อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว เปิดให้ขึ้นลานสนภูสอยดาว แหล่งชมทุ่งดอกหงอนนาคใหญ่ที่สุดในเมืองไทย แล้วในแบบ New Normal ต้องจองล่วงหน้าผ่าน QueQ จำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวบนลานสนไม่เกิน 350 คน/วัน
อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ ประกาศเปิดแหล่งท่องเที่ยวในฤดูกาล 2563 ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 63 ที่ผ่านมา ในรูปแบบ New Normal โดยนักท่องเที่ยวต้องทำการจองผ่าน application QueQ ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ iOS และ Android โดยสามารถจองล่วงหน้าได้ 15 วัน และเมื่อมาถึงอุทยานฯภูสอยดาว ให้ดำเนินการตามขั้นตอน โดยเริ่มเปิดให้ลงทะเบียน ณ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ตั้งแต่เวลา 08.00-13.00 น.
อย่างไรก็ดี สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้ทำการจองทางออนไลน์ล่วงหน้าผ่านแอปฯ QueQ ก็ยังคงสามารถ Walk in เข้าไปเที่ยวอุทยานฯ ได้ตามปกติ ภายใต้ข้อแม้กฎ 70 : 30 โดยทางอุทยานฯ จะรับนักท่องเที่ยวที่จองผ่านแอปพลิเคชัน 70% ส่วนอีก 30% คือนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้จองล่วงหน้าผ่านแอปพลิเคชัน QueQ
สำหรับปีนี้อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว เปิดการท่องเที่ยววิถีใหม่ในรูปแบบ “New Normal” มีการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งหมดไม่เกิน 850 คน/วัน แบ่งเป็น
1.ที่ทำการอุทยานฯ และน้ำตกภูสอยดาว ไม่เกิน 500 คน/วัน
2.ลานสนภูสอยดาว ไม่เกิน 350 คน/วัน
สำหรับลานสนภูสอยดาว ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวไฮไลท์สำคัญของอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ได้ชื่อว่า“เป็นดินแดนแห่งทุ่งดอกหงอนนาคที่ใหญ่ที่สุดและสวยงามที่สุดในเมืองไทย”
ลานสนภูสอยดาวตั้งอยู่บนความสูง 1,633 เมตร จากระดับน้ำทะเล มีระยะทางเดินเท้าจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว 6.5 ก.ม. เป็นเส้นทางขึ้นเขาสูงชัน ระหว่างทางจะผ่านน้ำตกภูสอยดาว และ เนินหลัก ๆ 5 เนิน คือ เนินส่งญาติ เนินปราบเซียน เนินป่าก่อ เนินเสือโคร่ง และ เนินมรณะ ใช้เวลาเดินประมาณ 4-6 ชม.
ลานสนภูสอยดาวเป็นป่าสนสามใบที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเมืองไทย มีพื้นที่ครอบคลุมประเทศไทยและสปป.ลาว ตามพื้นดินที่ปกคลุมไปด้วยทุ่งหญ้าจะมีดอกไม้ป่าหลากหลายชนิดออกดอกหมุนเวียนอวดโฉมความงามกันอยู่ตลอดทั้งปี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “ดอกหงอนนาค” ซึ่งจะพร้อมใจกันออกดอกเบ่งบานในช่วงกลางฤดูฝน ตั้งแต่ปลายเดือน ก.ค.-ปลายเดือน ก.ย. และจะบานเต็มที่ในช่วงราวเดือน ส.ค.-ก.ย. ของทุกปี (แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของแต่ละปี)
สำหรับช่วงนี้ (ต้นเดือน ก.ค. 63) ดอกหงอนนาคเพิ่งเริ่มบานประปราย ไม่เกิน 10% โดยคาดว่าน่าจะบานเต็มที่ในช่วงกลางเดือนสิงหาคม
“ดอกหงอนนาค” มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า หญ้าหงอนเงือก หรือน้ำค้างกลางเที่ยง เป็นพืชล้มลุกชนิดหนึ่งที่ออกดอกในฤดูฝน
ดอกหงอนนาคมีทั้งสีม่วงอ่อนหรือม่วงน้ำเงิน สีขาว และสีชมพู ซึ่งค่อนข้างหายาก ยามเช้าดอกหงอนนาคจะหุบดอก และจะบานเมื่อมีแสงแดด ส่วนกลางของดอกมักมีหยดน้ำติดอยู่ เป็นที่มาของชื่อน้ำค้างกลางเที่ยง นอกจากนั้นก็ยังพบได้บ้างตามภูเขาอื่นๆ เช่น เขาสมอปูน ทุ่งโนนสน เขาใหญ่ เป็นต้น
สำหรับการการขึ้นไปพิชิตลานสนภูสอยดาว เราจะได้ใกล้ชิดดอกหงอนนาคแบบใกล้ชิดสุด ๆ เพราะที่ลานกลางเต็นท์นอนนั้น แวดล้อมไปด้วยทุ่งดอกหงอนนาค ชนิดเดินไปไม่กี่ก้าวก็ได้ถ่ายรูปกับดอกหงอนนาคสวยๆกันอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ
นอกจากนี้บนลานสนยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ เป็นวงรอบในระยะทาง 2.28 กิโลเมตร ชมความงามของสนสามใบสูงตระหง่าน ดอกไม้ป่าแปลกตา จุดชมวิวเลาะเลียบผา และ “หลักเขตชายแดนไทย-ลาว” หรือหลักเขต 2 แผ่นดิน ที่อยู่ห่างจากลานกางเต็นท์ทางด้านหลังไปประมาณ 1 กม.
#####################################
สำหรับ “อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว” ตั้งอยู่ที่ ต.ห้วยมุ่น อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ การเดินทางสู่ภูสอยดาว จากตัวเมืองพิษณุโลก ใช้ทางหลวงหมายเลข 11 ที่มุ่งตรงไปยัง จ.อุตรดิตถ์ ถึง อ.วัดโบสถ์ ให้แยกขวาไปบ้านโป่งแคตามทางหลวงหมายเลข 1206 ถึงสามแยกบ้านโป่งแค เลี้ยวขวาไปตามทางหลวงหมายเลข 1143 มุ่งตรงไปจนถึง อ.ชาติตระการ เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 1237 วิ่งตรงไปถึงแยกทางหลวงสาย 1268 เลี้ยวซ้ายไปภูสอยดาว รวมระยะทาง 188 กม.
อช.ภูสอยดาว เปิดให้ขึ้นลานสนภูสอยดาว ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมของทุกปี ถึงวันที่ 15 มกราคม ของปีถัดไป หลังจากปิดเพื่อฟื้นฟูธรรมชาติมาตั้งแต่กลางเดือนมกราคม
บนลานสนไม่มีไฟฟ้าและร้านค้า ร้านอาหาร นักท่องเที่ยวต้องเตรียมไฟฉาย เสบียงอาหาร น้ำดื่มและเครื่องใช้ต่าง ๆ ไปเอง โดยทางอุทยานฯ คิดค่าลูกหาบกิโลกรัมละ 30 บาท ด้านบนมีให้เช่าเตาถ่าน เตาแก๊ส และมีห้องน้ำไว้บริการ แต่ต้องเช่าถังน้ำเพื่อไปตักน้ำจากลำธารมาใช้เอง
ผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 095-629-9528, 091-024-7633 และ 095-625-8839 (ในเวลา 08.00-16.30น. ทุกวันทำการ) หรือสอบถามทาง inbox เพจ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว - Phu soi dao National Park