Youtube :Travel MGR
ใกล้ถึงวันหยุดส่งท้ายปี จึงอยากเชิญชวนเพื่อนพ้องน้องพี่ไปเติมสีสันให้สดใส เดินผจญภัยยิ่งกว่าไปตามล่าหาขุมทรัพย์ กับสตรีทอาร์ตย่านตลาดเก่าท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ที่ให้เราไปเดินเที่ยวชมและแชะภาพสวยๆ กัน รวมถึงมาสัมผัสบรรยากาศย้อนยุคกับสถาปัตยกรรมอาคารบ้านเรือนโบราณ ที่ผ่านกาลเวลามาเนิ่นนานกว่า 100 ปี
ในอดีต “ตลาดเก่าท่าม่วง” มีชื่อว่า ตลาดเก่านางลอย เป็นตลาดโบราณที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแม่กลอง อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ถือเป็นย่านการค้าของชุมชนชาวจีนที่ค้าขายอยู่ยาวนาน สถาปัตยกรรมอาคารได้รับการดูแลรักษาอย่างดี แม้จะเคยเกิดอัคคีภัยครั้งใหญ่ เมื่อปี พ.ศ. 2478 ต่อมามีบ้านเรือนหลายหลังได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ที่ผสมผสานระหว่างแบบไทยและจีน เพื่อให้กลับมามีชีวิตชีวาคึกคักกันอีกครั้ง
และก่อนที่เราจะเข้าไปสัมผัสวิถีชุมชนตลาดเก่าท่าม่วง ขอพาไปเดินหามุมถ่ายรูปสวยๆ เพื่อโพสต์ลงโซเชียลเรียกยอดไลค์กันหน่อย เพราะจากที่หาข้อมูลมานั้นทราบว่าย่านนี้เขามีภาพวาดงานศิลปะมากมาย ซึ่งภาพอาร์ตๆ เหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นภาพที่ผสมผสานมาจากจินตนาการของศิลปิน ถ่ายทอดออกมาสร้างบรรยากาศให้กับชาวท่าม่วงและนักท่องเที่ยวมีสีสันและคึกคักมากยิ่งขึ้น
ภาพสตรีทอาร์ตของชุมชนตลาดเก่าท่าม่วง มีไฮไลท์อยู่ที่ถนนเทศบาล ซอย 20 (วัฒนผล) ข้างโรงเรียนวีรศิลป์ รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียง โดยในบริเวณนี้จะมีส่วนหนึ่งที่มีการบอกเล่าเรื่องราวชุมชนตลอดทั้งซอย
มาเริ่มกันที่ทางแยกหัวมุมของซอยที่แปลงโฉมให้มีลวดลายชูเอกลักษณ์อันโดดเด่น ถ่ายทอดออกมาเป็นศิลปะให้ชมกัน ซึ่งแต่ละจุดอยู่ไม่ไกลกันมากนัก ภาพแรกที่พามาชมนี้เป็นภาพตัวการ์ตูนกำลังขี่มะม่วงติดเครื่องยนต์ดูแปลกตา เมื่อโพสต์ท่าทางกันจนหนำใจแล้ว จากนั้นก็เดินถ่ายภาพกันจุดต่อไป โดยภาพภาพสตรีทอาร์ทในบริเวณนี้ส่วนใหญ่เป็นภาพที่มีลวดลายการ์ตูนสีสันสดใส หากใครที่ชอบถ่ายรูปชิคๆ อาร์ตๆ ก็สามารถเดินตามล่าหาภาพกันได้
และยังมีภาพอื่นๆ อีกมากมายอันเป็นเสน่ห์เฉพาะตัว เล่าเรื่องราวผ่านศิลปะ เป็นการเพิ่มสีสันให้กับอาคารบ้านเรือน กลายเป็นจุดดึงดูดให้หลายคนชักชวนกันไปแชะภาพ แล้วส่งต่อภาพสวยบนโลกออนไลน์ให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน โดยนักท่องเที่ยวสามารถมาออกแบบท่าทาง ไม่ว่าจะชิคๆ ฮิปๆ หรือน่ารักสดใสในสไตล์ของตัวเองเป็นสีสันสร้างความประทับใจให้กับเพื่อนฝูง
