Youtube :Travel MGR
“ขอนแก่น” เป็นอีกหนึ่งจังหวัดท่องเที่ยวทางภาคอีสานที่ชวนให้ไปเที่ยวกัน เพราะว่ามีแหล่งท่องเที่ยวมากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร อีกทั้งยังมีวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านที่น่าสนใจชวนให้ไปสัมผัสกัน
ในทริปเที่ยวนี้ครั้งนี้ “ตะลอนเที่ยว” จึงอยากขอชวนนักเที่ยวทุกคนไปสัมผัสแหล่งท่องเที่ยวของดีที่ถูกซ่อนอยู่ในจังหวัดขอนแก่น ดินแดนแห่งเสียงแคน ดอกคูน โดยที่เที่ยวที่แรกที่เราขอพาไปเที่ยวกัน คือแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันงดงามที่ “จุดชมวิวหินช้างสี” ตั้งอยู่ใน “อุทยานแห่งชาติน้ำพอง”
เมื่อมาถึงที่อุทยานแห่งชาติน้ำพอง เราจอดรถยังจุดจอดรถแล้วเดินมาขึ้นเนินเขาไม่ชันและไม่ไกลมากนัก ก็จะได้สัมผัสกับความสวยงามของจุดชมวิวหินช้างสี ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ให้มีจุดชมวิวสวยๆ แบบเห็นแล้วต้องร้องว้าว!! กันเลยทีเดียว นั่นก็คือมี จุดชมวิวผาหมื่น เป็นผาหินกว้างยื่นออกไปเบื้องหน้า จากจุดนี้เราจะได้เห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเขื่อนอุบลรัตน์อันกว้างใหญ่ไพศาลแบบสุดลูกหูลูกตา ได้สูดอากาศบริสุทธิ์สัมผัสกับสายลมเย็นที่พัดผ่านมากระทบผิวกาย ทำให้เราสามารถยืนชื่นชมวิวธรรมชาติงามๆ และถ่ายรูปกันได้อย่างเพลิดเพลิน
อีกทั้งยังมีการสร้างหอชมวิวมุมสูงให้ได้เดินขึ้นไปชมวิววิวเขื่อนอุบลรัตน์ที่งดงามจับใจ แล้วก็ยังมีจุดชมวิวริมหน้าผาอีกหลายจุดที่ให้ได้มายืนถ่ายรูปเช็คอินไว้เป็นที่ระลึกอันแสนประทับใจกับวิวธรรมชาติอันสวยงาม และเมื่อเดินต่อไปเรื่อยๆ ตามแนวตามทาง ก็จะได้เห็นหินรูปร่างแปลกตามากมาย อาทิ หินรูปงวงช้าง หินแมวน้ำ หินไอโรบอท ที่ธรรมชาติสรรสร้างขึ้นมาอย่างน่าอัศจรรย์ใจ ซึ่งใครจะมองเป็นรูปร่างอื่นก็สุดแต่จินตนาการของแต่ละคน
แล้วก็ยังมีการสร้างสะพานเชื่อมหิน ซึ่งเป็นสะพานไม้ทอดตัวเชื่อมก้อนหินหลายก้อน ให้ได้เดินตามทางเดินชมธรรมชาติสวยๆ และชื่นชมกองหินแปลกตาอย่างหินรูปหัวกะโหลกที่ตั้งอยู่ ให้ได้จินตนาการตามไปอย่างเพลิดเพลิน แล้วก็ยังมีหินรูปร่างแปลกตาอีกหลายจุดที่ธรรมชาติปั้นแต่งขึ้นมาให้ได้ชม ไม่ว่าจะเป็น หินช้างสี ที่เป็นที่มาของชื่อจุดชมวิวหินข้างสี ก็คือก้อนหินขนาดใหญ่ ที่มีส่วนเว้าแล้วมีดินโคลนติดอยู่เนื่องจากบริเวณนี้เมื่ออดีตเคยมีช้างป่าอาศัยอยู่ และช้างเหล่านั้นก็เดินเอาตัวมาสีกับก้อนหินจนทำให้ดินโคลนติดให้เห็นเป็นร่องรอยมาจนทุกวันนี้
