ช่วงหน้าฝน หลายคนอาจคิดว่าไม่เหมาะกับการไปเที่ยว มองว่าเป็น “โลว์ซีซัน” แต่แท้จริงแล้วหน้าฝนถือเป็น “กรีนซีซัน” ที่สร้างสภาพแวดล้อมให้ชุ่มชื่นฉ่ำเย็น โดยเฉพาะในป่าเขาก็ยิ่งเพิ่มความเขียวขจีให้ต้นไม้ใบหญ้าดูสดชื่นยิ่งนัก
วันนี้ขอพาไปเยือน 3 โครงการหลวงในภาคเหนือ ที่มีทิวทัศน์ที่สวยงามน่าเที่ยวแม้ในหน้าฝน ได้แก่ “สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง” จ.เชียงใหม่ “โครงการหลวงหนองหอย” จ.เชียงใหม่ และ “โครงการหลวงแม่ลาน้อย” จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งโครงการหลวงทั้ง 3 แห่งนี้เกิดมาจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ที่มีพระราชประสงค์ให้ชาวไทยทั่วทุกแห่งหนได้อยู่ดีกินดี การได้มาเยือนโครงการหลวงทั้งสามแห่งจึงเป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่มีต่อปวงชนชาวไทยได้อีกทางหนึ่ง
“อ่างขาง” หน้าฝน รื่นรมย์ชุ่มฉ่ำ
ความงดงามของดอยอ่างขาง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ถูกยกให้เป็นหนึ่งใน “สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย” ซึ่งหลายๆ คนเลือกมาเยือนอ่างขางในหน้าหนาวเพราะต้องการมาสัมผัสอากาศหนาวและดอกไม้สวยๆ แต่ทราบไหมว่าอ่างขางไม่ได้มีดีเฉพาะในหน้าหนาวเท่านั้น แต่ในหน้าฝนก็มีมนต์เสน่ห์ไม่แพ้กัน
เนื่องด้วยอากาศที่เย็นสบายตลอดปีเพราะตั้งอยู่บนพื้นที่สูง ดอยอ่างขางช่วงหน้าฝนจึงยังเย็นฉ่ำ แม้แสงแดดและท้องฟ้าจะไม่ใส บางช่วงฟ้าครึ้มขมุกขมัว แต่ก็มีสายฝนฉ่ำเย็นสร้างบรรยากาศของความร่มรื่นชุ่มฉ่ำเย็นสบาย ทั้งยังเพลินตาไปกับความเขียวขจีของขุนเขาโดยรอบ เหมาะต่อการมาพักผ่อนแบบสโลวไลฟ์เสียเหลือเกิน
พูดถึงไฮไลท์ของอ่างขาง นั่นก็คือ “สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง” ที่หลายๆ คนอยากมาชมความงามของดอกไม้เมืองหนาวนานาชนิด ในหน้าฝนนี้ก็ยังมีดอกไม้งามให้ชมกันอยู่เช่นเคย โดยส่วนใหญ่ก็จะเป็นดอกไม้งามประจำช่วงฤดูฝน อาทิ ดอกม่วงอัมรินทร์ ที่ออกดอกสีม่วงสดดูโดดเด่น ต้นไม้ชนิดนี้เป็นไม้พุ่มสกุลเดียวกับดอกโคลงเคลงของไทยเรา แต่ทรงพุ่ม ลำต้นและกลีบดอกใหญ่กว่า ซึ่งดอกจะบานตลอดในช่วงเดือนกันยายน
นอกจากนี้ในสวนแปดสิบช่วงหน้าฝนก็มีดอกไม้ที่มีสีสดใสหลากสีสัน ทั้งสี แดง ชมพู เหลือง ขาว นั่นคือดอกเดเลีย หรือชื่อไทยนิยมเรียกขานกันว่า รักเร่ รักแรก ดาเลีย เป็นต้น เดเลียเป็นพืชวงศ์เดียวกับเดซี่ เป็นไม้ดอกที่มีถิ่นกำเนิดใน เม็กซิโก โคลัมเบีย และในทวีปอเมริกากลาง
และในช่วงหน้าฝนนี่เองที่เป็นช่วงเวลาทองของผลไม้อย่าง “พลับ” ที่ให้ผลสีเหลืองชวนกิน โดยพลับที่สถานีเกษตรฯ นี้ทาง ม.เกษตรศาสตร์ได้นำพันธุ์ต่างๆ เข้ามาวิจัยร่วมกับมูลนิธิโครงการหลวงเมื่อปี พ.ศ. 2512 ที่สถานีวิจัยดอยปุย จนกระทั่งประสบผลสำเร็จสามารถส่งเสริมปลูกเป็นการค้า บนดอยอ่างขางนี้ในช่วงเดือนมีนาคมพลับจะเริ่มออกดอก หลังจากนั้นจะมีการปลิดผลเพื่อห่อผลในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม และเก็บเกี่ยวผลผลิตสด เดือนสิงหาคม-กันยายนของทุกปี ซึ่งในหน้าฝนอย่างนี้นับเป็นโอกาสดีที่เราจะได้ลิ้มรสพลับสดๆ ใหม่ๆ บนดอยอ่างขางกัน
