ปี 2563 นี้ถือเป็นปีที่เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตคนไทยไปอย่างมากมาย เพราะโรค “โควิด-19” เข้ามาทำให้คนไทยได้รู้จักกับสิ่งใหม่ๆ (ที่ไม่ได้อยากรู้จัก) ไม่ว่าจะเป็นโรคอุบัติใหม่ วิถีชีวิตแบบปกติใหม่ (New Normal) คำศัพท์ใหม่อย่าง การเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) การกักตัวดูอาการป่วย (Quarantine) ซึ่งเมื่อพูดถึงการกักตัว ก็นึกไปถึงสถานกักตัวของรัฐ (State Quarantine) แห่งแรกในไทย ซึ่งอยู่ที่ “สัตหีบ” นั่นเอง
ในระยะแรกของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กองทัพเรือได้รับมอบหมายจากรัฐบาลให้จัดตั้ง State Quarantine ขึ้น ณ กิจการอาคารรับรองสัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เพื่อทำหน้าที่เฝ้าระวังและดูแลผู้ที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ และต่อมาก็ได้รับผู้ที่เดินทางมาหลายคณะ อาทิ คณะจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีนคณะจากเกาหลี อิตาลี สหรัฐอเมริกา และคณะจากกลุ่ม 17 ประเทศที่มีความเสี่ยง
ภารกิจที่ทางกองทัพเรือรับมอบหมายมานี้ได้รับทั้งเสียงบ่น เสียงด่า รับทั้งคำชื่นชมและคำขอบคุณ เป็นการเรียนปรับตัวไปพร้อมๆ กันกับเสียงบ่นและคำชื่นชมนั้น แต่สิ่งที่มั่นใจในได้อย่างหนึ่งก็คือมาตรการด้านสุขอนามัยระหว่างกักตัวอยู่ที่อาคารรับรองสัตหีบนั้นมีเต็มร้อย
นาวาตรีหญิง ปฐวี บุญตานนท์ หรือ “หมอแก้ว” แพทย์ฝ่ายบริการสุขภาพ ผู้เชี่ยวชาญสาขาอายุศาสตร์ โรคติดเชื้อ โรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ หนึ่งในทีมแพทย์ทหารเรือผู้ดูแลสถานกักตัวอาคารรับรองสัตหีบ เล่าให้ฟังถึงช่วงแรกๆ ในการมาเป็น State Quarantine ว่า เรื่องนี้เป็นของใหม่ ยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน ในช่วงแรกๆ เช่นเมื่อรับคณะกลับจากเกาหลี ตอนนั้นคนยังไม่เข้าใจว่าทำไมต้องกักตัว ทำไมต้องมาอยู่ตรงนี้ ต้องมีการทำความเข้าใจ รวมถึงระบบการจัดการต่างๆ ตั้งแต่การลงทะเบียน การจัดการเข้าพักการตรวจคัดกรอง การส่งอาหารน้ำสิ่งของจำเป็นต่างๆ เรามีการพัฒนาปรับปรุงไปตามสถานการณ์เรื่อยๆ
“ที่อาคารรับรองของกองทัพเรือ เราควบคุมและป้องกันการติดเชื้อไม่ต่างเวลาอยู่ในโรงพยาบาล เราให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ หากมีใครติดเชื้อขึ้นมา เชื้อนั้นจะต้องไม่แพร่ไปสู่ผู้เฝ้าระวังด้วยกันและบุคคลากรผู้ดูแล เพราะผู้ดูแลที่อยู่หน้างานก็เป็นคนสัตหีบ กำลังพลส่วนมากที่ทำงานในนี้ก็เป็นคนสัตหีบ เขาก็ต้องกลับบ้านไปอยู่กับครอบครัว ดังนั้นถ้ากำลังพลปลอดภัย ชุมชนก็ปลอดภัย นี่เป็นสิ่งที่เรายึดถือมาตลอด”
“เสียงบ่นก็เกิดขึ้นบ้าง แต่ก็เข้าใจ เพราะการควบคุมการกักกันเหล่านี้มันขัดกับความสะดวกสบายที่เคยเป็นมา สิ่งเหล่านี้ทำให้เราได้รู้ว่า ‘มาตรฐาน’ คือสิ่งสำคัญที่สุด จะเห็นว่าการทำทุกอย่างตามหลักการ ตามมาตรฐาน และที่ต้องขอบคุณมากๆ ก็คือชาวสัตหีบที่อยู่กับเราและเข้าใจว่าสิ่งที่เราทำมันเป็นส่วนหนึ่งในการควบคุมการแพร่กระจายของโรคโควิดในไทย” หมอแก้วกล่าว