อีกทั้งยังมีน้ำในโพรงหิน ที่น้ำไม่เคยแห้งเลยให้ได้ชม มีร่องรอยของการขีดเขียนภาพวาด หรือสัญลักษณ์ต่างๆ ของคนเมื่ออดีตที่ขีดเขียนไว้บนก้อนหิน รวมถึงยังมีหินกุมภลักษณ์ ลักษณะของก้อนหินที่ดูเป็นหลุม เป็นร่องเป็นรูเล็กใหญ่ดูสวยงามแปลกตาดีเสียจริงกับสิ่งที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ขึ้นมา
ครั้นเมื่อได้ชื่นชมกับธรรมชาติอันงดงามที่จุดชมวิวหินช้างสีจนชื่นฉ่ำหัวใจแล้ว ก็ขอพาออกเดินทางไปสัมผัสกับวีชีวิตการทำการเกษตรของชาวขอนแก่นกันที่ “มีกินฟาร์ม” (MEKIN FARM) ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่น่าสนใจ โดยมีปู จงรัก จารุพันธุ์งาม และครอบครัวเป็นเจ้าของสวน ที่ยินดีเปิดบ้านสวนให้นักท่องเที่ยวได้มาเที่ยวชม และสัมผัสวิถีชีวิตอันเรียบง่ายในการทำการเกษตรออร์แกนิคแบบพอเพียง ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถมาเที่ยวที่นี่ได้ทุกวัน เปิดตั้งแต่ 09.00 - 18.00 น. หยุดวันพุธ แต่ขอแนะนำว่าถ้าจะมาเที่ยวที่นี่แล้วอยากทำกิจกรรมพวกเวิร์คชอปควรติดต่อล่วงหน้ามา 1 วัน เพื่อที่ว่าทางมีกินฟาร์มจะได้จัดเตรียมกิจกรรมมากมายให้เหล่านักท่องเที่ยวได้ลงมือทำกันอย่างสนุกสนานเพลิดเพลิน
เมื่อมาถึงที่มีกินฟาร์ม เราจะได้สัมผัสกับอากาศบริสุทธิ์ของสวนเกษตรอันรื่นรมย์ ภายในพื้นที่ 8 ไร่ ในบรรยากาศบ้านๆ ที่ให้ความรู้สึกเหมือนมาเที่ยวบ้านเพื่อน มีการจัดสรรแบ่งพื้นที่ให้เป็นสวนเกษตรอินทรีย์ มีพื้นที่ปลูกพืชผลทุกอย่างที่สามารถกินได้ มีแปลงผักพืชสวนครัวหลากหลายชนิด มีการทำการเกษตรแบบผสมผสาน มีสวนป่า มีนาข้าว มีแปลงดอกไม้ที่สามารถนำมากินได้ แปลงสมุนไพรไทยต่างๆ มีควายได้เห็น มีเล้าไก่เล้าเป็ดให้ชม มีกระถ่อมเถียงนาให้ได้นั่งรับลมธรรมชาติเย็นสบาย เรียกได้ว่ามีความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรทางการเกษตรให้ได้ชื่นชมอย่างเต็มที่
สำหรับกิจกรรมของที่นี่มีให้ทำตามฤดูกาล อย่างเช่น กิจกรรมดำนา ปลูกข้าว และการเก็บเกี่ยวข้าวแบบใช้เคียวเกี่ยวข้าวแบบโบราณให้ได้ร่วมทำกัน และร่วมกันนวดข้าว แล้วที่มีกินฟาร์มยังมีกิจกรรมเวิร์คชอปอื่นๆ ให้ร่วมกันกันอีก ไม่ว่าจะเป็น การได้ลงมือทำอาหาร ทำชาสมุนไพร และทำขนมต่างๆ สไตล์อีสานแบบโฮมคุกกิ้ง
โดยทางสวนจะนำเอาผลผลิตที่มีในฤดูกาลต่างๆ มาให้ได้ลงมือทำอาหารและขนมกัน ไม่ว่าจะเป็น ทำโรลสลัดผักออร์แกนิก การทำข้าวจี่ ทำส้มตำสไตล์อีสาน เป็นต้น แล้วที่นี่ยังเป็นบ้านสวนที่มีอาหารให้บริการแก่นักท่องเที่ยว สามารถมาฝากท้องอิ่มกับอาหารพื้นบ้านสไตล์อีสาน และเครื่องดื่มเลิศรสได้แบบอิ่มสบายท้อง
