โดย : ปิ่น บุตรี(pinn109@hotmail.com)
“ทิวทัศน์สวย รวยป่าใหญ่ มีช้างหลาย ดอกไม้งาม ลือนามวีรบุรุษ สุดยอดผ้าไหม พระใหญ่ทวารวดี”
คำขวัญส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดชัยภูมิ
ทุกๆปีพอถึงช่วงฤดูฝนจังหวัดชัยภูมิจะคึกคักขึ้นมาทันตาเห็น กลายเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่นักท่องเที่ยวหมายปอง เพราะช่วงนี้“ทุ่งดอกกระเจียว” 2 แหล่งใหญ่ในจังหวัดชัยภูมิจะพากันออกดอกเบ่งบานสวยงาม ดึงดูดให้ผู้คนเดินทางไปชมความสวยงามกันเป็นจำนวนมาก
ทุ่งดอกกระเจียว แม้จะเที่ยวได้เฉพาะในช่วงฤดูฝน แต่ว่าก็สามารถสร้างชื่อและเอกลักษณ์ให้กับจังหวัดชัยภูมิได้อย่างดียิ่ง จนชัยภูมิถูกยกให้เป็นเมืองแห่งทุ่งดอกกระเจียวอันลือลั่น
ชัยภูมิ เมืองแห่งทุ่งดอกกระเจียว
ดอกกระเจียวจึงได้ชื่อว่าเป็น “ราชินีแห่งป่าฝน” เพราะเป็นหนึ่งในดอกไม้ที่มากับฝนอย่างแท้จริง เพราะเมื่อวสันต์ฤดูมาเยือน ฟ้าชุ่มฉ่ำ ดินชุ่มน้ำ มวลหมู่“กระเจียว” ที่หลับใหลอยู่ใต้พื้นดินในบ้านเราต่างพากันแตกหน่อ แทงยอด แล้วค่อยๆทยอยกันผลิดอกแย้มบานขึ้นมาเริงร่าอวดโฉมความงาม
กระเจียว เป็นพืชล้มลุกสกุลเดียวกับขมิ้น อยู่ในวงขิง,ข่า,ขมิ้น ขยายพันธุ์ด้วยการแตกหน่อ ในช่วงฤดูหนาวและฤดูร้อน กระเจียวจะจำศีลหลับใหลอยู่ใต้ดิน แต่พอถึงหน้าฝนพวกมันก็จะพากันออกดอกผลิบานเริงร่าท้าทายสายฝนที่โปรยสายลงมา
ทุกๆปีในช่วงหน้าฝน ราวเดือนมิถุนายน-สิงหาคม ถือเป็นช่วงเวลาทองของดอกกระเจียวในจังหวัดชัยภูมิที่ต่างก็พากันออกดอกชูช่อบานสะพรั่งสวยงามเต็มท้องทุ่ง ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศมาเที่ยวชมความงามของทุ่งดอกกระเจียว
ทุ่งดอกกระเจียวป่าหินงาม
สำหรับจุดชมทุ่งดอกกระเจียวแสนสวยในจังหวัดชัยภูมินั้นมีอยู่ 2 แหล่งใหญ่ด้วยกัน
ที่แรกคือ“อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม” (อ.เทพสถิต) เป็นแหล่งชมทุ่งดอกกระเจียวที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย มีเนื้อที่กว่า 100 ไร่ ซึ่งทางอุทยานฯได้จัดสร้างทางเดินชมทุ่งดอกกระเจียวไว้เป็นอย่างดีให้นักท่องเที่ยวเดินไปตามทางที่กำหนด กระเจียวที่นี่จะมีดอกสีชมพูอมม่วงนิดๆ
ในยามเช้าตรู่ถือเป็นช่วงเวลาทองของการชมทุ่งดอกกระเจียวแห่งป่าหินงาม ซึ่งในช่วงที่มีดอกกระเจียวบานตั้งแต่ 70-80 % ไปจนถึงบานเต็มที่ ยามเช้าตรู่ที่นี่จะน่ายลไปด้วย มวลหมู่ดอกกระเจียวที่กลีบยังชุมฉ่ำน้ำค้างดูชุ่มชื่นหัวใจได้พากันชูช่ออวดความงามยามเช้า ท่ามกลางสีเขียวขจีของทุ่งหญ้าเพ็ก ต้นไม้ป่า และก้อนหิน ที่ขึ้นแซมอยู่ทั่วไป
