Youtube :Travel MGR
อาหารต่างชาติที่ “ตระเวนกิน” ไม่ค่อยจะได้พามิตรนักนักกินมาลองลิ้มกันสักเท่าไหร่ เห็นจะเป็น “อาหารอาราเบียน” ที่มีจุดเด่นอยู่ที่กลิ่นหอมของเครื่องเทศ ในมื้อนี้เราจึงขอพาทุกคนมาสัมผัสกับอาหารอาราเบียนขนานแท้กันที่ “โรงแรม อัล มีรอซ” (Al Meroz) ซึ่งเป็นโรงแรมที่ตกแต่งสวยงามในรูปแบบคอนเทมโพรารี่อิสลามิกสไตล์ ในโลกแห่งสีครีมและสีน้ำตาลทอง ทั้งโครงสร้างสถาปัตยกรรมและการตกแต่งภายใน
โดย “Al Meroz” ในภาษาอาหรับ แปลว่า “มรดก” สื่อความหมายให้ Al Meroz เป็นตัวแทนแห่งมรดกเป็นความภาคภูมิใจของมุสลิมทั่วโลก สะท้อนถึงความเป็นพี่เป็นน้องผ่านฮาลาลโฮเต็ล ที่เดินตามหลักศาสนาอย่างถูกต้อง และที่นี่มีอาหารอาราเบียนให้ได้ลองลิ้มกันที่ “ห้องอาหารบารากัต” (Barakat) “บารากัต” แปลว่า “สิริมงคล” ภายในห้องอาหารมีบรรยากาศสวยงาม ตกแต่งผสมผสานความงามสไตล์อาราเบียนและเมดิเตอร์เรเนียนเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
“ห้องอาหารบารากัต” มีความโดดเด่นด้วยการนำเสนออาหารในรูปแบบ Artisan Food อาติซาน “นั้นคือปรุงแต่งอย่างละเมียดละไม ประหนึ่งงานศิลปะ ดุจงานฝีมือของช่าง” มีครัวเปิดให้ได้เห็นการปรุงอาหาร และได้สัมผัสกลิ่นหอมของอาหารที่ชวนลิ้มลอง และที่นี่ยังปรับเรื่องของเครื่องเทศให้ไม่ฉุนมากเกินไป เพื่อให้นักกินชาวไทยได้กินกันอย่างสบาย แต่ยังคงไว้ซึ่งรสชาติอาหารอาราเบียนแท้ๆ บวกอาหารอินเดีย มีความเป็นอาหารฮาลาลแท้ๆ ที่อิมพอร์ตวัตถุดิบพรีเมียมจากแถบอาหรับมาโดยเฉพาะ รวมถึงยังมีอาหารเมดิเตอร์เรเนียนสไตล์กริลล์กับสลัดนำเสนอด้วย มีเมนูให้ลองชิมมากมายและมีการปรับเมนูอยู่เรื่อยๆ โดยในแต่ละเดือนจะมีเมนูพิเศษให้ได้ลิ้มลองกัน
สำหรับเมนูที่ชวนกินนั้นมีมากมาย อย่างที่ขอแนะนำให้เลือกอาหารจานเด่นมาชิมกันให้ได้ก็มี ปาปดิชาทถั่วลูกไก่และซอสอินเดีย (250 บาท) หน้าตาชวนกินเป็นเมนูในแถบอินเดียอาหรับ ตัวพระเอกคือแป้ง Pani puri ที่นำมาทอดให้พองกรอบเป็นทรงกลม แล้วด้วยหยอดไส้ที่เป็นมันฝรั่งผัดกับซอสและเครื่องเทศ ส่งเข้าปากทั้งคำเคี้ยวกร้วมเต็มปากเต็มคำ สัมผัสได้ถึงความกรอบของแป้งเข้ากันดีกับไส้รสกลมกล่อมหอมกลิ่นเครื่องเทศ
ต่อด้วยเมนู พัฟฝรั่งเศสไส้พริกหวาน (250 บาท) เมนูอาหารว่างแบบคาว ที่นำแป้งพายมาผสมสไตล์ฝรั่งเศสกินกับ Tomato Smoked Oil Sauce เคี่ยวมะเขือเทศและหัวหอมผัดให้เข้ากัน นำมาปั่นกับ Smoked Oil (ไม้หอมมารมควันผสมกับน้ำมันมะกอก และ Cream Fraiche-ครีมเปรี้ยวแบบฝรั่งเศส) ท็อปด้วยซอสครีมเลมอนกับแยมหัวหอม และมีซอสมะเขือเทศกับหอมหัวใหญ่ใส่มาด้วย กินแป้งพายบางกรอบเข้ากันดีกับไส้รสกลมกล่อมลิ้น และซอสรสละมุนกลมกลืนเข้ากันดีจริง
ถัดมาลิ้มรสเมนูซิกเนเจอร์ ข้าวหมกกุ้งล็อบสเตอร์ (699 บาท) เมนูอาราเบียนที่ทำข้าวหมกเครื่องเทศรสชาติพิเศษ ซึ่งนำข้าวบัสมาตีหรือราชินีแห่งความหอมมาปรุงแต่งเป็นอาหารจานเด็ด ใส่กุ้งล็อบสเตอร์จากแคนาเดียน เสิร์ฟเคียงมาด้วยผักที่เชผดองเอง และซอสมิ้นต์ ซอสสะระแหน่ปั่นกับโยเกิร์ต และหอมเจียว ชิมข้าวหมกรสชาติดีหอมกลิ้นเครื่องเทศอ่อนๆ กินเข้ากันดีกับกุ้งล็อบสเตอร์เนื้อแน่นเคี้ยวเด้ง อร่อยโดนใจปากมากเมนูนี้
จากนั้นมาชิมเมนูนี้ แกงน่องไก่มาซาล่า (380 บาท) เชฟนำน่องไก่มาทอดให้หนังพอตึงๆ แล้วนำมาแกงกับเครื่องแกงมาซาล่า เป็นแกงสไตล์อินเดีย เสิร์ฟพร้อมกับแป้งนานที่เชฟทำเอง กินแป้งนานหนานุ่มกำลังดี เข้ากับแกงไก่หอมกลิ่นเครื่องแกงมาซาล่าขึ้นจมูกนิดๆ เนื้อไก่นุ่มชุ่มเครื่องแกงรสดี
แล้วมาลองลิ้มเมนูสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน ปลาแซลมอนซูวีกับกระเทียมน้ำมันมะกอก (550 บาท) เชฟนำเนื้อปลาแซลมอนสดจากนอร์เวย์นำไปซูวีก่อน 2 ชม. แล้วนำมากริลล์จนสุกได้ที่ เคียงมาด้วยมูสอโวคาโดปั่นปรุงรส ซอสครีมเลมอน ผักย่าง และมีมะนาวมาให้บีบเพิ่มรสชาติ ลิ้มรสปลาแซลมอนเนื้อนุ่มแน่นสดหวานดี เข้ากับซอสเลมอนออกเปรี้ยวนิดๆ กลมกล่อมเข้ากัน
กินของคาวแล้วชวนมากินขนมหวานอย่าง ลัดดู (220 บาท) สีสันสวยงาม เป็นขนมอินเดียโบราณ ถือว่าเป็นขนมมงคล มีลักษณะเป็นทรงกลมสีส้มทำจากแป้งถั่ว รสออกหวานหอมกลื่นเครื่องเทศ เคี้ยวกรุบเพลินปากกับเม็ดแตงโม
ปิดท้ายล้างปากด้วย ไอศกรีมนมแพะรสอินทผลัม (120 บาท) เป็นไอศกรีมนมแพะทางเชฟทำเอง ใส่อินทผลัมที่อิมพอร์ตมาจากตุรกีกับซาอุดิอาระเบียที่คัดมาเป็นพิเศษ ตกแต่งด้วยเชอร์รี่และสตรอเบอร์รี่ กินไอศกรีมนมแพะรสหวานเนื้อนุ่มหอมนมแพะ ผสานกับความหอมของกลิ่นอินทผลัมรสหวานละมุนเข้ากันดีแท้
แล้วนอกจากเมนูคาว-หวาน ที่ได้นำเสนอมาเหล่านี้ ก็ยังมีเมนูจานเด็ดอื่นๆ ที่ชวนลองลิ้มอีก อาทิ เมนูอื่นๆ สลัดบูราต้าชีส (300 บาท) ข้าวหมกแกะ (280 บาท) ซี่โครงแกะย่างกับน้ำมันเห็ดทรัฟเฟิล (950 บาท) ซีฟู้ดทาวเวอร์ (2,500 บาท) และอีกหลายเมนูอาราเบียนที่ชวนให้มาชิมกันด้วยตัวเองที่ “ห้องอาหารบารากัต” โรงแรม อัล มีรอซ
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“ห้องอาหารบารากัต” ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 โรงแรม อัล มีรอซ (Al Meroz Hotel) 4 ถนนรามคำแหงซอย 5 เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ เปิดทุกวัน เวลา 11.30 - 22.00 น. (ออเดอร์สุดท้ายเวลา 21.30 น.) ถ้ามากินอาหารแนะนำว่าควรโทร. มาจองโต๊ะก่อน โทร. 0-2136-8700 ต่อ 4305 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.almerozhotel.com, https://www.facebook.com/almeroz.bangkok
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Travel MGR
