xs
xsm
sm
md
lg

"บัวลอยสองสี" นุ่มๆ หนึบหนับ หอมหวานมันกะทิ

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์




หนึ่งในเมนูขนมไทยที่มีให้ซื้อกินกันทั่วไปก็คือ "บัวลอย" ขนมน้ำกะทิ หอม หวาน มัน ตัวแป้งบัวลอยนุ่มหนึบหนับ บ้างร้านใส่เครื่องอื่นๆ เพิ่มเติม อย่างเช่น มะพร้าวอ่อน ช้าวโพด เผือก เป็นต้น บางร้านก็มีแค่บัวลอยสีสวย ใส่ไข่หวาน ไข่แดงเค็ม

แต่ถ้าอยากลองลงมือทำกินเองที่บ้าน ก็เป็นเมนูที่ทำได้ไม่ยาก มีส่วนผสมไม่กี่อย่าง สำหรับ "บัวลอยสองสี" ได้สีเหลืองจากฟักทอง ส่วนสีม่วงอ่อนๆ ได้จากมันม่วง สูตรนี้เลือกใส่ไข่แดงเค็ม ให้ได้รสเค็มมันตัดกับความหวานหอมของกะทิ แต่ถ้าชอบไข่หวานก็สามารถเปลี่ยนเป็นไข่หวานได้


ส่วนผสม
แป้งข้าวเหนียว 1/2 ถ้วย + 1/2 ถ้วย
แป้งมัน 3/4 ช้อนโต๊ะ + 3/4 ช้อนโต๊ะ
ฟักทองนึ่ง 1/2 ถ้วย
มันม่วงนึ่ง 1/2 ถ้วย
ใบเตย 4 ใบ
กะทิ 2 ถ้วย
น้ำตาลมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 1/2 ช้อนชา
เกลือป่น เล็กน้อย
น้ำเปล่า (สำหรับต้มบัวลอย และผสมแป้ง)



วิธีทำ เริ่มจากการทำแป้งบัวลอย ผสมแป้งข้าวเหนียว 1/2 ถ้วย และ แป้งมัน 3/4 ช้อนโต๊ะ เข้าด้วยกัน ฟักทองปอกเปลือกแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ นำไปนึ่ง (ใช้ฟังทองนึ่งประมาณครึ่งถ้วย) เทใส่ชามที่ผสมแป้ง ใช้ช้อนบี้ฟักทองให้ละเอียด ใส่น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ แล้วนวดฟักทองผสมกับแป้งให้เนียนเข้ากัน แล้วปั้นเป็นเม็ดเล็กขนาดพอประมาณ ปั้นเสร็จแล้วให้โรยแป้งข้าวเหนียวลงไปเล็กน้อย เขย่าให้ทั่วๆ เม็ดบัวลอยจะไม่ติดกัน (ระหว่างที่ปั้นเม็ดบัวลอย แป้งส่วนที่ยังไม่ได้ปั้นให้ใช้ผ้าขาวบางชุบน้ำบิดหมาดๆ คลุมไว้ ไม่ให้แป้งแห้งเกินไป)

ส่วนแป้งบัวลอยสีม่วงที่ได้จากมันม่วง ทำเช่นเดียวกับแป้งบัวลอยฟักทอง แต่ใส่น้ำเปล่าลงไปผสมแป้งประมาณ 5-6 ช้อนโต๊ะ ลองนวดให้แป้งเกาะตัวเป็นเนื้อเดียวกันจนสามารถปั้นเป็นเม็ดบัวลอยได้ ถ้าแห้งเกินไปให้ใส่น้ำเปล่าเพิ่มได้ทีละนิด

นำหม้อไฟ ใส่น้ำเปล่าลงไป พอน้ำเดือดให้ใส่ใบเตยลงไป 2 ใบ ต้มจนได้กลิ่นหอมก็ตักใบเตยขึ้น แล้วใส่เม็ดบัวลอยลงไป รอจนน้ำเดือดอีกครั้ง ระหว่างนั้นหมั่นคนไม่ให้แป้งติดก้นหม้อ พอเม็ดบัวลอยสุกจะลอยขึ้นมาด้านบน ต้มต่ออีกประมาณ 30 วินาที แล้วตักขึ้นใส่น้ำเย็น พักไว้ก่อน

แป้งบัวลอยที่ปั้นเป็นเม็ดแล้ว ถ้าคิดว่ากินไม่หมดในวันเดียว สามารถเก็บไว้ใช้ได้ต่ออีกประมาณ 2-3 วัน โดยเมื่อปั้นเม็ดบัวลอยเสร็จแล้ว ให้ผึ่งลมให้แป้งแห้งลงอีกนิด เก็บใส่ถุงหรือกล่องแล้วแช่ตู้เย็นช่องธรรมดา เวลาจะกินก็นำออกมาต้มในน้ำเดือด

นำหม้อตั้งไฟ ใส่กะทิลงไป (ถ้าใช้กะทิสด ให้ผสมหัวกะทิกับหางกะทิอย่างละครึ่ง) ต้มจนกะทิเริ่มเดือด ใส่ใบเตย 2 ใบ ต้มจนเริ่มหอม ปรุงรสใส่น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย เกลือป่นเล็กน้อย ชิมรสชาติตามชอบ เสร็จแล้วตักใบเตยขึ้น ตักบัวลอยขึ้นจากน้ำเย็นแล้วใส่ลงในหม้อกะทิ ต้มต่อจนกะทิเดือดอีกครั้ง ก็ตักขึ้นเสิร์ฟได้เลย

สูตรนี้ใส่ไข่แดงเค็มนึ่งสุกแล้วลงไปตอนเสิร์ฟด้วย จะได้รสชาติเค็มๆ มันๆ ของไข่แดงเค็ม ตัดกับความหวานหอมของกะทิ แต่ถ้าชอบไข่หวาน ตอนต้มกะทิและปรุงรสแล้ว ให้ตอกไข่ไก่ใส่ลงไปในน้ำกะทิ รอให้ไข่สุกตามชอบ แล้วค่อยใส่แป้งบัวลอยตามลงไป
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือ ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Youtube :Travel MGR



กำลังโหลดความคิดเห็น