หลังจากที่เพลิดเพลินไปกับการตามล่าหามุมถ่ายภาพสตรีทอาร์ตแล้ว ก็ขอชวนมาสัมผัสกับบรรยากาศชุมชนแห่งนี้กันต่อ เพราะบริเวณนี้มีเรื่องราวที่น่าสนใจให้เราได้เดินชมความคลาสสิคของตลาดโบราณที่ผ่านกาลเวลามายาวนานถึง 120 ปี
ย่านการค้าเก่าในเขตเทศบาลตำบลท่าม่วง ตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำแม่กลอง และถนนแสงชูโต เป็นย่านการค้า และชุมชนที่อาศัยอยู่ดั้งเดิมที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน โดยมีชื่อที่นิยมเรียกขานว่า “ตลาดนางลอย” หลังจากเกิดอัคคีภัยครั้งใหญ่เมื่อปี พ.ศ.2478 ได้มีการบูรณะฟื้นฟูบ้านเรือนขึ้นมาใหม่บริเวณตลาดนางลอยเดิม จึงถูกเรียกชื่อใหม่ว่า “ท่าม่วง” ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โดยที่มาของชื่อไม่มีการบันทึกที่แน่ชัด
ต่อมาได้มีการบอกเล่าต่อกันมาของผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ว่า อาจเป็นเพราะพื้นที่มีการปลูกต้นมะม่วงเป็นจำนวนมาก และผลผลิตหลักอย่างหนึ่งของชุมชนคือ “ผลมะม่วง” คาดว่าชื่อเดิมที่ถูกเรียกคือ “ท่ามะม่วง” และภายหลังอาจมีการเรียกเพี้ยนไปคงเหลือเพียง “ท่าม่วง” กลุ่มคนที่ย้ายถิ่นฐานมาตั้งบ้านเรือนอยู่บริเวณนี้ในระยะแรก คือ ชาวจีนที่อพยพเข้ามาทำมาหากินในประเทศไทย
ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือในปีพ.ศ.2482-2488 ชุมชนท่าม่วงได้ถูกนำมาใช้เป็นค่ายพักชั่วคราวสำหรับเชลยที่ถูกส่งต่อไปทำงานสร้างทางรถไฟข้ามไปยังประเทศพม่า และเป็นศูนย์ส่งเสบียงให้แก่กองทัพญี่ปุ่น ทำให้เกิดเรื่องราว และความประทับใจมากมายที่แสดงให้เห็นถึงความโอบอ้อมอารีของเจ้าบ้านที่มีต่อผู้มาเยือนทั้ง 2 ฝ่าย
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลง วิถีความเป็นอยู่ของผู้คน และขนาดของชุมชนท่าม่วงได้มีการเปลี่ยนแปลง และเจริญเติบโตอย่างมาก ต่อมาได้มีการสร้างศูนย์กลางทางเศรษฐกิจแห่งใหม่ ซึ่งอยู่ใกล้กับทางหลวงทำให้มีผลกระทบต่อวิถีชีวิตชาวบ้านที่ตั้งอยู่ริมน้ำ มีหลายครอบครัวได้ย้ายถิ่นฐานออกมา
ปัจจุบันอาคารบ้านเรือนแบบโบราณยังมีให้เราได้เห็นอยู่ อย่างที่ “บ้านรัตนวิเชียร” หรือร้านเซ้งพาณิชย์ สร้างขึ้นในปีพ.ศ. 2473 เจ้าของเดิมคือนางเลี้ยง รัตนวิเชียร ลักษณะอาคารเป็นตึกแถวคอนกรีตเสริมเหล็กสไตล์ชิโนโปรตุกีส ในสมัยนั้นอาคารแห่งนี้ใช้เป็นร้านค้า และเนื่องจากบริเวณฝั่งตรงข้ามร้านเป็นท่ารถมีผู้สัญจรเป็นจำนวนมาก ทางเจ้าของบ้านจึงจัดให้มีการทำขนมและกับข้าวขาย โดยอาหารที่ทำขายในยุคนั้น ได้แก่ ผัดหมี่ หมี่กรอบ ตะโก้ ขนมเปียกปูน ยําหนังหมู ทอดมันฟักทอง เป็นต้น