อีกทั้งที่นี่ยังมีฟาร์มสเตย์น่ารักๆ สไตล์บ้านชวนให้มาพักผ่อนอยู่ร่วมกันกับเจ้าของสวน มีอยู่ 1 หลัง สามารถให้บริการรับแขกที่มาพักได้ 2 คน ราคา 1,500 บาทต่อคืน รวมอาหารเช้าเย็น เรียกว่าเหมือนได้มาอยู่มากินกับญาติพี่น้อง เพื่อให้ทุกคนได้มาสัมผัสมาหาประสบการณ์ใหม่ กับการใช้ชีวิตแบบชาวเกษตรกรที่เรียบง่ายและมีความสุข
หลังจากได้เที่ยวชมสวนเกษตรที่มีกินฟาร์มจนอิ่มเอมใจแล้ว เราออกเดินทางมาสัมผัสกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวอีสานที่ผูกพันกับวิถีการทอผ้าไหม โดยมาดูการทอผ้าไหมแบบใช้สีธรรมชาติกันที่ “กลุ่มไหมแท้ที่แม่ทอ” บ้านนาคำ ต.บ้านเม็ง อ.หนองเรือ ซึ่งนางสุทัศน์ แสนองอาจ เล่าว่ากลุ่มไหมแท้ที่แม่ทอ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2558 มีสมาชิก 28 คน ซึ่งจากชื่อกลุ่มที่ว่า “ไหมแท้ที่แม่ทอ” บ่งบอกถึงความภูมิใจที่แม่บอกสอนให้ทำไหม ซึ่งยังคงรักษาวิถีปลูกหม่อนเลี้ยงไหมแบบดั้งเดิมไว้
ชาวบ้านจะปลูกต้นหม่อน และเลี้ยงตัวไหมเอง จนได้มาซึ่งเส้นไหมแท้ๆ จากนั้นจึงได้นำเส้นไหมแท้เหล่านั้นมาย้อมกับสีธรรมชาติ ที่ได้จากเปลือก ผล และใบไม้ เช่น ประดู่ มะเกลือ เมียด สะเดา ฝาง คลั่ง ที่ปลูกอยู่ตามบ้านและภายในชุมชน
โดยสีที่ได้จากธรรมชาติเหล่านั้นจะให้สีพื้นที่สวยงาม แล้วสีที่ได้แต่ละครั้งจะออกมาไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับธรรมชาติสร้างสรรค์ให้จริงๆ ถือว่าเป็นความภาคภูมิใจของชาวบ้านที่รักษา วิถีการย้อมผ้าตามธรรมชาติไว้ และช่วยกันสืบสานออกมาเป็นชิ้นงานผ้าไหมที่สวยงามและมีคุณค่า
เรามาที่นี่ชาวบ้านจะพาไปชมต้นไม้ต่างๆ ที่สามารถนำมาผลิตเป็นสีย้อมผ้าได้ แล้วโชว์การต้มเปลือกไม้ ใบไม้ที่เก็บมาได้ และนำเส้นไหมแท้ลงไปย้อมในหม้อต้มที่ได้สีจากธรรมชาติ สีของเส้นไหมมีความสวยงามไม่ฉูดฉาดมากนัก ออกเป็นสีธรรมชาติอ่อนๆ และชาวบ้านก็โชว์การทอผ้าไหมให้ได้ชม ซึ่งผ้าไหมของที่นี่จะทอออกมาเป็นผืนผ้านำไปเป็นผ้าตัดเสื้อได้ แล้วยังทอเป็นผ้าคลุมไหล่ ผ้าพันคอที่สวยงาม ชวนให้ซื้อเป็นของฝากติดไม้ติดมือกลับไปบ้าน ถือว่าเป็นการช่วยสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านที่ดียิ่ง ซึ่งถ้าใครได้มาเที่ยวขอนแก่น แล้วอยากได้ผ้าไหมแท้ย้อมสีธรรมชาติ รับรองว่ามาที่นี่แล้วไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สอบถามข้อมูลการท่องเที่ยวจังหวัดขอนแก่นเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานขอนแก่น โทร. 0-4322-7714-5 “มีกินฟาร์ม” ติดต่อจงรัก จารุพันธุ์งาม โทร. 06-1695-9926 “กลุ่มไหมแท้ที่แม่ทอ” ติดต่อสุทัศน์ แสนองอาจ โทร. 08-5229-6796
