กาญจนบุรี - ชาวบ้านยิ้ม!! หลังรองนายกฯ มอบค่าเวนคืนบางใหญ่-กาญจนบุรี พร้อมกดปุ่มรีสตาร์ทเดินเครื่องจักรดำเนินการก่อสร้างต่อทันที คาดเปิดให้บริการเต็มรูปแบบปลายปี 66
วันนี้ (18 ธ.ค.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานมอบค่าเวนคืนที่ดิน และตรวจเยี่ยมโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ตอนที่ 20 บริเวณตำบลตะคร้ำเอน อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี โดยมีนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง
นายยศวัฒน์ มาไพศาลสิน ส.ส.จังหวัดกาญจนบุรี พรรคภูมิใจไทย เขต 3 นายสมเกียรติ วอนเพียร ส.ส.จังหวัดกาญจนบุรี พรรคพลังประชารัฐ เขต 2 นายอัฏฐพล โพธิพิพิธ ส.ส.จังหวัดกาญจนบุรี พรรคพลังประชารัฐ เขต 5 นายสมยศ ศิลปีโยดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี รวมทั้งประชาชนชาวจังหวัดกาญจนบุรี กว่า 2,000 คน ร่วมให้การต้อนรับ ขณะเดียวกัน ประชาชนที่เดินทางมารับค่าเวนคืนมีทั้งสิ้น จำนวน 812 ราย ประกอบไปด้วย ชาวจังหวัดกาญจนบุรี จำนวน 689 ราย และจังหวัดราชบุรี จำนวน 123 ราย
สำหรับโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หมายเลข 81 สายบางใหญ่-กาญจนบุรี ที่ได้เกิดปัญหาจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินหรือการเวนคืนพื้นที่เพื่อใช้ก่อสร้าง เนื่องจากราคาที่ดินได้พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้งบประมาณบานปลาย บางช่วงจึงไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ โดยการก่อสร้างงานโยธาคืบหน้าอยู่ที่ประมาณ 25.08% เท่านั้น ล่าช้ากว่าแผนงานที่กำหนดประมาณ 56% เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว คณะรัฐมนตรีจึงได้อนุมัติเพิ่มกรอบวงเงินจัดกรรมสิทธิ์ที่ดินเพิ่มเติมอีก 12,032 ล้านบาท จากที่เคยอนุมัติให้แล้ว 5,420 ล้านบาท รวมเป็นเงินที่ใช้เวนคืนกว่า 1.7 หมื่นล้านบาท
สำหรับจังหวัดกาญจนบุรี มีผู้ถูกเวนคืนที่ดินและทรัพย์สินทั้งสิ้น 689 ราย วงเงินที่อนุมัติจ่าย 649,188,343 บาท มีผู้มาทำสัญญาแล้ว 619 ราย และรอทำสัญญา 70 ราย หลังจากจ่ายค่าเวนคืนเสร็จเรียบร้อย ผู้รับจ้างโครงการก่อสร้างงานโยธาทั้ง 25 ตอน จะระดมเครื่องจักรเข้าพื้นที่ทันที และกรมทางหลวงได้ปรับแผนงานเร่งรัดก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในเดือนเมษายน 2566 โดยจะทำคู่ขนานไปกับงานระบบ O&M (Operation & Maintenance) และจะสามารถเปิดให้บริการเต็มรูปแบบได้ภายในปลายปี 2566
ซึ่งจะช่วยให้การเดินทางจากกรุงเทพมหานครและปริมณฑลไปยังภาคตะวันตกของประเทศ เป็นไปโดยสะดวก และมีส่วนสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในภูมิภาคให้ดีขึ้น เป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง รวมทั้งการท่องเที่ยว รวดเร็ว ปลอดภัย คุ้มราคา ท้องถิ่นไทยก้าวหน้า คนไทยอยู่ดีมีสุข จะช่วยให้การเดินทางจากบางใหญ่-กาญจนบุรีใช้เวลาเพียง 48 นาที เปรียบเทียบกับการเดินทางโดยใช้ทางหลวงแผ่นดินซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง 30 นาที อีกทั้งยังส่งผลต่อการพัฒนาประเทศให้มีเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง และยั่งยืนสืบไป
ทั้งนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังจากนี้โครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หมายเลข 81 สายบางใหญ่-กาญจนบุรี จะดำเนินก่อสร้างจนแล้วเสร็จ ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นโครงการที่สำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ในภูมิภาคให้ดีขึ้นสำหรับอนาคตของประเทศไทย ไม่เฉพาะเป็นการการเดินทางเชื่อมต่อระหว่างภูมิภาคตะวันตก มาภาคกลาง และกรุงเทพมหานคร แต่เป็นประโยชน์กับประชาชนภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และท่องเที่ยวที่จะสามารถสร้างงาน สร้างรายได้ สร้างความมั่นคง มั่งคั่งให้แก่ประชาชนในพื้นที่ ซึ่งเป็นไปตามยุทธศาสตร์ชาติต่อไปได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่นายอนุทิน ได้ทำการมอบเงินค่าเวนคืนและพูดคุยกับประชาชนแล้วเสร็จ จึงได้ร่วมกันกดปุ่มรีสตาร์ทในการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หมายเลข 81 สายบางใหญ่-กาญจนบุรี จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เคลื่อนย้ายเครื่องจักรเข้าพื้นที่ทันที
สำหรับจังหวัดกาญจนบุรี เริ่มก่อสร้างตั้งแต่ตอนที่ 18-23 มีประชาชนได้รับเงินค่าเวนคืนที่ดิน จำนวน 1,389 ราย รวมเป็นเงิน 1,892,587,683 บาท