ส่วนแหล่งท่องเที่ยวด้านนอกสถานีเกษตรฯ ก็ยังคงเที่ยวได้เช่นเดิม อาจจะไม่ได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นสวยๆ ที่จุดชมวิว แต่รับรองว่าต้องได้เห็นหมอกฝนลอยเรี่ยภูเขา เป็นความงามในหน้าฝนที่มีเสน่ห์ไม่น้อย
แอบกระซิบข้อดีของการเที่ยวหน้าฝนบนดอยอ่างขางอีกอย่างหนึ่งว่า ราคาที่พักจะลดราคาลงมาจากช่วงหน้าไฮซีซั่นเกือบครึ่งเลยทีเดียวอีกด้วย
“ม่อนแจ่ม” โครงการหลวงหนองหอย
หลายคนอาจไม่คุ้นกับชื่อของ “โครงการหลวงหนองหอย” เท่าไรนัก แต่หากเอ่ยชื่อ “ม่อนแจ่ม” เชื่อว่าจะเป็นที่รู้จักมากกว่า เพราะที่นี่ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวของ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นที่นิยมไม่น้อย โดยม่อนแจ่มถือเป็นส่วนหนึ่งของ “ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย” หรือ “โครงการหลวงหนองหอย” ที่ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2527 เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องการปลูกฝิ่นและทำไร่เลื่อนลอย
ที่โครงการหลวงหนองหอยปัจจุบันนอกจากจะวิจัยพัฒนาพืชผักโครงการหลวงแล้ว ยังส่งเสริมให้ชาวบ้านที่เข้าร่วมโครงการปลูกพืชผักตามระดับความสูงของพื้นที่และสอดคล้องกับวิถีชุมชน โดยโครงการจะทำการรับซื้อผลิตผลทางการเกษตรจากสมาชิกที่ทำการปลูกพืชผักตามข้อกำหนดของโครงการหลวง ซึ่งเป็นพืชผักปลอดสาร การันตีในเรื่องคุณภาพ
ภายในโครงการหลวงหนองหอยมีแปลงผักและงานวิจัยผักเมืองหนาวให้นักท่องเที่ยวผู้สนใจได้เที่ยวชมและศึกษาดูงาน ขณะที่ในละแวกโครงการก็มีแปลงปลูกพืชผักแบบขั้นบันไดของชาวบ้านที่บางแห่งถือเป็นจุดชมวิวชั้นดี มีแปลงพืชผักที่ปลูกเป็นขั้นบันไดอย่างสวยงามกว้างไกลให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชมทัศนากันอย่างเพลินเพลิน
ส่วน “ม่อนแจ่ม” หรือ “ดอยม่อนแจ่ม” มีสภาพพื้นที่เป็นแนวสันเขา สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 1,350 เมตร ที่นี่เป็นจุดชมวิวบนภูเขาที่ไม่ไกลจากเมืองเชียงใหม่มากนัก สามารถเดินทางได้สะดวก จึงมีนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมารับอากาศบริสุทธิ์และชมทิวทัศน์ที่นี่เป็นจำนวนมากในช่วงฤดูหนาว
แต่ในหน้าฝนที่ม่อนแจ่มก็ยังสามารถเที่ยวได้ เพราะมีจุดชมวิวทิวทัศน์อันเปี่ยมเสน่ห์ ด้านหนึ่งเมื่อมองลงไปจะเห็นหมู่บ้านและแปลงปลูกผักแบบขั้นบันไดไต่ไล่ระดับไปตามแนวขุนเขาอย่างสวยงาม ส่วนอีกด้านหนึ่งทางฝั่งร้านอาหารก็สามารถชมหมอกฝนที่ไหลไปตามแรงลม สูดอากาศสดชื่นของกลิ่นฝนเย็นฉ่ำกันไป
บนม่อนแจ่มยังมีอีกหนึ่งเสน่ห์อันชวนประทับใจไปกับการจัดตกแต่งภูมิทัศน์อย่างสวยงาม มากไปด้วยไม้ดอกไม้ประดับหลากสีสันสดใส โดยเฉพาะกับแปลงปลูก “เวอร์บีน่า” ดอกไม้ที่จะออกดอกในหน้าฝน ที่ช่วยเสริมทัศนียภาพของม่อนแจ่มช่วงหน้าฝนได้เป็นอย่างดี
ชมนาขั้นบันได “แม่ลาน้อย”
“โครงการหลวงแม่ลาน้อย” ต.ห้วยห้อม อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน เป็นอีกหนึ่งโครงการหลวงที่น่าเที่ยวในหน้าฝนอีกหนึ่งแห่ง
แต่เดิมชาวบ้านที่นี่เคยปลูกฝิ่น ทำไร่เลื่อนลอย และทำไร่แบบผิดวิธี จนผืนป่าในหมู่บ้านถูกทำลายกลายเป็นป่าเสื่อมโทรม ชาวบ้านต้องอยู่อย่างแร้นแค้น แต่ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 พระองค์ทรงนำโครงการหลวงมาพลิกฟื้นผืนแผ่นดินให้กลับมาอุดมสมบูรณ์เขียวขจี พร้อมทั้งนำองค์ความรู้มาถ่ายทอดให้ชาวบ้านได้รู้จักวิธีการทำการเกษตรอย่างยั่งยืน และหยุดการทำไร่เลื่อนลอยอันเป็นสาเหตุสำคัญของการตัดไม้ทำลายป่า จนในปัจจุบันชาวบ้านในพื้นที่โครงการหลวงแม่ลาน้อยและพื้นที่ใกล้เคียง มีสภาพความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีพออยู่พอกินไม่ยากจนไม่ลำบากยากแค้นเหมือนแต่ก่อน
โครงการหลวงแม่ลาน้อยตั้งอยู่บนความสูง 900-1,100 เมตรจากระดับน้ำทะเล มีประชากรในพื้นที่ประกอบด้วย 2 ชนเผ่าหลักๆ คือ ชาวละว้า(ลัวะ)และชาวปกาเกอะญอ(กะเหรี่ยง)
หนึ่งในจุดเที่ยวชมทุ่งนาขั้นบันไดอันสวยงามที่ถือเป็นไฮไลท์อันโดดเด่นของ อ.แม่ลาน้อย และ จ.แม่ฮ่องสอนก็คือในบริเวณพื้นที่ “ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงแม่ลาน้อย” แห่งบ้านดง ต.ห้วยห้อม ที่ถือเป็นหนึ่งในจุดเที่ยวชมทุ่งนาขั้นบันไดชั้นเลิศ สวยงามติดอันดับต้นๆของเมืองไทย
โครงการหลวงแม่ลาน้อยมีไฮไลท์สำคัญทางการท่องเที่ยวอยู่ที่ทุ่งนาขั้นบันไดอันสวยงาม ซึ่งเดิมนั้นชาวบ้านในพื้นที่ปลูกข้าวกันตามมีตามเกิด เมื่อฝนตกน้ำก็ไหลชะหน้าดินไป อีกทั้งน้ำยังไหลผ่านไปไม่เหลือน้ำไว้สำหรับทำนา ทางโครงการหลวงจึงเข้ามาส่งเสริมการทำนาแบบขั้นบันได เพื่อจะได้มีน้ำกักเก็บไว้ปลูกข้าว พร้อมทั้งส่งเสริมการปลูกหญ้าแฝกเพื่อช่วยยึดผิวดินและป้องกันการพังทลายของหน้าดิน
ในช่วงฤดูฝนทุ่งนาขั้นบันไดที่นี่จะดูเขียวจีสดสวยสบายตา ต้นข้าวในแปลงนาช่วงต้นฤดูฝนอาจเป็นต้นเล็กๆ ดูบางตา แต่พอเข้าช่วงกลางๆ ของฤดูฝนต้นข้าวจะเติบโตเต็มที่เป็นต้นใหญ่เขียวขจีสบายตายิ่งนัก ส่วนในช่วงฤดูหนาวราวเดือน พ.ย.-ธ.ค. ท้องทุ่งนาขั้นบันไดที่นี่จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองอร่ามรอวันเก็บเกี่ยว เป็นความสวยงามของแม่ลาน้อยที่ไม่อยากให้พลาดชม
*****************************************
สอบถามรายละเอียดได้ที่ สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง โทร.0 5396 9489 โครงการหลวงหนองหอย โทร. 08 1950 9767 โครงการหลวงแม่ลาน้อย โทร.0 5361 9533-4 หรือ 08 3324 3062 หรือที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่ โทร.0 5324 8604-5 หรือสำนักงานแม่ฮ่องสอน โทร. 0 5361 2982
*****************************************
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com