ต่อมาในช่วงปีพ.ศ. 2524 ตลาดท่าม่วงในขณะนั้นเงียบเหงาประสบกับความซบเซา ลงเรื่อยมา หลังจากมีการตัดถนนแสงชูโตและการสร้างเขื่อนแม่กลอง ที่ส่งผลกระทบต่อเส้นทางการคมนาคมทางน้ำ รวมถึงวิถีชีวิตของผู้คนที่เคยอาศัยอยู่ริมน้ำ ร้านค้าหลายๆ แห่ง รวมทั้งร้านเซ้งพาณิชย์ได้ปิดตัวลง คงเป็นเพียงที่พักอาศัย บ้านรัตนวิเชียรเคยเป็นฉากประกอบละคร ทีวีและภาพยนตร์มากมาย เช่น คู่กรรม รวมถึงถ่ายภาพยนตร์โฆษณาสินค้าอีกด้วย
อีกหนึ่งอาคารแบบโบราณ “ร้านปอเชียง” เป็นร้านค้าของตระกูลอุ่นสมบัติ เป็นเรือนแถวไม้ 2 ชั้น จำนวน 4 คูหา สร้างขึ้นในปีพ.ศ. 2480 ในอดีตบ้านปอเชียง ได้เปิดกิจการ ค้าขายของหลากหลายชนิด ได้แก่ เครื่องอุปโภคบริโภคต่างๆ ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ทำการค้าขายสินค้าอุปโภคบริโภคกับกองทัพญี่ปุ่น ที่มาตั้งค่ายในจังหวัดกาญจนบุรี หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง สมาชิกของครอบครัวได้เปิดกิจการเดินรถเมล์ปอเชียง และกิจการปั๊มน้ำมันขึ้นที่ริมถนนแสงชูโต โดยใช้ชื่อว่า “อุ่นสมบัติ”
ในช่วงปีพ.ศ. 2524 ผู้คนในชุมชนได้ย้ายถิ่นฐานจากริมน้ำไปอยู่ใกล้ถนนแสงชูโต ทำให้ตลาดประสบปัญหาซบเซา ทางหัวหน้าครอบครัวจึงย้ายกิจการที่ทำอยู่ที่ร้านปอเชียงเดิมไปที่ร้านอุ่นสมบัติ ส่วนบ้านเชียงใช้เป็นที่พักอาศัยเพียงระยะหนึ่ง เมื่อมีการย้ายผู้อยู่อาศัยทั้งหมด ไปอยู่ที่แห่งใหม่ ทำให้บ้านเชียงปิดร้านตั้งแต่ปีพ.ศ. 2553 จนถึงปัจจุบัน ทางเจ้าของบ้านได้อนุญาตให้เปิดบ้านเพื่อใช้เป็นศูนย์การเรียนรู้ชุมชน
นอกจากอาคารของบ้านรัตนวิเชียรและร้านปอเชียง ที่เป็นอาคารโบราณให้เราได้ชมกันแล้ว ยังมีสถาปัตยกรรมของอาคารอื่นๆ ให้ชมอีกด้วย อาทิ บ้านจินดาพาณิชย์ บ้านอุดมพันธ์ บ้านปอฮวด
สำหรับใครที่เดินทางมาเยือนชุมชนตลาดเก่าท่าม่วง จ.กาญจนบุรี และกำลังมองหาแหล่งท่องเที่ยวแปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร ลองเดินตามหาพิกัดภาพวาดของสตรีทอาร์ต เพราะนอกจากจะได้ถ่ายรูปภาพสวยๆ แล้ว เรายังได้สัมผัสกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในท้องถิ่น พร้อมเดินชมสถาปัตยกรรมอาคารโบราณอันทรงคุณค่าอีกด้วย
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สอบถามข้อมูลการท่องเที่ยวจังหวัดขอนแก่นเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานขอนแก่น โทร. 0-4322-7714-5 “มีกินฟาร์ม” ติดต่อจงรัก จารุพันธุ์งาม โทร. 06-1695-9926 “กลุ่มไหมแท้ที่แม่ทอ” ติดต่อสุทัศน์ แสนองอาจ โทร. 08-5229-6796