ที่สำคัญคือในยามที่มีสายหมอกขาวโพลนลอยอ้อยอิ่งมาปกคลุมทุ่งดอกกระเจียวแบบพองาม ไม่มากไม่น้อยเกินไป ทุ่งดอกกระเจียวที่นี่จะอวลไปด้วยเสน่ห์ของสายหมอกและดอกกระเจียวอันน่าตื่นตาตื่นใจ จนเกิดเป็น สโลแกน “หยิบหมอก หยอกดอกกระเจียว” ขึ้น พร้อมๆกับน้ำค้างพร่างพราวที่เกาะค้างอยู่บนใบ ดอก ของกระเจียว อากาศสดชื่นเย็นสบายที่มากมายไปด้วยโอโซน นับเป็นความงามที่ธรรมชาติสรรค์สร้างให้กับผู้สนใจได้ชมกันเพียงปีละครั้งเท่านั้น
สุดแผ่นดิน-ป่าหินงาม
นอกจากทุ่งดอกกระเจียวอันสวยงามแล้ว ป่าหินงามยังมี “จุดชมวิวสุดแผ่นดิน” หรือ “ผาสุดแผ่นดิน” หรือ “สุดแผ่นดิน” ที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 846 เมตร
จุดชมวิวสุดแผ่นดิน เป็นจุดที่สูงที่สุดของเทือกเขาพังเหย เหตุที่เรียกบริเวณนี้ว่า"สุดแผ่นดิน" เพราะนี่คือเขตรอยต่อของ 3 ภาคอันได้แก่ แผ่นดินซีกทางอุทยานฯ เป็นเขตของ จ.ชัยภูมิ (ภาคอีสาน) แผ่นดินซีกทางตะวันตกของอุทยานฯ เป็นเขตของ จ.ลพบุรี (ภาคกลาง) แผ่นดินซีกทางเหนือของอุทยานฯ เป็นเขตของ จ.เพชรบูรณ์ (ภาคเหนือ)
สุดแผ่นดิน มีลักษณะเป็นแนวผาและชะง่อนหิน มองลงไปเห็นทิวทัศน์ของผืนป่าและแนวสันเขาอันสวยงามในเบื้องล่าง สุดแผ่นดินคือจุดถ่ายรูปชั้นดีที่นักท่องเที่ยวนิยมวัดใจด้วยการไปนั่งแอ๊คท่าถ่ายรูปบนชะง่อนหินริมหน้าผาดูน่าหวาดเสียว แต่ว่าก็เป็นที่ถูกอกถูกใจนักท่องเที่ยวไม่น้อยเลย แถมถ้าวันไหนท้องฟ้าเป็นใจ พระอาทิตย์ตกที่สุดแผ่นดินถือว่าสวยงามไม่เป็นรองใครเลย
ที่อุทยานฯป่าหินงามยังมีอีกหนึ่งไฮไลท์ไม่ควรพลาด นั่นก็คือ “ลานหินงาม” ซึ่งเป็นที่มาของชื่อป่าหินงาม
ลานหินงาม เป็นพื้นที่ลานหินที่เต็มไปด้วยประติมากรรมหินธรรมชาติมากมาย ทั้งหินรูปร่างประหลาด แปลกตา และสวยงาม ให้เราๆท่านๆได้จินตนาการตามกัน ขณะที่หินหลายก้อนทางอุทยานฯได้ตั้งชื่อตามรูปร่างลักษณะ(ผสมจินตนาการ)เอาไว้แล้ว ไม่ว่าจะเป็น หินปราสาท หินแม่ไก่ยักษ์ หินถ้ำมอง และ“หิน(ฐาน)เรดาห์” ที่เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของป่าหินงาม
ขณะที่อีกหนึ่งก้อนหินรูปทรงประหลาดที่มีชื่อเสียงโด่งดังนั่นก็คือ “หินถ้วยฟีฟ่า” หรือ “หินฟีฟ่าเวิลด์คัพ” หรือ “หินถ้วยบอลโลก” ตามแต่จะเรียก หินถ้วยฟีฟ่าเมื่อมองในมุมที่ใช่ จะมีรูปร่างเหมือนถ้วยฟีฟ่าหินขนาดยักษ์ นับเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของป่าหินงาม ที่พอ 4 ปีเวียนบรรจบ ถึงเทศกาลแข่งขันฟุตบอลโลกทีไร หินก้อนนี้ก็จะกลับมาฮอตฮิตเรียกเสียงฮือฮาได้อยู่เสมอ
