xs
xsm
sm
md
lg

ดอกหงอนนาคภูสอยดาวเริ่มบานแล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ดอกหงอนนาค นางเอกแห่งภูสอยดาว (แฟ้มภาพ)
เพจสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 (พิษณุโลก) โพสต์ภาพอัปเดตดอกหงอนนาคบนลานสน อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ต.ห้วยมุ่น อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ พร้อมข้อความว่า ขณะนี้ “ดอกหงอนนาค” นางเอกแห่งภูสอยดาว เริ่มผลิดอกอวดโฉมกันแล้ว โดยเป็นภาพเมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2563 เผยให้เห็นดอกหงอนนาคสีม่วงอ่อนเริ่มผลิบานให้เห็นประปราย จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ได้ให้ข้อมูลว่า ดอกหงอนนาคบนภูสอยดาวตอนนี้เพิ่งเริ่มบานเท่านั้น และน่าจะเริ่มบานเต็มที่ประมาณเดือนสิงหาคม-กันยายน

ดอกหงอนนาค ถือเป็นนางเอกบนภูสอยดาว เป็นพืชล้มลุกชนิดหนึ่งที่ออกดอกในฤดูฝน ประมาณเดือนกรกฎา-กันยายน บนภูสอยดาวมีทุ่งดอกหงอนนาคให้ชมหลายทุ่ง ทั้งในบริเวณลานสน และที่บริเวณจุดกางเต็นท์ก็มีทุ่งดอกหงอนนาคอีก 2 ทุ่งใหญ่ๆ รวมไปถึงตามเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ

ภาพดอกหงอนนาคจากเพจสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 (พิษณุโลก) เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 63
“ดอกหงอนนาค” มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า หญ้าหงอนเงือก หรือน้ำค้างกลางเที่ยง อีกทั้งดอกหงอนนาค ยังมีทั้งสีม่วงอ่อน หรือม่วงน้ำเงิน สีขาว และสีชมพู ซึ่งค่อนข้างหายาก ยามเช้าดอกหงอนนาคจะหุบดอก และจะบานเมื่อมีแสงแดด บริเวณเกสรของดอกมักมีหยดน้ำติดอยู่ เป็นที่มาของชื่อน้ำค้างกลางเที่ยง นอกจากนั้น ก็ยังพบได้บ้างตามภูเขาอื่นๆ เช่น เขาสมอปูน ทุ่งโนนสน เขาใหญ่ เป็นต้น

การจะขึ้นไปชมดอกหงอนนาคบนลานสนภูสอยดาวนั้น นักท่องเที่ยวจะต้องเดินเท้าจากตีนภูขึ้นไปยังลานสนระยะทาง 6.5 กม. โดยต้องผ่านเนินต่างๆ ได้แก่ เนินส่งญาติ เนินปราบเซียน เนินป่าก่อ เนินเสือโคร่ง และเนินมรณะ จากนั้นก็จะถึงลานสน ในช่วงแรกเป็นทางเดินเลียบน้ำตกภูสอยดาว มีเนินขึ้นๆ ลงๆ มีร่มเงาต้นไม้ตลอดเส้นทาง เมื่อสูงขึ้นไปก็จะเป็นเส้นทางเดินขึ้นเขาที่มีบันไดเหล็กไว้ให้ปีนขึ้นเป็นช่วงๆ บริเวณเนินมรณะ เป็นเนินที่ชันที่สุด และมีทิวทัศน์ที่สวยที่สุดด้วยเช่นกัน บริเวณนี้จะไม่มีต้นไม้ใหญ่ มีเพียงต้นหญ้าสูงประมาณไหล่ จึงมองเห็นทัศนียภาพกว้างไกลของทิวเขาสลับซับซ้อนเขียวขจีที่ถูกปกคลุมไปด้วยเมฆหมอก

ภาพดอกหงอนนาคจากเพจสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 (พิษณุโลก) เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 63

ภาพดอกหงอนนาคจากเพจสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 (พิษณุโลก) เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 63
บนลานสนนอกจากนักท่องเที่ยวจะได้ชมบรรยากาศของป่าไม้เขียวขจี ต้นสนสูงชะลูดรูปทรงสวยงาม และดอกหงอนนาคแสนสวยแล้ว ก็ยังมีจุดท่องเที่ยวอื่นๆ อาทิ “น้ำตกสายทิพย์” น้ำตกขนาดเล็กที่อยู่ใกล้ๆ ลานสน น้ำตกสายทิพย์มีสายน้ำไหลลดหลั่นลงมาตามชั้นเตี้ยๆ รวม 7 ชั้น “หลักเขตชายแดนไทย-ลาว” โดยภูสอยดาวเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาหลวงพระบางที่กั้นพรมแดนไทยกับลาว บนลานสนแห่งนี้ จึงมีหลักเขตที่บอกเขตแดนพื้นที่ของไทยและลาว “เส้นทางเดินชมธรรมชาติ” เป็นวงรอบในระยะทาง 2.28 กิโลเมตร ชมความงามของสนสามใบสูงตระหง่าน ดอกไม้ป่าแปลกตา นอกจากนั้น ก็ยังมีหลุมบังเกอร์สมรภูมิร่มเกล้า และจุดชมวิวเลาะเลียบผาที่สามารถมองลงไปเห็นทิวทัศน์ของผืนป่าและทะเลภูเขาอันสวยงามกว้างไกล รวมไปถึงจุดชมพระอาทิตย์ตกดิน

สภาพเส้นทางเดินในช่วงแรก
บนลานสนไม่มีไฟฟ้าและร้านค้า ร้านอาหาร นักท่องเที่ยวต้องเตรียมไฟฉาย เสบียงอาหาร น้ำดื่มและเครื่องใช้ต่างๆ ไปเอง โดยทางอุทยานฯ คิดค่าลูกหาบกิโลกรัมละ 30 บาท ด้านบนมีให้เช่าเตาถ่าน เตาแก๊ส และมีห้องน้ำไว้บริการ แต่ต้องเช่าถังน้ำเพื่อไปตักน้ำจากลำธารมาใช้เอง

ผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 095-629-9528, 091-024-7633 และ 095-625-8839 (ในเวลา 08.00-16.30 น. ทุกวันทำการ) หรือสอบถามทาง inbox เพจ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว - Phu soi dao National Park

เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ

ลานสนยามเย็น

.........................................

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR

ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Travel MGR


กำลังโหลดความคิดเห็น