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Travel MGR
ใกล้ถึงวันหยุดส่งท้ายปี จึงอยากเชิญชวนเพื่อนพ้องน้องพี่ไปเติมสีสันให้สดใส เดินผจญภัยยิ่งกว่าไปตามล่าหาขุมทรัพย์ กับสตรีทอาร์ตย่านตลาดเก่าท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ที่ให้เราไปเดินเที่ยวชมและแชะภาพสวยๆ กัน รวมถึงมาสัมผัสบรรยากาศย้อนยุคกับสถาปัตยกรรมอาคารบ้านเรือนโบราณ ที่ผ่านกาลเวลามาเนิ่นนานกว่า 100 ปี
ในอดีต “ตลาดเก่าท่าม่วง” มีชื่อว่า ตลาดเก่านางลอย เป็นตลาดโบราณที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำแม่กลอง อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี ถือเป็นย่านการค้าของชุมชนชาวจีนที่ค้าขายอยู่ยาวนาน สถาปัตยกรรมอาคารได้รับการดูแลรักษาอย่างดี แม้จะเคยเกิดอัคคีภัยครั้งใหญ่ เมื่อปี พ.ศ. 2478 ต่อมามีบ้านเรือนหลายหลังได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ จนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ที่ผสมผสานระหว่างแบบไทยและจีน เพื่อให้กลับมามีชีวิตชีวาคึกคักกันอีกครั้ง
และก่อนที่เราจะเข้าไปสัมผัสวิถีชุมชนตลาดเก่าท่าม่วง ขอพาไปเดินหามุมถ่ายรูปสวยๆ เพื่อโพสต์ลงโซเชียลเรียกยอดไลค์กันหน่อย เพราะจากที่หาข้อมูลมานั้นทราบว่าย่านนี้เขามีภาพวาดงานศิลปะมากมาย ซึ่งภาพอาร์ตๆ เหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นภาพที่ผสมผสานมาจากจินตนาการของศิลปิน ถ่ายทอดออกมาสร้างบรรยากาศให้กับชาวท่าม่วงและนักท่องเที่ยวมีสีสันและคึกคักมากยิ่งขึ้น
ภาพสตรีทอาร์ตของชุมชนตลาดเก่าท่าม่วง มีไฮไลท์อยู่ที่ถนนเทศบาล ซอย 20 (วัฒนผล) ข้างโรงเรียนวีรศิลป์ รวมถึงพื้นที่ใกล้เคียง โดยในบริเวณนี้จะมีส่วนหนึ่งที่มีการบอกเล่าเรื่องราวชุมชนตลอดทั้งซอย
มาเริ่มกันที่ทางแยกหัวมุมของซอยที่แปลงโฉมให้มีลวดลายชูเอกลักษณ์อันโดดเด่น ถ่ายทอดออกมาเป็นศิลปะให้ชมกัน ซึ่งแต่ละจุดอยู่ไม่ไกลกันมากนัก ภาพแรกที่พามาชมนี้เป็นภาพตัวการ์ตูนกำลังขี่มะม่วงติดเครื่องยนต์ดูแปลกตา เมื่อโพสต์ท่าทางกันจนหนำใจแล้ว จากนั้นก็เดินถ่ายภาพกันจุดต่อไป โดยภาพภาพสตรีทอาร์ทในบริเวณนี้ส่วนใหญ่เป็นภาพที่มีลวดลายการ์ตูนสีสันสดใส หากใครที่ชอบถ่ายรูปชิคๆ อาร์ตๆ ก็สามารถเดินตามล่าหาภาพกันได้
และยังมีภาพอื่นๆ อีกมากมายอันเป็นเสน่ห์เฉพาะตัว เล่าเรื่องราวผ่านศิลปะ เป็นการเพิ่มสีสันให้กับอาคารบ้านเรือน กลายเป็นจุดดึงดูดให้หลายคนชักชวนกันไปแชะภาพ แล้วส่งต่อภาพสวยบนโลกออนไลน์ให้เพื่อนๆ ได้ชมกัน โดยนักท่องเที่ยวสามารถมาออกแบบท่าทาง ไม่ว่าจะชิคๆ ฮิปๆ หรือน่ารักสดใสในสไตล์ของตัวเองเป็นสีสันสร้างความประทับใจให้กับเพื่อนฝูง