ทุ่งดอกกระเจียวอุทยานไทรทอง
มาถึงแหล่งชมทุ่งดอกกระเจียวที่สวยงามขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งของจังหวัดชัยภูมิ นั่นก็คือ ที่ “อุทยานแห่งชาติไทรทอง” ในอำเภอหนองบัวระเหว (บัว-ระ-เหว๋) ที่มีดอกกระเจียวให้ชมกัน 5 ทุ่งใหญ่ ให้เดินเที่ยวชมท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม
แต่ละปีทุ่งดอกกระเจียวอุทยานแห่งชาติไทรทองจะบานช้าและร่วงโรยช้ากว่าที่ป่าหินงาม แถมที่นี่ยังมีทั้งดอกกระเจียวสีชมพูสวยสดใส และดอกกระเจียวสีขาวดอกเล็กๆ น่ารักให้ชมกันจำนวนมาก
นอกจากนี้อุทยานแห่งชาติไทรทองยังมีจุดน่าสนใจอื่นๆอีก อาทิ น้ำตกไทรทอง น้ำตกชวนชม หรือจุดชมวิวทิวทัศน์ตามหน้าผาต่างๆ อาทิ ผาพ่อเมือง ผาเพลินใจ ผาสวนสวรรค์
รวมไปถึงผาชื่อโดนอย่าง“ผาหำหด”เป็นอีกหนึ่งจุดชวนชม ที่ใครเมื่อขึ้นไปยืนบนผาหำหดแล้ว หลายๆคนบอกว่า “หดจริงๆ”แต่เป็นใจนะที่หด เพราะบนผาแห่งนี้มันช่างหวาดเสียวเอามากๆทีเดียว
ชุ่มฉ่ำ น้ำตกตาดโตน
จากทุ่งดอกกระเจียวแสนสวย เปลี่ยนไปสัมผัสกับแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันโดดเด่นขึ้นชื่อสองแห่งในจังหวัดชัยภูมิ ซึ่งสามารถเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี
เริ่มจากสถานที่แรกคือ "น้ำตกตาดโตน”(อุทยานแห่งชาติตาดโตน อ.เมือง) น้ำตกงามคู่เมืองชัยภูมิ ซึ่งมีสายน้ำไหลเย็นตลอดทั้งปี โดยแต่ช่วงฤดูกาล จะมีสายน้ำไหลมาก-น้อยแตกต่างกันไป
น้ำตกตาดโตน มีความกว้างประมาณ 50 เมตร สูงประมาณ 6 เมตร มีสายน้ำตกไหลผ่านแนวหินสู่แอ่งน้ำใหญ่ในเบื้องล่าง ท่ามกลางวิวทิวทัศน์อันสวยงาม ด้านบนเหนือตัวน้ำตกขึ้นไปเป็นธารน้ำตื้นๆแต่กว้าง มีหลายจุดสามารถลงเล่นน้ำอย่างเพลิดเพลินอุรา
จากตัวน้ำตกตาดโตนจะมีเส้นทางเดินนำไปสู่ “ศาลเจ้าพ่อตาดโตน(ศาลปู่ด้วง)”และ“ศาลย่าดี” ที่เป็นอีก 2 สิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญ ซึ่งชาวชัยภูมิให้ความเคารพนับถือกันมาก
ส่วนอีกสิ่งหนึ่งที่ถือเป็นความพิเศษโดดเด่นของอุทยานแห่งชาติน้ำตกตาดโตนก็คือ เรื่องของความเป็นระเบียบ สะอาดสะอ้าน ห้องน้ำสะอาด รวมถึงมีการจัดการพื้นที่ที่ดี ทำให้อุทยานฯแห่งนี้ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย หรือรางวัลกินรีถึง 2 ครั้งด้วยกัน คือในปี 2549 และปี 2558