อาหารต่างชาติที่ “ตระเวนกิน” ไม่ค่อยจะได้พามิตรนักนักกินมาลองลิ้มกันสักเท่าไหร่ เห็นจะเป็น “อาหารอาราเบียน” ที่มีจุดเด่นอยู่ที่กลิ่นหอมของเครื่องเทศ ในมื้อนี้เราจึงขอพาทุกคนมาสัมผัสกับอาหารอาราเบียนขนานแท้กันที่ “โรงแรม อัล มีรอซ” (Al Meroz) ซึ่งเป็นโรงแรมที่ตกแต่งสวยงามในรูปแบบคอนเทมโพรารี่อิสลามิกสไตล์ ในโลกแห่งสีครีมและสีน้ำตาลทอง ทั้งโครงสร้างสถาปัตยกรรมและการตกแต่งภายใน
โดย “Al Meroz” ในภาษาอาหรับ แปลว่า “มรดก” สื่อความหมายให้ Al Meroz เป็นตัวแทนแห่งมรดกเป็นความภาคภูมิใจของมุสลิมทั่วโลก สะท้อนถึงความเป็นพี่เป็นน้องผ่านฮาลาลโฮเต็ล ที่เดินตามหลักศาสนาอย่างถูกต้อง และที่นี่มีอาหารอาราเบียนให้ได้ลองลิ้มกันที่ “ห้องอาหารบารากัต” (Barakat) “บารากัต” แปลว่า “สิริมงคล” ภายในห้องอาหารมีบรรยากาศสวยงาม ตกแต่งผสมผสานความงามสไตล์อาราเบียนและเมดิเตอร์เรเนียนเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว
“ห้องอาหารบารากัต” มีความโดดเด่นด้วยการนำเสนออาหารในรูปแบบ Artisan Food อาติซาน “นั้นคือปรุงแต่งอย่างละเมียดละไม ประหนึ่งงานศิลปะ ดุจงานฝีมือของช่าง” มีครัวเปิดให้ได้เห็นการปรุงอาหาร และได้สัมผัสกลิ่นหอมของอาหารที่ชวนลิ้มลอง และที่นี่ยังปรับเรื่องของเครื่องเทศให้ไม่ฉุนมากเกินไป เพื่อให้นักกินชาวไทยได้กินกันอย่างสบาย แต่ยังคงไว้ซึ่งรสชาติอาหารอาราเบียนแท้ๆ บวกอาหารอินเดีย มีความเป็นอาหารฮาลาลแท้ๆ ที่อิมพอร์ตวัตถุดิบพรีเมียมจากแถบอาหรับมาโดยเฉพาะ รวมถึงยังมีอาหารเมดิเตอร์เรเนียนสไตล์กริลล์กับสลัดนำเสนอด้วย มีเมนูให้ลองชิมมากมายและมีการปรับเมนูอยู่เรื่อยๆ โดยในแต่ละเดือนจะมีเมนูพิเศษให้ได้ลิ้มลองกัน
สำหรับเมนูที่ชวนกินนั้นมีมากมาย อย่างที่ขอแนะนำให้เลือกอาหารจานเด่นมาชิมกันให้ได้ก็มี ปาปดิชาทถั่วลูกไก่และซอสอินเดีย (250 บาท) หน้าตาชวนกินเป็นเมนูในแถบอินเดียอาหรับ ตัวพระเอกคือแป้ง Pani puri ที่นำมาทอดให้พองกรอบเป็นทรงกลม แล้วด้วยหยอดไส้ที่เป็นมันฝรั่งผัดกับซอสและเครื่องเทศ ส่งเข้าปากทั้งคำเคี้ยวกร้วมเต็มปากเต็มคำ สัมผัสได้ถึงความกรอบของแป้งเข้ากันดีกับไส้รสกลมกล่อมหอมกลิ่นเครื่องเทศ
ต่อด้วยเมนู พัฟฝรั่งเศสไส้พริกหวาน (250 บาท) เมนูอาหารว่างแบบคาว ที่นำแป้งพายมาผสมสไตล์ฝรั่งเศสกินกับ Tomato Smoked Oil Sauce เคี่ยวมะเขือเทศและหัวหอมผัดให้เข้ากัน นำมาปั่นกับ Smoked Oil (ไม้หอมมารมควันผสมกับน้ำมันมะกอก และ Cream Fraiche-ครีมเปรี้ยวแบบฝรั่งเศส) ท็อปด้วยซอสครีมเลมอนกับแยมหัวหอม และมีซอสมะเขือเทศกับหอมหัวใหญ่ใส่มาด้วย กินแป้งพายบางกรอบเข้ากันดีกับไส้รสกลมกล่อมลิ้น และซอสรสละมุนกลมกลืนเข้ากันดีจริง
