาตามสะดวก แต่สำหรับคนที่ตั้งใจมาน้ำตกผาโสก มักจะมาพักแรม อย่างน้อยก็หนึ่งคืน
สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะมาพักแรมหรือมาเที่ยวที่ผาโสก เมื่อติดต่ออุทยานแห่งชาติผาแต้มและแจ้งการเดินทางแล้วว่าจะไปแบบใด ทางอุทยานฯจะจัดคนนำทางให้ เช่น ถ้าขึ้นจากบ้านท่าล้งจะมีมัคคุเทศก์ที่ผ่านการอบรมกับอุทยานฯนำขึ้นมา หรือถ้าเข้าทางรถยนต์ก็จะมีมัคคุเทศก์ท้องถิ่นอีกกลุ่มหนึ่งนำข้ามา แต่ถ้าเป็นการเดินป่าจากหน่วยฯสร้อยสวรรค์ มักจะเป็นเจ้าหน้าที่อุทยานฯนำทาง
โดยบริเวณผาโสกนั้น นอกจากจะมีร่องหินลึกแล้ว ด้านบนจะมีสระน้ำเล็ก ๆ น้ำใสแจ๋ว มีสาหร่ายหัวไม้ขีดออกดอกสวยงาม รอบข้างเป็นลานหินกว้าง และลานหินชมวิวแม่น้ำโขง
ใกล้กันจะเป็นหน้าผาสูง ที่มีแผ่นหินยื่นออกไปยังไม่มีการตั้งชื่อหน้าผา ส่วนลานหินด้านบนจะเป็นลานหินกว้าง มีบรรดาดอกไม้ดินออกดอกกันในช่วงตุลาคม-พฤศจิกายน
และที่น่าในใจคือ จะมีก้อนหินที่เป็นศิลาแลงกระจัดกระจายในพื้นที่อย่างมาก ซึ่งไม่ค่อยเห็นที่ใดที่มีศิลาแลงอยู่ปะปนกับหินทรายบ่อยนัก
อย่างไรก็ดีหินทรายนั้นก็เป็นหินตะกอนที่มันสะสมตัวกันในทางน้ำไหลหรืออะไรในแนวนี้มาก่อน ศิลาแลงก็เช่นกันเป็นการสะสมตัวในขณะที่หินทรายยังมีน้ำมาเป็นปัจจัยหลักแล้วมีระดับน้ำที่ขึ้นลงเป็นระยะ ๆ เมื่อหินทรายถูกยกตัวขึ้นก็นำพาเอาศิลาแลงพวกนี้ขึ้นมาด้วย ศิลาแลงที่พบเห็นที่ผาโสกจึงเป็นศิลาแลงรุ่นเก่า
สำหรับผาโสกที่เป็นอ่างเพราะมีการเอาปูนมากั้นปากทางที่ไหลลงหน้าผาไว้ เพื่อกักเก็บน้ำไว้ให้นานที่สุดเป็น เราจึงเห็นมันกลายเป็นอ่างน้ำนั่นเอง
และนี่ก็คือมนต์เสน่ห์ของผาโสกที่จะสวยงามน่าแช่น้ำในช่วงหน้าฝน และจะแห้งขอดในช่วงหน้าแล้ง ซึ่งวันนี้ถือเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวน้องใหม่มาแรงแห่งปี 2563 ซึ่งวันนี้ พื้นที่ของอุทยานแห่งชาติต่าง ๆ มักมีการค้นพบและนำออกมาสู่สาธารณะบ่อยขึ้นมากขึ้น คนก็จะเห็นถึงความสวยงามที่ธรรมชาติสร้างสรรค์มากขึ้น
ขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวผู้มาเยือนก็ต้องช่วยกันดูแลอนุรักษ์ธรรมชาติ เพื่อส่งต่อไปยังรุ่นต่อไป ๆ ไว้ให้นานเท่านาน
######################################
หมายเหตุ : สำหรับฤดูกาลท่องเที่ยวผาโสกในปี 2563 นี้ ได้สิ้นสุดลงแล้ว โดยอุทยานแห่งชาติผาแต้ม ได้ประกาศปิดฤดูการท่องเที่ยวผาโสก ในวันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563 เป็นต้นไป
ทั้งนี้เนื่องจาก แหล่งท่องเที่ยวดังกล่าว มีลักษณะเป็นแหล่งท่องเที่ยวตามฤดูกาล สามารถทำการท่องเที่ยวได้ในช่วงเวลาหน้าน้ำ ประมาณเดือน กรกฎาคม – พฤศจิกายน (ตามที่ได้กล่าวมาในบทความ)
ปัจจุบันแหล่งน้ำบริเวณผาโสก แห้งขอด ไม่มีการไหลของน้ำ สภาพน้ำไม่เหมาะสมแก่การเล่นเป็นอย่างยิ่ง อาจเป็นอันตรายแก่นักท่องเที่ยวได้ อีกทั้งเป็นการปิดพื้นที่เพื่อให้ธรรมชาติได้มีการพักฟื้นฟูตัวเอง จึงแจ้งมาเพื่อโปรดทราบ และประชาสัมพันธ์ให้ทราบโดยทั่วกัน
ส่วนการท่องเที่ยวผาโสกในฤดูกาลปี 2564 ทางอุทยานแห่งชาติผาแต้ม จะประกาศให้ทราบภายหลังในปีหน้า
ผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ อุทยานแห่งชาติผาแต้ม 0-4525-2581