นับได้ว่าสิ่งต่างๆเหล่านี้ถือเป็นเสน่ห์ดึงดูดชั้นดีให้ผู้คนเดินทางมาเที่ยวน้ำตกตาดโตนกันไม่ได้ขาด
อลังการมอหินขาว
จากน้ำตกตาดโตน ห่างออกไปประมาณ 22 กม. เป็นที่ตั้งของ “มอหินขาว”(บนเทือกเขาภูแลนคา ต.ท่าหินโงม อ.เมือง) หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติเลื่องชื่อของชัยภูมิ
มอหินขาว เป็นกลุ่มก้อนหินใหญ่อายุเป็นร้อยล้านปีตั้งเด่นตระหง่านท้าทายกาลเวลา เป็นประติมากรรมธรรมชาติก้อนหินใหญ่ที่มีรูปร่างแปลกตา สวยงาม น่าทึ่ง ชวนให้จินตนาการ นำโดยกลุ่มเสาหิน 5 แท่ง ที่ถือเป็นไฮไลต์และสัญลักษณ์ของมอหินขาวแห่งนี้
กลุ่มเสาหิน 5 แท่ง เป็นแท่งหิน เสาหินโบราณขนาดใหญ่มหึมา 5 แท่ง ตั้งเรียงรายกันอยู่บนทุ่งหญ้าที่ราบโล่ง แลดูยิ่งใหญ่อลังการ และสามารถเดินถ่ายรูปได้โดยรอบ
ปัจจุบันเสาหินยักษ์ทั้ง 5 แท่งนี้ ถูกตั้งชื่อเรียกขานแตกต่างกันไป ได้แก่ “หินขุนศรีวิชัย” “หินหลวงปู่ฤาษี” “หินหลวงสมชาย” "หินหลวงจันทร์” และ“หินหมื่นสิงขร” พร้อมกันนี้ยังมีการนำแท่งหินยักษ์ทั้ง 5 ไปผูกโยงกับเรื่องราวความเชื่อ โดยเชื่อว่า เสาหินแต่ละแท่งจะดลบันดาลให้ประสบโชคดีแตกต่างกันไป
นอกจากกลุ่มเสาหิน 5 แท่งแล้ว มอหินขาวยังมี กลุ่มก้อนหินใหญ่รูปร่างประหลาดชวนจินตนาการอีก ได้แก่ กลุ่มหินต้นไทร หินเจดีย์ หินโขลงช้าง และมี“ผาหัวนาค” เป็นจุดชมวิว และชมพระอาทิตย์ตก รวมถึงมีลานกางเต็นท์ ร้านอาหาร ห้องน้ำ และศูนย์บริการนักท่องเที่ยวไว้บริการ ซึ่งในช่วงฤดูหนาว จะมีนักท่องเที่ยวนิยมมาพักค้างกางเต็นท์เพื่อถ่ายดาวที่มอหินขาวกันเป็นจำนวนมาก
และนี่ก็คือมนต์เสน่ห์ของแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติของจังหวัดชัยภูมิ ที่หากว่าใครที่ไปเที่ยวตามสถานที่เหล่านี้แล้ว ให้ทิ้งไว้เพียงรอยเท้า เก็บมาเพียงภาพถ่าย
และความทรงจำแสนงามที่จะทำให้เราหลงรักประเทศไทยมากยิ่งขึ้น
**************************************
หมายเหตุ : ช่วงเวลาและปริมาณการบานของทุ่งดอกกระเจียวในแต่ละปีจะไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในปีนั้นๆ
ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดของสถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร และการเดินทางในเส้นทาง ในจังหวัดชัยภูมิ ได้ที่ ททท. สำนักงานนครราชสีมา(รับผิดชอบพื้นที่นครราชสีมา,ชัยภูมิ) โทร. 0-4421-3030,0-4421-3666
* * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com
“ทิวทัศน์สวย รวยป่าใหญ่ มีช้างหลาย ดอกไม้งาม ลือนามวีรบุรุษ สุดยอดผ้าไหม พระใหญ่ทวารวดี”
คำขวัญส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดชัยภูมิ
ทุกๆปีพอถึงช่วงฤดูฝนจังหวัดชัยภูมิจะคึกคักขึ้นมาทันตาเห็น กลายเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่นักท่องเที่ยวหมายปอง เพราะช่วงนี้“ทุ่งดอกกระเจียว” 2 แหล่งใหญ่ในจังหวัดชัยภูมิจะพากันออกดอกเบ่งบานสวยงาม ดึงดูดให้ผู้คนเดินทางไปชมความสวยงามกันเป็นจำนวนมาก
ทุ่งดอกกระเจียว แม้จะเที่ยวได้เฉพาะในช่วงฤดูฝน แต่ว่าก็สามารถสร้างชื่อและเอกลักษณ์ให้กับจังหวัดชัยภูมิได้อย่างดียิ่ง จนชัยภูมิถูกยกให้เป็นเมืองแห่งทุ่งดอกกระเจียวอันลือลั่น
ชัยภูมิ เมืองแห่งทุ่งดอกกระเจียว
ดอกกระเจียวจึงได้ชื่อว่าเป็น “ราชินีแห่งป่าฝน” เพราะเป็นหนึ่งในดอกไม้ที่มากับฝนอย่างแท้จริง เพราะเมื่อวสันต์ฤดูมาเยือน ฟ้าชุ่มฉ่ำ ดินชุ่มน้ำ มวลหมู่“กระเจียว” ที่หลับใหลอยู่ใต้พื้นดินในบ้านเราต่างพากันแตกหน่อ แทงยอด แล้วค่อยๆทยอยกันผลิดอกแย้มบานขึ้นมาเริงร่าอวดโฉมความงาม
กระเจียว เป็นพืชล้มลุกสกุลเดียวกับขมิ้น อยู่ในวงขิง,ข่า,ขมิ้น ขยายพันธุ์ด้วยการแตกหน่อ ในช่วงฤดูหนาวและฤดูร้อน กระเจียวจะจำศีลหลับใหลอยู่ใต้ดิน แต่พอถึงหน้าฝนพวกมันก็จะพากันออกดอกผลิบานเริงร่าท้าทายสายฝนที่โปรยสายลงมา
ทุกๆปีในช่วงหน้าฝน ราวเดือนมิถุนายน-สิงหาคม ถือเป็นช่วงเวลาทองของดอกกระเจียวในจังหวัดชัยภูมิที่ต่างก็พากันออกดอกชูช่อบานสะพรั่งสวยงามเต็มท้องทุ่ง ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศมาเที่ยวชมความงามของทุ่งดอกกระเจียว
ทุ่งดอกกระเจียวป่าหินงาม
สำหรับจุดชมทุ่งดอกกระเจียวแสนสวยในจังหวัดชัยภูมินั้นมีอยู่ 2 แหล่งใหญ่ด้วยกัน
ที่แรกคือ“อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม” (อ.เทพสถิต) เป็นแหล่งชมทุ่งดอกกระเจียวที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย มีเนื้อที่กว่า 100 ไร่ ซึ่งทางอุทยานฯได้จัดสร้างทางเดินชมทุ่งดอกกระเจียวไว้เป็นอย่างดีให้นักท่องเที่ยวเดินไปตามทางที่กำหนด กระเจียวที่นี่จะมีดอกสีชมพูอมม่วงนิดๆ
ในยามเช้าตรู่ถือเป็นช่วงเวลาทองของการชมทุ่งดอกกระเจียวแห่งป่าหินงาม ซึ่งในช่วงที่มีดอกกระเจียวบานตั้งแต่ 70-80 % ไปจนถึงบานเต็มที่ ยามเช้าตรู่ที่นี่จะน่ายลไปด้วย มวลหมู่ดอกกระเจียวที่กลีบยังชุมฉ่ำน้ำค้างดูชุ่มชื่นหัวใจได้พากันชูช่ออวดความงามยามเช้า ท่ามกลางสีเขียวขจีของทุ่งหญ้าเพ็ก ต้นไม้ป่า และก้อนหิน ที่ขึ้นแซมอยู่ทั่วไป