หลังจากที่เพลิดเพลินไปกับการตามล่าหามุมถ่ายภาพสตรีทอาร์ตแล้ว ก็ขอชวนมาสัมผัสกับบรรยากาศชุมชนแห่งนี้กันต่อ เพราะบริเวณนี้มีเรื่องราวที่น่าสนใจให้เราได้เดินชมความคลาสสิคของตลาดโบราณที่ผ่านกาลเวลามายาวนานถึง 120 ปี
ย่านการค้าเก่าในเขตเทศบาลตำบลท่าม่วง ตั้งอยู่ระหว่างแม่น้ำแม่กลอง และถนนแสงชูโต เป็นย่านการค้า และชุมชนที่อาศัยอยู่ดั้งเดิมที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน โดยมีชื่อที่นิยมเรียกขานว่า “ตลาดนางลอย” หลังจากเกิดอัคคีภัยครั้งใหญ่เมื่อปี พ.ศ.2478 ได้มีการบูรณะฟื้นฟูบ้านเรือนขึ้นมาใหม่บริเวณตลาดนางลอยเดิม จึงถูกเรียกชื่อใหม่ว่า “ท่าม่วง” ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โดยที่มาของชื่อไม่มีการบันทึกที่แน่ชัด
ต่อมาได้มีการบอกเล่าต่อกันมาของผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ว่า อาจเป็นเพราะพื้นที่มีการปลูกต้นมะม่วงเป็นจำนวนมาก และผลผลิตหลักอย่างหนึ่งของชุมชนคือ “ผลมะม่วง” คาดว่าชื่อเดิมที่ถูกเรียกคือ “ท่ามะม่วง” และภายหลังอาจมีการเรียกเพี้ยนไปคงเหลือเพียง “ท่าม่วง” กลุ่มคนที่ย้ายถิ่นฐานมาตั้งบ้านเรือนอยู่บริเวณนี้ในระยะแรก คือ ชาวจีนที่อพยพเข้ามาทำมาหากินในประเทศไทย
ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 หรือในปีพ.ศ.2482-2488 ชุมชนท่าม่วงได้ถูกนำมาใช้เป็นค่ายพักชั่วคราวสำหรับเชลยที่ถูกส่งต่อไปทำงานสร้างทางรถไฟข้ามไปยังประเทศพม่า และเป็นศูนย์ส่งเสบียงให้แก่กองทัพญี่ปุ่น ทำให้เกิดเรื่องราว และความประทับใจมากมายที่แสดงให้เห็นถึงความโอบอ้อมอารีของเจ้าบ้านที่มีต่อผู้มาเยือนทั้ง 2 ฝ่าย
หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุติลง วิถีความเป็นอยู่ของผู้คน และขนาดของชุมชนท่าม่วงได้มีการเปลี่ยนแปลง และเจริญเติบโตอย่างมาก ต่อมาได้มีการสร้างศูนย์กลางทางเศรษฐกิจแห่งใหม่ ซึ่งอยู่ใกล้กับทางหลวงทำให้มีผลกระทบต่อวิถีชีวิตชาวบ้านที่ตั้งอยู่ริมน้ำ มีหลายครอบครัวได้ย้ายถิ่นฐานออกมา
ปัจจุบันอาคารบ้านเรือนแบบโบราณยังมีให้เราได้เห็นอยู่ อย่างที่ “บ้านรัตนวิเชียร” หรือร้านเซ้งพาณิชย์ สร้างขึ้นในปีพ.ศ. 2473 เจ้าของเดิมคือนางเลี้ยง รัตนวิเชียร ลักษณะอาคารเป็นตึกแถวคอนกรีตเสริมเหล็กสไตล์ชิโนโปรตุกีส ในสมัยนั้นอาคารแห่งนี้ใช้เป็นร้านค้า และเนื่องจากบริเวณฝั่งตรงข้ามร้านเป็นท่ารถมีผู้สัญจรเป็นจำนวนมาก ทางเจ้าของบ้านจึงจัดให้มีการทำขนมและกับข้าวขาย โดยอาหารที่ทำขายในยุคนั้น ได้แก่ ผัดหมี่ หมี่กรอบ ตะโก้ ขนมเปียกปูน ยําหนังหมู ทอดมันฟักทอง เป็นต้น
