หนึ่งในเมนูขนมไทยที่มีให้ซื้อกินกันทั่วไปก็คือ "บัวลอย" ขนมน้ำกะทิ หอม หวาน มัน ตัวแป้งบัวลอยนุ่มหนึบหนับ บ้างร้านใส่เครื่องอื่นๆ เพิ่มเติม อย่างเช่น มะพร้าวอ่อน ช้าวโพด เผือก เป็นต้น บางร้านก็มีแค่บัวลอยสีสวย ใส่ไข่หวาน ไข่แดงเค็ม
แต่ถ้าอยากลองลงมือทำกินเองที่บ้าน ก็เป็นเมนูที่ทำได้ไม่ยาก มีส่วนผสมไม่กี่อย่าง สำหรับ "บัวลอยสองสี" ได้สีเหลืองจากฟักทอง ส่วนสีม่วงอ่อนๆ ได้จากมันม่วง สูตรนี้เลือกใส่ไข่แดงเค็ม ให้ได้รสเค็มมันตัดกับความหวานหอมของกะทิ แต่ถ้าชอบไข่หวานก็สามารถเปลี่ยนเป็นไข่หวานได้
ส่วนผสม
แป้งข้าวเหนียว 1/2 ถ้วย + 1/2 ถ้วย
แป้งมัน 3/4 ช้อนโต๊ะ + 3/4 ช้อนโต๊ะ
ฟักทองนึ่ง 1/2 ถ้วย
มันม่วงนึ่ง 1/2 ถ้วย
ใบเตย 4 ใบ
กะทิ 2 ถ้วย
น้ำตาลมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 1/2 ช้อนชา
เกลือป่น เล็กน้อย
น้ำเปล่า (สำหรับต้มบัวลอย และผสมแป้ง)
วิธีทำ เริ่มจากการทำแป้งบัวลอย ผสมแป้งข้าวเหนียว 1/2 ถ้วย และ แป้งมัน 3/4 ช้อนโต๊ะ เข้าด้วยกัน ฟักทองปอกเปลือกแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ นำไปนึ่ง (ใช้ฟังทองนึ่งประมาณครึ่งถ้วย) เทใส่ชามที่ผสมแป้ง ใช้ช้อนบี้ฟักทองให้ละเอียด ใส่น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ แล้วนวดฟักทองผสมกับแป้งให้เนียนเข้ากัน แล้วปั้นเป็นเม็ดเล็กขนาดพอประมาณ ปั้นเสร็จแล้วให้โรยแป้งข้าวเหนียวลงไปเล็กน้อย เขย่าให้ทั่วๆ เม็ดบัวลอยจะไม่ติดกัน (ระหว่างที่ปั้นเม็ดบัวลอย แป้งส่วนที่ยังไม่ได้ปั้นให้ใช้ผ้าขาวบางชุบน้ำบิดหมาดๆ คลุมไว้ ไม่ให้แป้งแห้งเกินไป)
ส่วนแป้งบัวลอยสีม่วงที่ได้จากมันม่วง ทำเช่นเดียวกับแป้งบัวลอยฟักทอง แต่ใส่น้ำเปล่าลงไปผสมแป้งประมาณ 5-6 ช้อนโต๊ะ ลองนวดให้แป้งเกาะตัวเป็นเนื้อเดียวกันจนสามารถปั้นเป็นเม็ดบัวลอยได้ ถ้าแห้งเกินไปให้ใส่น้ำเปล่าเพิ่มได้ทีละนิด
นำหม้อไฟ ใส่น้ำเปล่าลงไป พอน้ำเดือดให้ใส่ใบเตยลงไป 2 ใบ ต้มจนได้กลิ่นหอมก็ตักใบเตยขึ้น แล้วใส่เม็ดบัวลอยลงไป รอจนน้ำเดือดอีกครั้ง ระหว่างนั้นหมั่นคนไม่ให้แป้งติดก้นหม้อ พอเม็ดบัวลอยสุกจะลอยขึ้นมาด้านบน ต้มต่ออีกประมาณ 30 วินาที แล้วตักขึ้นใส่น้ำเย็น พักไว้ก่อน
แป้งบัวลอยที่ปั้นเป็นเม็ดแล้ว ถ้าคิดว่ากินไม่หมดในวันเดียว สามารถเก็บไว้ใช้ได้ต่ออีกประมาณ 2-3 วัน โดยเมื่อปั้นเม็ดบัวลอยเสร็จแล้ว ให้ผึ่งลมให้แป้งแห้งลงอีกนิด เก็บใส่ถุงหรือกล่องแล้วแช่ตู้เย็นช่องธรรมดา เวลาจะกินก็นำออกมาต้มในน้ำเดือด
นำหม้อตั้งไฟ ใส่กะทิลงไป (ถ้าใช้กะทิสด ให้ผสมหัวกะทิกับหางกะทิอย่างละครึ่ง) ต้มจนกะทิเริ่มเดือด ใส่ใบเตย 2 ใบ ต้มจนเริ่มหอม ปรุงรสใส่น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย เกลือป่นเล็กน้อย ชิมรสชาติตามชอบ เสร็จแล้วตักใบเตยขึ้น ตักบัวลอยขึ้นจากน้ำเย็นแล้วใส่ลงในหม้อกะทิ ต้มต่อจนกะทิเดือดอีกครั้ง ก็ตักขึ้นเสิร์ฟได้เลย
สูตรนี้ใส่ไข่แดงเค็มนึ่งสุกแล้วลงไปตอนเสิร์ฟด้วย จะได้รสชาติเค็มๆ มันๆ ของไข่แดงเค็ม ตัดกับความหวานหอมของกะทิ แต่ถ้าชอบไข่หวาน ตอนต้มกะทิและปรุงรสแล้ว ให้ตอกไข่ไก่ใส่ลงไปในน้ำกะทิ รอให้ไข่สุกตามชอบ แล้วค่อยใส่แป้งบัวลอยตามลงไป
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR