วานนี้ (18ธ.ค.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และนายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง เป็นประธานมอบค่าเวนคืนที่ดินและตรวจเยี่ยมโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางใหญ่-กาญจนบุรี บริเวณตอนที่ 20 ต.ตะคร้ำเอน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี โดยมีประชาชนที่จะได้รับค่าเวนคืนทั้งหมด ประกอบไปด้วยจ.กาญจนบุรี 689 ราย และ จ.ราชบุรี 123 ราย
นายอนุทิน ได้กล่าวขอบคุณประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากการเวนคืนที่ดิน ที่ได้เสียสละให้กับประโยชน์ส่วนรวมของประเทศ เส้นทางสายบางใหญ่-กาญจนบุรี เป็นโครงการที่สำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ในภูมิภาคให้ดีขึ้น เพราะเป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างภูมิภาคตะวันตก มาภาคกลาง และกรุงเทพฯ และยังเอื้อประโยชน์กับภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และท่องเที่ยว จะสามารถสร้างงาน สร้างรายได้ สร้างความมั่นคง มั่งคั่ง ให้กับประชาชนในพื้นที่
"หากถนนเสร็จ ประชาชนก็จะมาเที่ยวเมืองกาญจนบุรีเพิ่มมากขึ้น ซึ่ง จ.กาญจนบุรี มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย มอเตอร์เวย์ผ่านนครปฐม-กาญจนบุรี และในอนาคตต้องมองให้เป็น เพราะที่ดินจะราดด้วยทอง ไม่ใช่ด้วยคอนกรีต เพราะการคมนาคมไม่ได้จบแค่ท่าม่วง ถ้าผ่านเข้าไปทวาย จะทำรายได้ มีการค้าขายข้ามพรมแดนทุกอย่างก็จะดีขึ้นด้วย"
นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวว่า โครงการนี้มีปัญหาเรื่องการเวนคืนพื้นที่เพื่อใช้ก่อสร้าง เนื่องจากราคาที่ดินได้พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้งบฯ บานปลาย บางช่วงจึงไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ โดยการก่อสร้างงานโยธา คืบหน้าไป 25 % เท่านั้น ล่าช้ากว่าแผนงานที่กำหนด ประมาณ 56 % เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ครม. จึงได้อนุมัติเพิ่มกรอบวงเงินจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน เพิ่มเติมอีก 12,000 ล้านบาท จากที่เคยอนุมัติให้แล้ว 5,400 ล้านบาท รวมเป็นเงินที่ใช้เวนคืน กว่า 1.7 หมื่นล้านบาท
หลังจากจ่ายค่าเวนคืนเสร็จแล้ว ผู้รับจ้างโครงการก่อสร้างงานโยธาทั้ง 25 ตอน จะระดมเครื่องจักรเข้าพื้นที่ทันที และกรมทางหลวงได้ปรับแผนงานเร่งรัดก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในเดือนเม.ย.66 และจะสามารถเปิดให้บริการเต็มรูปแบบได้ช่วงปลายปี 66
นายอนุทิน ได้กล่าวขอบคุณประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากการเวนคืนที่ดิน ที่ได้เสียสละให้กับประโยชน์ส่วนรวมของประเทศ เส้นทางสายบางใหญ่-กาญจนบุรี เป็นโครงการที่สำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ในภูมิภาคให้ดีขึ้น เพราะเป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างภูมิภาคตะวันตก มาภาคกลาง และกรุงเทพฯ และยังเอื้อประโยชน์กับภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และท่องเที่ยว จะสามารถสร้างงาน สร้างรายได้ สร้างความมั่นคง มั่งคั่ง ให้กับประชาชนในพื้นที่
"หากถนนเสร็จ ประชาชนก็จะมาเที่ยวเมืองกาญจนบุรีเพิ่มมากขึ้น ซึ่ง จ.กาญจนบุรี มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย มอเตอร์เวย์ผ่านนครปฐม-กาญจนบุรี และในอนาคตต้องมองให้เป็น เพราะที่ดินจะราดด้วยทอง ไม่ใช่ด้วยคอนกรีต เพราะการคมนาคมไม่ได้จบแค่ท่าม่วง ถ้าผ่านเข้าไปทวาย จะทำรายได้ มีการค้าขายข้ามพรมแดนทุกอย่างก็จะดีขึ้นด้วย"
นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง กล่าวว่า โครงการนี้มีปัญหาเรื่องการเวนคืนพื้นที่เพื่อใช้ก่อสร้าง เนื่องจากราคาที่ดินได้พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้งบฯ บานปลาย บางช่วงจึงไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ โดยการก่อสร้างงานโยธา คืบหน้าไป 25 % เท่านั้น ล่าช้ากว่าแผนงานที่กำหนด ประมาณ 56 % เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ครม. จึงได้อนุมัติเพิ่มกรอบวงเงินจัดกรรมสิทธิ์ที่ดิน เพิ่มเติมอีก 12,000 ล้านบาท จากที่เคยอนุมัติให้แล้ว 5,400 ล้านบาท รวมเป็นเงินที่ใช้เวนคืน กว่า 1.7 หมื่นล้านบาท
หลังจากจ่ายค่าเวนคืนเสร็จแล้ว ผู้รับจ้างโครงการก่อสร้างงานโยธาทั้ง 25 ตอน จะระดมเครื่องจักรเข้าพื้นที่ทันที และกรมทางหลวงได้ปรับแผนงานเร่งรัดก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในเดือนเม.ย.66 และจะสามารถเปิดให้บริการเต็มรูปแบบได้ช่วงปลายปี 66