ต่อมาในช่วงปีพ.ศ. 2524 ตลาดท่าม่วงในขณะนั้นเงียบเหงาประสบกับความซบเซา ลงเรื่อยมา หลังจากมีการตัดถนนแสงชูโตและการสร้างเขื่อนแม่กลอง ที่ส่งผลกระทบต่อเส้นทางการคมนาคมทางน้ำ รวมถึงวิถีชีวิตของผู้คนที่เคยอาศัยอยู่ริมน้ำ ร้านค้าหลายๆ แห่ง รวมทั้งร้านเซ้งพาณิชย์ได้ปิดตัวลง คงเป็นเพียงที่พักอาศัย บ้านรัตนวิเชียรเคยเป็นฉากประกอบละคร ทีวีและภาพยนตร์มากมาย เช่น คู่กรรม รวมถึงถ่ายภาพยนตร์โฆษณาสินค้าอีกด้วย
อีกหนึ่งอาคารแบบโบราณ “ร้านปอเชียง” เป็นร้านค้าของตระกูลอุ่นสมบัติ เป็นเรือนแถวไม้ 2 ชั้น จำนวน 4 คูหา สร้างขึ้นในปีพ.ศ. 2480 ในอดีตบ้านปอเชียง ได้เปิดกิจการ ค้าขายของหลากหลายชนิด ได้แก่ เครื่องอุปโภคบริโภคต่างๆ ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ทำการค้าขายสินค้าอุปโภคบริโภคกับกองทัพญี่ปุ่น ที่มาตั้งค่ายในจังหวัดกาญจนบุรี หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง สมาชิกของครอบครัวได้เปิดกิจการเดินรถเมล์ปอเชียง และกิจการปั๊มน้ำมันขึ้นที่ริมถนนแสงชูโต โดยใช้ชื่อว่า “อุ่นสมบัติ”
ในช่วงปีพ.ศ. 2524 ผู้คนในชุมชนได้ย้ายถิ่นฐานจากริมน้ำไปอยู่ใกล้ถนนแสงชูโต ทำให้ตลาดประสบปัญหาซบเซา ทางหัวหน้าครอบครัวจึงย้ายกิจการที่ทำอยู่ที่ร้านปอเชียงเดิมไปที่ร้านอุ่นสมบัติ ส่วนบ้านเชียงใช้เป็นที่พักอาศัยเพียงระยะหนึ่ง เมื่อมีการย้ายผู้อยู่อาศัยทั้งหมด ไปอยู่ที่แห่งใหม่ ทำให้บ้านเชียงปิดร้านตั้งแต่ปีพ.ศ. 2553 จนถึงปัจจุบัน ทางเจ้าของบ้านได้อนุญาตให้เปิดบ้านเพื่อใช้เป็นศูนย์การเรียนรู้ชุมชน
นอกจากอาคารของบ้านรัตนวิเชียรและร้านปอเชียง ที่เป็นอาคารโบราณให้เราได้ชมกันแล้ว ยังมีสถาปัตยกรรมของอาคารอื่นๆ ให้ชมอีกด้วย อาทิ บ้านจินดาพาณิชย์ บ้านอุดมพันธ์ บ้านปอฮวด
สำหรับใครที่เดินทางมาเยือนชุมชนตลาดเก่าท่าม่วง จ.กาญจนบุรี และกำลังมองหาแหล่งท่องเที่ยวแปลกใหม่ไม่ซ้ำใคร ลองเดินตามหาพิกัดภาพวาดของสตรีทอาร์ต เพราะนอกจากจะได้ถ่ายรูปภาพสวยๆ แล้ว เรายังได้สัมผัสกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในท้องถิ่น พร้อมเดินชมสถาปัตยกรรมอาคารโบราณอันทรงคุณค่าอีกด้วย
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สอบถามข้อมูลการท่องเที่ยวจังหวัดขอนแก่นเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานขอนแก่น โทร. 0-4322-7714-5 “มีกินฟาร์ม” ติดต่อจงรัก จารุพันธุ์งาม โทร. 06-1695-9926 “กลุ่มไหมแท้ที่แม่ทอ” ติดต่อสุทัศน์ แสนองอาจ โทร. 08-5229-6796
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Travel MGR