ถัดมาลิ้มรสเมนูซิกเนเจอร์ ข้าวหมกกุ้งล็อบสเตอร์ (699 บาท) เมนูอาราเบียนที่ทำข้าวหมกเครื่องเทศรสชาติพิเศษ ซึ่งนำข้าวบัสมาตีหรือราชินีแห่งความหอมมาปรุงแต่งเป็นอาหารจานเด็ด ใส่กุ้งล็อบสเตอร์จากแคนาเดียน เสิร์ฟเคียงมาด้วยผักที่เชผดองเอง และซอสมิ้นต์ ซอสสะระแหน่ปั่นกับโยเกิร์ต และหอมเจียว ชิมข้าวหมกรสชาติดีหอมกลิ้นเครื่องเทศอ่อนๆ กินเข้ากันดีกับกุ้งล็อบสเตอร์เนื้อแน่นเคี้ยวเด้ง อร่อยโดนใจปากมากเมนูนี้
จากนั้นมาชิมเมนูนี้ แกงน่องไก่มาซาล่า (380 บาท) เชฟนำน่องไก่มาทอดให้หนังพอตึงๆ แล้วนำมาแกงกับเครื่องแกงมาซาล่า เป็นแกงสไตล์อินเดีย เสิร์ฟพร้อมกับแป้งนานที่เชฟทำเอง กินแป้งนานหนานุ่มกำลังดี เข้ากับแกงไก่หอมกลิ่นเครื่องแกงมาซาล่าขึ้นจมูกนิดๆ เนื้อไก่นุ่มชุ่มเครื่องแกงรสดี
แล้วมาลองลิ้มเมนูสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน ปลาแซลมอนซูวีกับกระเทียมน้ำมันมะกอก (550 บาท) เชฟนำเนื้อปลาแซลมอนสดจากนอร์เวย์นำไปซูวีก่อน 2 ชม. แล้วนำมากริลล์จนสุกได้ที่ เคียงมาด้วยมูสอโวคาโดปั่นปรุงรส ซอสครีมเลมอน ผักย่าง และมีมะนาวมาให้บีบเพิ่มรสชาติ ลิ้มรสปลาแซลมอนเนื้อนุ่มแน่นสดหวานดี เข้ากับซอสเลมอนออกเปรี้ยวนิดๆ กลมกล่อมเข้ากัน
กินของคาวแล้วชวนมากินขนมหวานอย่าง ลัดดู (220 บาท) สีสันสวยงาม เป็นขนมอินเดียโบราณ ถือว่าเป็นขนมมงคล มีลักษณะเป็นทรงกลมสีส้มทำจากแป้งถั่ว รสออกหวานหอมกลื่นเครื่องเทศ เคี้ยวกรุบเพลินปากกับเม็ดแตงโม
ปิดท้ายล้างปากด้วย ไอศกรีมนมแพะรสอินทผลัม (120 บาท) เป็นไอศกรีมนมแพะทางเชฟทำเอง ใส่อินทผลัมที่อิมพอร์ตมาจากตุรกีกับซาอุดิอาระเบียที่คัดมาเป็นพิเศษ ตกแต่งด้วยเชอร์รี่และสตรอเบอร์รี่ กินไอศกรีมนมแพะรสหวานเนื้อนุ่มหอมนมแพะ ผสานกับความหอมของกลิ่นอินทผลัมรสหวานละมุนเข้ากันดีแท้
แล้วนอกจากเมนูคาว-หวาน ที่ได้นำเสนอมาเหล่านี้ ก็ยังมีเมนูจานเด็ดอื่นๆ ที่ชวนลองลิ้มอีก อาทิ เมนูอื่นๆ สลัดบูราต้าชีส (300 บาท) ข้าวหมกแกะ (280 บาท) ซี่โครงแกะย่างกับน้ำมันเห็ดทรัฟเฟิล (950 บาท) ซีฟู้ดทาวเวอร์ (2,500 บาท) และอีกหลายเมนูอาราเบียนที่ชวนให้มาชิมกันด้วยตัวเองที่ “ห้องอาหารบารากัต” โรงแรม อัล มีรอซ
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“ห้องอาหารบารากัต” ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 โรงแรม อัล มีรอซ (Al Meroz Hotel) 4 ถนนรามคำแหงซอย 5 เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ เปิดทุกวัน เวลา 11.30 - 22.00 น. (ออเดอร์สุดท้ายเวลา 21.30 น.) ถ้ามากินอาหารแนะนำว่าควรโทร. มาจองโต๊ะก่อน โทร. 0-2136-8700 ต่อ 4305 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.almerozhotel.com, https://www.facebook.com/almeroz.bangkok
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com หรือติดตามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook :Travel @ Manager
ชมคลิปต่าง ๆ ได้ที่ Travel MGR