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Travel MGR
“ขอนแก่น” เป็นอีกหนึ่งจังหวัดท่องเที่ยวทางภาคอีสานที่ชวนให้ไปเที่ยวกัน เพราะว่ามีแหล่งท่องเที่ยวมากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร อีกทั้งยังมีวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านที่น่าสนใจชวนให้ไปสัมผัสกัน
ในทริปเที่ยวนี้ครั้งนี้ “ตะลอนเที่ยว” จึงอยากขอชวนนักเที่ยวทุกคนไปสัมผัสแหล่งท่องเที่ยวของดีที่ถูกซ่อนอยู่ในจังหวัดขอนแก่น ดินแดนแห่งเสียงแคน ดอกคูน โดยที่เที่ยวที่แรกที่เราขอพาไปเที่ยวกัน คือแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันงดงามที่ “จุดชมวิวหินช้างสี” ตั้งอยู่ใน “อุทยานแห่งชาติน้ำพอง”
เมื่อมาถึงที่อุทยานแห่งชาติน้ำพอง เราจอดรถยังจุดจอดรถแล้วเดินมาขึ้นเนินเขาไม่ชันและไม่ไกลมากนัก ก็จะได้สัมผัสกับความสวยงามของจุดชมวิวหินช้างสี ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ ให้มีจุดชมวิวสวยๆ แบบเห็นแล้วต้องร้องว้าว!! กันเลยทีเดียว นั่นก็คือมี จุดชมวิวผาหมื่น เป็นผาหินกว้างยื่นออกไปเบื้องหน้า จากจุดนี้เราจะได้เห็นวิวทิวทัศน์ที่สวยงามของเขื่อนอุบลรัตน์อันกว้างใหญ่ไพศาลแบบสุดลูกหูลูกตา ได้สูดอากาศบริสุทธิ์สัมผัสกับสายลมเย็นที่พัดผ่านมากระทบผิวกาย ทำให้เราสามารถยืนชื่นชมวิวธรรมชาติงามๆ และถ่ายรูปกันได้อย่างเพลิดเพลิน
อีกทั้งยังมีการสร้างหอชมวิวมุมสูงให้ได้เดินขึ้นไปชมวิววิวเขื่อนอุบลรัตน์ที่งดงามจับใจ แล้วก็ยังมีจุดชมวิวริมหน้าผาอีกหลายจุดที่ให้ได้มายืนถ่ายรูปเช็คอินไว้เป็นที่ระลึกอันแสนประทับใจกับวิวธรรมชาติอันสวยงาม และเมื่อเดินต่อไปเรื่อยๆ ตามแนวตามทาง ก็จะได้เห็นหินรูปร่างแปลกตามากมาย อาทิ หินรูปงวงช้าง หินแมวน้ำ หินไอโรบอท ที่ธรรมชาติสรรสร้างขึ้นมาอย่างน่าอัศจรรย์ใจ ซึ่งใครจะมองเป็นรูปร่างอื่นก็สุดแต่จินตนาการของแต่ละคน
แล้วก็ยังมีการสร้างสะพานเชื่อมหิน ซึ่งเป็นสะพานไม้ทอดตัวเชื่อมก้อนหินหลายก้อน ให้ได้เดินตามทางเดินชมธรรมชาติสวยๆ และชื่นชมกองหินแปลกตาอย่างหินรูปหัวกะโหลกที่ตั้งอยู่ ให้ได้จินตนาการตามไปอย่างเพลิดเพลิน แล้วก็ยังมีหินรูปร่างแปลกตาอีกหลายจุดที่ธรรมชาติปั้นแต่งขึ้นมาให้ได้ชม ไม่ว่าจะเป็น หินช้างสี ที่เป็นที่มาของชื่อจุดชมวิวหินข้างสี ก็คือก้อนหินขนาดใหญ่ ที่มีส่วนเว้าแล้วมีดินโคลนติดอยู่เนื่องจากบริเวณนี้เมื่ออดีตเคยมีช้างป่าอาศัยอยู่ และช้างเหล่านั้นก็เดินเอาตัวมาสีกับก้อนหินจนทำให้ดินโคลนติดให้เห็นเป็นร่องรอยมาจนทุกวันนี้
อีกทั้งยังมีน้ำในโพรงหิน ที่น้ำไม่เคยแห้งเลยให้ได้ชม มีร่องรอยของการขีดเขียนภาพวาด หรือสัญลักษณ์ต่างๆ ของคนเมื่ออดีตที่ขีดเขียนไว้บนก้อนหิน รวมถึงยังมีหินกุมภลักษณ์ ลักษณะของก้อนหินที่ดูเป็นหลุม เป็นร่องเป็นรูเล็กใหญ่ดูสวยงามแปลกตาดีเสียจริงกับสิ่งที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ขึ้นมา
ครั้นเมื่อได้ชื่นชมกับธรรมชาติอันงดงามที่จุดชมวิวหินช้างสีจนชื่นฉ่ำหัวใจแล้ว ก็ขอพาออกเดินทางไปสัมผัสกับวีชีวิตการทำการเกษตรของชาวขอนแก่นกันที่ “มีกินฟาร์ม” (MEKIN FARM) ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่น่าสนใจ โดยมีปู จงรัก จารุพันธุ์งาม และครอบครัวเป็นเจ้าของสวน ที่ยินดีเปิดบ้านสวนให้นักท่องเที่ยวได้มาเที่ยวชม และสัมผัสวิถีชีวิตอันเรียบง่ายในการทำการเกษตรออร์แกนิคแบบพอเพียง ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถมาเที่ยวที่นี่ได้ทุกวัน เปิดตั้งแต่ 09.00 - 18.00 น. หยุดวันพุธ แต่ขอแนะนำว่าถ้าจะมาเที่ยวที่นี่แล้วอยากทำกิจกรรมพวกเวิร์คชอปควรติดต่อล่วงหน้ามา 1 วัน เพื่อที่ว่าทางมีกินฟาร์มจะได้จัดเตรียมกิจกรรมมากมายให้เหล่านักท่องเที่ยวได้ลงมือทำกันอย่างสนุกสนานเพลิดเพลิน
เมื่อมาถึงที่มีกินฟาร์ม เราจะได้สัมผัสกับอากาศบริสุทธิ์ของสวนเกษตรอันรื่นรมย์ ภายในพื้นที่ 8 ไร่ ในบรรยากาศบ้านๆ ที่ให้ความรู้สึกเหมือนมาเที่ยวบ้านเพื่อน มีการจัดสรรแบ่งพื้นที่ให้เป็นสวนเกษตรอินทรีย์ มีพื้นที่ปลูกพืชผลทุกอย่างที่สามารถกินได้ มีแปลงผักพืชสวนครัวหลากหลายชนิด มีการทำการเกษตรแบบผสมผสาน มีสวนป่า มีนาข้าว มีแปลงดอกไม้ที่สามารถนำมากินได้ แปลงสมุนไพรไทยต่างๆ มีควายได้เห็น มีเล้าไก่เล้าเป็ดให้ชม มีกระถ่อมเถียงนาให้ได้นั่งรับลมธรรมชาติเย็นสบาย เรียกได้ว่ามีความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรทางการเกษตรให้ได้ชื่นชมอย่างเต็มที่
สำหรับกิจกรรมของที่นี่มีให้ทำตามฤดูกาล อย่างเช่น กิจกรรมดำนา ปลูกข้าว และการเก็บเกี่ยวข้าวแบบใช้เคียวเกี่ยวข้าวแบบโบราณให้ได้ร่วมทำกัน และร่วมกันนวดข้าว แล้วที่มีกินฟาร์มยังมีกิจกรรมเวิร์คชอปอื่นๆ ให้ร่วมกันกันอีก ไม่ว่าจะเป็น การได้ลงมือทำอาหาร ทำชาสมุนไพร และทำขนมต่างๆ สไตล์อีสานแบบโฮมคุกกิ้ง
โดยทางสวนจะนำเอาผลผลิตที่มีในฤดูกาลต่างๆ มาให้ได้ลงมือทำอาหารและขนมกัน ไม่ว่าจะเป็น ทำโรลสลัดผักออร์แกนิก การทำข้าวจี่ ทำส้มตำสไตล์อีสาน เป็นต้น แล้วที่นี่ยังเป็นบ้านสวนที่มีอาหารให้บริการแก่นักท่องเที่ยว สามารถมาฝากท้องอิ่มกับอาหารพื้นบ้านสไตล์อีสาน และเครื่องดื่มเลิศรสได้แบบอิ่มสบายท้อง
อีกทั้งที่นี่ยังมีฟาร์มสเตย์น่ารักๆ สไตล์บ้านชวนให้มาพักผ่อนอยู่ร่วมกันกับเจ้าของสวน มีอยู่ 1 หลัง สามารถให้บริการรับแขกที่มาพักได้ 2 คน ราคา 1,500 บาทต่อคืน รวมอาหารเช้าเย็น เรียกว่าเหมือนได้มาอยู่มากินกับญาติพี่น้อง เพื่อให้ทุกคนได้มาสัมผัสมาหาประสบการณ์ใหม่ กับการใช้ชีวิตแบบชาวเกษตรกรที่เรียบง่ายและมีความสุข
หลังจากได้เที่ยวชมสวนเกษตรที่มีกินฟาร์มจนอิ่มเอมใจแล้ว เราออกเดินทางมาสัมผัสกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวอีสานที่ผูกพันกับวิถีการทอผ้าไหม โดยมาดูการทอผ้าไหมแบบใช้สีธรรมชาติกันที่ “กลุ่มไหมแท้ที่แม่ทอ” บ้านนาคำ ต.บ้านเม็ง อ.หนองเรือ ซึ่งนางสุทัศน์ แสนองอาจ เล่าว่ากลุ่มไหมแท้ที่แม่ทอ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2558 มีสมาชิก 28 คน ซึ่งจากชื่อกลุ่มที่ว่า “ไหมแท้ที่แม่ทอ” บ่งบอกถึงความภูมิใจที่แม่บอกสอนให้ทำไหม ซึ่งยังคงรักษาวิถีปลูกหม่อนเลี้ยงไหมแบบดั้งเดิมไว้
ชาวบ้านจะปลูกต้นหม่อน และเลี้ยงตัวไหมเอง จนได้มาซึ่งเส้นไหมแท้ๆ จากนั้นจึงได้นำเส้นไหมแท้เหล่านั้นมาย้อมกับสีธรรมชาติ ที่ได้จากเปลือก ผล และใบไม้ เช่น ประดู่ มะเกลือ เมียด สะเดา ฝาง คลั่ง ที่ปลูกอยู่ตามบ้านและภายในชุมชน
โดยสีที่ได้จากธรรมชาติเหล่านั้นจะให้สีพื้นที่สวยงาม แล้วสีที่ได้แต่ละครั้งจะออกมาไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับธรรมชาติสร้างสรรค์ให้จริงๆ ถือว่าเป็นความภาคภูมิใจของชาวบ้านที่รักษา วิถีการย้อมผ้าตามธรรมชาติไว้ และช่วยกันสืบสานออกมาเป็นชิ้นงานผ้าไหมที่สวยงามและมีคุณค่า
เรามาที่นี่ชาวบ้านจะพาไปชมต้นไม้ต่างๆ ที่สามารถนำมาผลิตเป็นสีย้อมผ้าได้ แล้วโชว์การต้มเปลือกไม้ ใบไม้ที่เก็บมาได้ และนำเส้นไหมแท้ลงไปย้อมในหม้อต้มที่ได้สีจากธรรมชาติ สีของเส้นไหมมีความสวยงามไม่ฉูดฉาดมากนัก ออกเป็นสีธรรมชาติอ่อนๆ และชาวบ้านก็โชว์การทอผ้าไหมให้ได้ชม ซึ่งผ้าไหมของที่นี่จะทอออกมาเป็นผืนผ้านำไปเป็นผ้าตัดเสื้อได้ แล้วยังทอเป็นผ้าคลุมไหล่ ผ้าพันคอที่สวยงาม ชวนให้ซื้อเป็นของฝากติดไม้ติดมือกลับไปบ้าน ถือว่าเป็นการช่วยสร้างรายได้ให้กับชาวบ้านที่ดียิ่ง ซึ่งถ้าใครได้มาเที่ยวขอนแก่น แล้วอยากได้ผ้าไหมแท้ย้อมสีธรรมชาติ รับรองว่ามาที่นี่แล้วไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สอบถามข้อมูลการท่องเที่ยวจังหวัดขอนแก่นเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานขอนแก่น โทร. 0-4322-7714-5 “มีกินฟาร์ม” ติดต่อจงรัก จารุพันธุ์งาม โทร. 06-1695-9926 “กลุ่มไหมแท้ที่แม่ทอ” ติดต่อสุทัศน์ แสนองอาจ โทร. 08-5229-6796
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Travel MGR