ที่สำคัญคือในยามที่มีสายหมอกขาวโพลนลอยอ้อยอิ่งมาปกคลุมทุ่งดอกกระเจียวแบบพองาม ไม่มากไม่น้อยเกินไป ทุ่งดอกกระเจียวที่นี่จะอวลไปด้วยเสน่ห์ของสายหมอกและดอกกระเจียวอันน่าตื่นตาตื่นใจ จนเกิดเป็น สโลแกน “หยิบหมอก หยอกดอกกระเจียว” ขึ้น พร้อมๆกับน้ำค้างพร่างพราวที่เกาะค้างอยู่บนใบ ดอก ของกระเจียว อากาศสดชื่นเย็นสบายที่มากมายไปด้วยโอโซน นับเป็นความงามที่ธรรมชาติสรรค์สร้างให้กับผู้สนใจได้ชมกันเพียงปีละครั้งเท่านั้น
สุดแผ่นดิน-ป่าหินงาม
นอกจากทุ่งดอกกระเจียวอันสวยงามแล้ว ป่าหินงามยังมี “จุดชมวิวสุดแผ่นดิน” หรือ “ผาสุดแผ่นดิน” หรือ “สุดแผ่นดิน” ที่อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 846 เมตร
จุดชมวิวสุดแผ่นดิน เป็นจุดที่สูงที่สุดของเทือกเขาพังเหย เหตุที่เรียกบริเวณนี้ว่า"สุดแผ่นดิน" เพราะนี่คือเขตรอยต่อของ 3 ภาคอันได้แก่ แผ่นดินซีกทางอุทยานฯ เป็นเขตของ จ.ชัยภูมิ (ภาคอีสาน) แผ่นดินซีกทางตะวันตกของอุทยานฯ เป็นเขตของ จ.ลพบุรี (ภาคกลาง) แผ่นดินซีกทางเหนือของอุทยานฯ เป็นเขตของ จ.เพชรบูรณ์ (ภาคเหนือ)
สุดแผ่นดิน มีลักษณะเป็นแนวผาและชะง่อนหิน มองลงไปเห็นทิวทัศน์ของผืนป่าและแนวสันเขาอันสวยงามในเบื้องล่าง สุดแผ่นดินคือจุดถ่ายรูปชั้นดีที่นักท่องเที่ยวนิยมวัดใจด้วยการไปนั่งแอ๊คท่าถ่ายรูปบนชะง่อนหินริมหน้าผาดูน่าหวาดเสียว แต่ว่าก็เป็นที่ถูกอกถูกใจนักท่องเที่ยวไม่น้อยเลย แถมถ้าวันไหนท้องฟ้าเป็นใจ พระอาทิตย์ตกที่สุดแผ่นดินถือว่าสวยงามไม่เป็นรองใครเลย
ที่อุทยานฯป่าหินงามยังมีอีกหนึ่งไฮไลท์ไม่ควรพลาด นั่นก็คือ “ลานหินงาม” ซึ่งเป็นที่มาของชื่อป่าหินงาม
ลานหินงาม เป็นพื้นที่ลานหินที่เต็มไปด้วยประติมากรรมหินธรรมชาติมากมาย ทั้งหินรูปร่างประหลาด แปลกตา และสวยงาม ให้เราๆท่านๆได้จินตนาการตามกัน ขณะที่หินหลายก้อนทางอุทยานฯได้ตั้งชื่อตามรูปร่างลักษณะ(ผสมจินตนาการ)เอาไว้แล้ว ไม่ว่าจะเป็น หินปราสาท หินแม่ไก่ยักษ์ หินถ้ำมอง และ“หิน(ฐาน)เรดาห์” ที่เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของป่าหินงาม
ขณะที่อีกหนึ่งก้อนหินรูปทรงประหลาดที่มีชื่อเสียงโด่งดังนั่นก็คือ “หินถ้วยฟีฟ่า” หรือ “หินฟีฟ่าเวิลด์คัพ” หรือ “หินถ้วยบอลโลก” ตามแต่จะเรียก หินถ้วยฟีฟ่าเมื่อมองในมุมที่ใช่ จะมีรูปร่างเหมือนถ้วยฟีฟ่าหินขนาดยักษ์ นับเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของป่าหินงาม ที่พอ 4 ปีเวียนบรรจบ ถึงเทศกาลแข่งขันฟุตบอลโลกทีไร หินก้อนนี้ก็จะกลับมาฮอตฮิตเรียกเสียงฮือฮาได้อยู่เสมอ
ทุ่งดอกกระเจียวอุทยานไทรทอง
มาถึงแหล่งชมทุ่งดอกกระเจียวที่สวยงามขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งของจังหวัดชัยภูมิ นั่นก็คือ ที่ “อุทยานแห่งชาติไทรทอง” ในอำเภอหนองบัวระเหว (บัว-ระ-เหว๋) ที่มีดอกกระเจียวให้ชมกัน 5 ทุ่งใหญ่ ให้เดินเที่ยวชมท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม
แต่ละปีทุ่งดอกกระเจียวอุทยานแห่งชาติไทรทองจะบานช้าและร่วงโรยช้ากว่าที่ป่าหินงาม แถมที่นี่ยังมีทั้งดอกกระเจียวสีชมพูสวยสดใส และดอกกระเจียวสีขาวดอกเล็กๆ น่ารักให้ชมกันจำนวนมาก
นอกจากนี้อุทยานแห่งชาติไทรทองยังมีจุดน่าสนใจอื่นๆอีก อาทิ น้ำตกไทรทอง น้ำตกชวนชม หรือจุดชมวิวทิวทัศน์ตามหน้าผาต่างๆ อาทิ ผาพ่อเมือง ผาเพลินใจ ผาสวนสวรรค์
รวมไปถึงผาชื่อโดนอย่าง“ผาหำหด”เป็นอีกหนึ่งจุดชวนชม ที่ใครเมื่อขึ้นไปยืนบนผาหำหดแล้ว หลายๆคนบอกว่า “หดจริงๆ”แต่เป็นใจนะที่หด เพราะบนผาแห่งนี้มันช่างหวาดเสียวเอามากๆทีเดียว
ชุ่มฉ่ำ น้ำตกตาดโตน
จากทุ่งดอกกระเจียวแสนสวย เปลี่ยนไปสัมผัสกับแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันโดดเด่นขึ้นชื่อสองแห่งในจังหวัดชัยภูมิ ซึ่งสามารถเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี
เริ่มจากสถานที่แรกคือ "น้ำตกตาดโตน”(อุทยานแห่งชาติตาดโตน อ.เมือง) น้ำตกงามคู่เมืองชัยภูมิ ซึ่งมีสายน้ำไหลเย็นตลอดทั้งปี โดยแต่ช่วงฤดูกาล จะมีสายน้ำไหลมาก-น้อยแตกต่างกันไป
น้ำตกตาดโตน มีความกว้างประมาณ 50 เมตร สูงประมาณ 6 เมตร มีสายน้ำตกไหลผ่านแนวหินสู่แอ่งน้ำใหญ่ในเบื้องล่าง ท่ามกลางวิวทิวทัศน์อันสวยงาม ด้านบนเหนือตัวน้ำตกขึ้นไปเป็นธารน้ำตื้นๆแต่กว้าง มีหลายจุดสามารถลงเล่นน้ำอย่างเพลิดเพลินอุรา
จากตัวน้ำตกตาดโตนจะมีเส้นทางเดินนำไปสู่ “ศาลเจ้าพ่อตาดโตน(ศาลปู่ด้วง)”และ“ศาลย่าดี” ที่เป็นอีก 2 สิ่งศักดิ์สิทธิ์สำคัญ ซึ่งชาวชัยภูมิให้ความเคารพนับถือกันมาก
ส่วนอีกสิ่งหนึ่งที่ถือเป็นความพิเศษโดดเด่นของอุทยานแห่งชาติน้ำตกตาดโตนก็คือ เรื่องของความเป็นระเบียบ สะอาดสะอ้าน ห้องน้ำสะอาด รวมถึงมีการจัดการพื้นที่ที่ดี ทำให้อุทยานฯแห่งนี้ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย หรือรางวัลกินรีถึง 2 ครั้งด้วยกัน คือในปี 2549 และปี 2558
นับได้ว่าสิ่งต่างๆเหล่านี้ถือเป็นเสน่ห์ดึงดูดชั้นดีให้ผู้คนเดินทางมาเที่ยวน้ำตกตาดโตนกันไม่ได้ขาด
อลังการมอหินขาว
จากน้ำตกตาดโตน ห่างออกไปประมาณ 22 กม. เป็นที่ตั้งของ “มอหินขาว”(บนเทือกเขาภูแลนคา ต.ท่าหินโงม อ.เมือง) หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติเลื่องชื่อของชัยภูมิ
มอหินขาว เป็นกลุ่มก้อนหินใหญ่อายุเป็นร้อยล้านปีตั้งเด่นตระหง่านท้าทายกาลเวลา เป็นประติมากรรมธรรมชาติก้อนหินใหญ่ที่มีรูปร่างแปลกตา สวยงาม น่าทึ่ง ชวนให้จินตนาการ นำโดยกลุ่มเสาหิน 5 แท่ง ที่ถือเป็นไฮไลต์และสัญลักษณ์ของมอหินขาวแห่งนี้
กลุ่มเสาหิน 5 แท่ง เป็นแท่งหิน เสาหินโบราณขนาดใหญ่มหึมา 5 แท่ง ตั้งเรียงรายกันอยู่บนทุ่งหญ้าที่ราบโล่ง แลดูยิ่งใหญ่อลังการ และสามารถเดินถ่ายรูปได้โดยรอบ
ปัจจุบันเสาหินยักษ์ทั้ง 5 แท่งนี้ ถูกตั้งชื่อเรียกขานแตกต่างกันไป ได้แก่ “หินขุนศรีวิชัย” “หินหลวงปู่ฤาษี” “หินหลวงสมชาย” "หินหลวงจันทร์” และ“หินหมื่นสิงขร” พร้อมกันนี้ยังมีการนำแท่งหินยักษ์ทั้ง 5 ไปผูกโยงกับเรื่องราวความเชื่อ โดยเชื่อว่า เสาหินแต่ละแท่งจะดลบันดาลให้ประสบโชคดีแตกต่างกันไป
นอกจากกลุ่มเสาหิน 5 แท่งแล้ว มอหินขาวยังมี กลุ่มก้อนหินใหญ่รูปร่างประหลาดชวนจินตนาการอีก ได้แก่ กลุ่มหินต้นไทร หินเจดีย์ หินโขลงช้าง และมี“ผาหัวนาค” เป็นจุดชมวิว และชมพระอาทิตย์ตก รวมถึงมีลานกางเต็นท์ ร้านอาหาร ห้องน้ำ และศูนย์บริการนักท่องเที่ยวไว้บริการ ซึ่งในช่วงฤดูหนาว จะมีนักท่องเที่ยวนิยมมาพักค้างกางเต็นท์เพื่อถ่ายดาวที่มอหินขาวกันเป็นจำนวนมาก
และนี่ก็คือมนต์เสน่ห์ของแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติของจังหวัดชัยภูมิ ที่หากว่าใครที่ไปเที่ยวตามสถานที่เหล่านี้แล้ว ให้ทิ้งไว้เพียงรอยเท้า เก็บมาเพียงภาพถ่าย
และความทรงจำแสนงามที่จะทำให้เราหลงรักประเทศไทยมากยิ่งขึ้น
**************************************
หมายเหตุ : ช่วงเวลาและปริมาณการบานของทุ่งดอกกระเจียวในแต่ละปีจะไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในปีนั้นๆ
ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดของสถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร และการเดินทางในเส้นทาง ในจังหวัดชัยภูมิ ได้ที่ ททท. สำนักงานนครราชสีมา(รับผิดชอบพื้นที่นครราชสีมา,ชัยภูมิ) โทร. 0-4421-3030,0-4421-3666
* * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com