จนถึงวันนี้ที่นี่ไม่ได้ใช้เป็น State Quarantine อีกต่อไป เพราะมีโรงแรมเอกชนต่างๆ ที่เข้ามารับช่วงต่อ ที่อาคารรับรองสัตหีบนี้รับเพียงผู้กักตัวที่เป็นข้าราชการทหารเรือที่เดินทางกลับจากต่างประเทศเท่านั้น ถือได้ว่าเป็น State Quarantine แห่งแรกของประเทศไทยที่เป็นต้นแบบให้พื้นที่อื่นได้นำแนวทางการบริหารจัดการไปปฏิบัติตาม
สำหรับผู้ที่สำหรับคนที่กังวลว่า อาคารรับรองที่ใช้เป็นสถานที่กักตัว (อาคาร 3-7) หากจะเปิดรับนักท่องเที่ยวอีกครั้งจะเชื่อมั่นในเรื่องความสะอาดปลอดภัยได้มากแค่ไหน หมอแก้วกล่าวว่า เราใช้หลักการเดียวกับโรงพยาบาลที่เรียกว่า Terminal Cleaning หรือการทำความสะอาดเมื่อจำหน่ายผู้ป่วยออกไป ก็ต้องบอกว่ามั่นใจได้ เพราะห้องเหล่านี้ต้องใช้ซ้ำ เรื่องการทำความสะอาดจึงเป็นเรื่องสำคัญที่สุด โดยมีพยาบาลเป็นผู้สอนเจ้าหน้าที่ทำความสะอาด หลักการก็คือเช็ดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อตามพื้นผิวต่างๆ
ส่วนอาคารรับรองหลักคืออาคาร 1-2 นั้นปัจจุบันยังเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าพักได้ตามปกติ ไม่เคยใช้เป็นสถานที่กักตัวเฝ้าระวัง แต่หากใครยังมีความกังวลอยู่ก็คงต้องให้ความรู้ เพราะความกลัวบางทีมาจากความเชื่อ หมอแก้วกล่าวในท้ายที่สุด
และในวันนี้ หลังจากการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ จนทุกอย่างเกือบกลับมาเป็นปกติ สัตหีบก็ได้เปิดแหล่งท่องเที่ยวเพื่อต้อนรับทุกคนให้มาเยือนอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นชายหาด เกาะ และจุดท่องเที่ยวต่างๆ ภายใต้มาตรการ New Normal
และยิ่งเพิ่มความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวที่จะมาเยือนสัตหีบมากขึ้นไปอีก เมื่อการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้มอบตราสัญลักษณ์ “SHA” หรือตราสัญลักษณ์มาตรฐานด้านความปลอดภัยและสุขอนามัย (Amazing Thailand Safety and Health Administration: SHA) ที่จะมอบให้แก่แหล่งท่องเที่ยวหรือผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ได้ดำเนินการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงทั้งด้านการบริการและด้านสุขอนามัยให้เป็นไปตามมาตรการทางสาธารณสุข
หากเห็นตราสัญลักษณ์ SHA ก็มั่นใจได้ว่าที่นี่มีมาตรฐานเบื้องต้นจากกรมควบคุมโรค คือมีสุขลักษณะในอาคารและอุปกรณ์เครื่องใช้ต่างๆ มีการจัดอุปกรณ์ทำความสะอาดเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อโรค และมีการป้องกันสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน
โดยเมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2563 ที่ผ่านมา ทาง ททท. ได้มอบตรามาตรฐาน SHA ในประเภทนันทนาการและ สถานที่ท่องเที่ยว ให้แก่แหล่งท่องเที่ยวในกองทัพเรือ สัตหีบ จำนวน 4 แห่ง ได้แก่ “ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือ” ภายใต้การดูแลของหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (สอ.รฝ.) โดยที่นี่แบ่งออกเป็น “อาคารนิทรรศการ” เป็นอาคารทรงโดมหลังคารูปเต่า ภายในเล่าเรื่องราวน่ารู้เกี่ยวกับเต่าทะเล ถัดมาเป็น “บ้านเต่าทะเล” เป็นอาคารโปร่งหลังคาสูง มีสระน้ำกระจกใสซึ่งเป็นบ่อเต่าให้เราได้ชมเต่าตัวโตว่ายน้ำกันแบบชัดๆ และมี “โรงอนุบาลเต่า” เป็นบ่ออนุบาลเต่าตั้งแต่แรกเกิดให้แข็งแรงก่อนที่จะปล่อยกลับสู่ธรรมชาติ
“เกาะแสมสาร” แหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตของคนรักทะเลก็ได้รับตราสัญลักษณ์ SHA ด้วยเช่นกัน โดยพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา เกาะและทะเลไทย (เกาะแสมสาร) ภายใต้การดูแลของกองเรือยุทธการ (กร.) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทางทะเล ที่มีโลกใต้ทะเลเต็มไปด้วยความอุดมสมบูรณ์และสวยงาม มีน้ำทะเลใสและหาดทรายขาวสวยจนได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวในการไปเล่นน้ำและดำน้ำดูปะการังใต้ทะเล อีกทั้งบนแผ่นดินยังมีพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทยจัดแสดงนิทรรศการความรู้เกี่ยวกับเกาะ และเป็นจุดชมวิวเกาะแสมสารที่สวยงามอีกด้วย
“หาดทรายแก้ว” ภายใต้การดูแลของโรงเรียนชุมพล ก็ได้รับตราสัญลักษณ์ SHA โดยหาดทรายแก้วเป็นชายหาดที่ยังคงสภาพตามธรรมชาติไว้ เหนือหาดยังมีสภาพเป็นป่าชายหาดเขียวครึ้ม มีหาดทรายขาว พื้นทรายเป็นเม็ดทรายปนปะการัง น้ำทะเลใสสะอาด เหมาะสำหรับครอบครัวจะมาใช้เวลาพักผ่อนร่วมกัน
“หาดนางรำ-หาดนางรอง” ภายใต้การดูแลของฐานทัพเรือสัตหีบ (ฐท.สส.) ก็เป็นชายหาดอีกหนึ่งแห่งที่ได้รับตราสัญลักษณ์ SHA ตั้งอยู่บริเวณท่าเรือจุกเสม็ด โดย “หาดนางรำ” มีความยาวประมาณ 200 เมตร น้ำทะเลใส หาดทรายขาว มีบริเวณให้ลงเล่นน้ำได้ มีความร่มรื่นจากต้นไม้ที่ขึ้นเรียงยาวตามแนวหาด บริเวณสุดปลายหาดคือแหลมนางรำ มีรูปปั้นตัวละครในเรื่องพระอภัยมณี ทั้งนางยักษ์ผีเสื้อสมุทร พระอภัยมณี นางเงือกตั้งอยู่
แหล่งท่องเที่ยวที่กล่าวมานี้มีการดูแลด้านสุขอนามัยของผู้ที่เข้ามาเที่ยว อาทิ การจำกัดจำนวนคนเข้าชายหาด เพราะการเข้าถึงชายหาดแต่ละแห่งจะมีจุดแลกบัตรที่สามารถนับจำนวนนักท่องเที่ยวได้ หากมีคนมาเที่ยวมากเกินที่รับไหวก็อาจขอให้จอดรถรอเพื่อให้มีคนออกมาก่อน รวมทั้งขอให้มีการเว้นระยะห่างขณะอยู่ในแหล่งท่องเที่ยว การนั่งพักผ่อนบนชายหาด รวมทั้งมีเจลแอลกอฮอล์ให้ทำความสะอาดมือก่อนเข้าพื้นที่อีกด้วย
นอกจากแหล่งท่องเที่ยวทั้ง 4 แห่งที่กล่าวมานี้แล้ว ในสัตหีบก็ยังมีอีกหลายจุดท่องเที่ยวที่เข้าไปเที่ยวได้ และมีมาตรการด้านอนามัยควบคุมอยู่ทุกแห่งเช่นกัน อาทิ ศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ แหลมปู่เจ้า (ตำหนักเสด็จเตี่ย) ที่สามารถมองเห็นวิวทะเลสัตหีบได้ทั่ว หาดเตยงาม และพิพิธภัณฑ์ทหารนาวิกโยธิน ฯลฯ ที่รับรองความสะอาด ปลอดภัย เที่ยวได้มั่นใจแน่นอน
..................................
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR
