“เมืองเกาะในฝัน”
คือเสน่ห์อันเป็นที่กล่าวขวัญของ “จังหวัดตราด” ดินแดนสุดปลายฟ้าบูรพา จังหวัดชายทะเลที่มีหมู่เกาะเป็นจำนวนมาก หลายแห่งมีความงดงามติดอันดับต้นๆ ของเมืองไทย ไม่ว่าจะเป็นเกาะช้าง เกาะกูด เกาะหมาก ฯลฯ ที่ล้วนแล้วแต่มีน้ำทะเลสวยใส หาดทรายยาวขาวเนียน ซึ่งทาง “การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)” ได้ยกให้ตราดเป็น 1 ใน 12 “เมืองต้องห้าม...พลาด” ภายใต้ธีม “เมืองเกาะในฝัน”อันทรงเสน่ห์
ผลสำเร็จอันงดงามของโครงการเมืองต้องห้าม...พลาด ทำให้เกิดการต่อยอดเป็นโครงการ “เมืองต้องห้าม...พลาดplus”(เมืองต้องห้ามพลาดพลัส)ขึ้น เพื่อเชื่อมโยงเส้นทางท่องเที่ยวของ 12 จังหวัดเมืองรองที่อยู่ติดกันหรือใกล้กัน และมีจุดเด่นใกล้เคียงกับ 12 เมืองต้องห้าม...พลาด ด้วยมุ่งหวังให้เกิดการเดินทางระหว่างจังหวัดและการกระจายตัวของนักท่องเที่ยวให้มากยิ่งขึ้น
ในส่วนของจังหวัดตราดเมืองเกาะในฝันนั้น ได้เชื่อมโยงกับจังหวัด “ระยอง” เป็นเส้นทางท่องเที่ยว “ตราด plus ระยอง” ที่มีแนวคิดสอดรับกัน
สำหรับจังหวัดระยอง เป็นหนึ่งในเมืองชายทะเลแห่งภาคตะวันออก ที่มีหมู่เกาะอันสวยงามใกล้กรุง นำโดย“เกาะเสม็ด”เกาะยอดฮิตที่ได้รับความนิยมมาช้านาน นอกจากนี้ระยองยังมีหาดทรายน่าเที่ยว มีธรรมชาติที่สวยงาม และมีผลไม้หลากหลาย โดยเฉพาะในช่วงเดือน พ.ค. - ก.ค. นั้น ถือเป็นช่วงเวลาทองของผลไม้แห่งภาคตะวันออก ระยอง จันทบุรี และตราด ซึ่งหากใครที่ไปเที่ยวในเส้นทางตราด plus ระยอง เป็นต้องได้อิ่มอร่อยกับผลไม้ไทยรสเด็ดกันสดๆจากแหล่ง ชนิดชวนให้ติดใจกันไปอีกนาน
สุดแดนบูรพา ล้ำค่า “หมู่เกาะทะเลตราด”
จังหวัดตราดมี “หมู่เกาะทะเลตราด” หรือ“หมู่เกาะช้าง” หรือ “หมู่เกาะสุดแดนบูรพา” เป็นทรัพยากรทางทะเลที่สำคัญ ประกอบไปด้วยเกาะน้อยใหญ่จำนวน 52 เกาะ มี “เกาะช้าง” เป็นเกาะขนาดใหญ่ที่สุด และใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศ รองจากเกาะภูเก็ต(จ.ภูเก็ต)
เกาะช้าง เป็นที่รู้จักกันดีของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติในเรื่องของธรรมชาติทางทะเลที่งดงาม โดยบนเกาะช้างมีชายหาดหลายแห่งให้เลือกเที่ยวได้ตามใจ ไม่ว่าจะเป็นหาดทรายขาว หาดคลองพร้าว หาดไก่แบ้ ฯลฯ ซึ่งมีโรงแรมและรีสอร์ทหลากหลายให้เลือกพักตามงบประมาณ รวมไปถึงที่พักแบบโฮมสเตย์เรียนรู้วิถีชีวิตชาวเกาะช้าง เช่นที่บ้านสลักเพชร บ้านสลักคอก
บนเกาะช้างยังมีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติป่าเขาอย่างน้ำตกธารมะยม น้ำตกคลองพลู และยังถือเป็นสถานที่ประวัติศาสตร์ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 เคยเสด็จประพาสเกาะช้างมากถึง 12 ครั้งเลยทีเดียว
นอกจากเกาะช้างแล้ว หมู่เกาะช้างยังมีเกาะเด่นๆที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวอีกหลากหลายเกาะ อาทิ
“เกาะหมาก” เป็นเกาะเล็กๆ ในหมู่เกาะทะเลตราดซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวไม่น้อย เกาะแห่งนี้มีความเงียบสงบเหมาะแก่การพักผ่อน โดยบนเกาะมีอ่าวน่าเที่ยวหลายอ่าว เช่น “อ่าวนิด” เป็นที่ตั้งของชุมชนบนเกาะหมาก “อ่าวสวนใหญ่” เป็นอ่าวโค้งยาวน่ายล “อ่าวโล่ง” ที่รอบข้างร่มรื่นเขียวครึ้มไปด้วยสวนยางพารา โดยในหลายๆอ่าวจะมีการสร้างสะพานเทียบเรือ (ของที่พัก) ทอดยาว ถือเป็นจุดถ่ายรูปและเสน่ห์อันโดดเด่นของเกาะแห่งนี้ เกาะหมากยังเป็นจุดเชื่อมโยงไปยังเกาะอื่นๆ เพื่อทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ดำน้ำดูประติมากรรมช้างใต้ทะเล ดำน้ำดูปะการังเกาะยักษ์ หมู่เกาะรังได้อีกด้วย
ไม่ไกลจากเกาะหมาก เป็นที่ตั้งของ “เกาะกระดาด” ที่ได้รับฉายาว่าเป็น “ซาฟารีกลางทะเล” เนื่องจากบนเกาะแห่งนี้เป็นที่อยู่อาศัยของกวางฝูงใหญ่ซึ่งมีผู้นำมาเลี้ยงไว้และได้ออกลูกหลานมากมายนับร้อยในปัจจุบัน นักท่องเที่ยวจึงนิยมมาเที่ยวโดยการนั่งรถอีแต๊กชมบรรยากาศและชมกวางน้อยน่ารักบนเกาะกระดาดแห่งนี้
ส่วน “เกาะกูด” ก็ถือเป็นอีกหนึ่งเกาะไม่ควรพลาด เกาะกูดนับเป็นเกาะสุดท้ายแห่งน่านน้ำตะวันออกของไทย บนเกาะนอกจากจะมีทะเลและชายหาดสวยๆ แล้ว ยังมีป่าไม้และน้ำตกขนาดใหญ่ แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของเกาะ และด้วยความที่อยู่ไกลชายฝั่งทำให้เกาะกูดมีหาดทรายที่ขาวสะอาด น้ำทะเลสวยใสไม่แพ้เกาะแถบอันดามัน บนเกาะกูดมีชายหาดสวยๆ หลายแห่งด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น อ่าวสับปะรด อ่าวสลัด อ่าวยายเกิด อ่าวกล้วย อ่าวจาก หาดคลองยายกี๋ หาดตะเภา หาดคลองเจ้า อ่าวพร้าว เป็นต้น
นี่คือบางส่วนของหมู่เกาะทะเลตราดที่นำมายกตัวอย่างเท่านั้น เพราะยังมีอีกหลายเกาะงดงามที่สามารถไปเที่ยวได้อย่าง เกาะเหลายา เกาะหวาย เกาะคลุ้ม เกาะง่าม เกาะพร้าว เกาะไม้ซี้ใหญ่ เกาะจาน ฯลฯ เป็นต้น
สุดแปลก!! “หาดทรายดำ”
พาไปชมหมู่เกาะงามๆ กลางทะเลตราดแล้ว กลับมาสำรวจบนพื้นที่ชายฝั่งกันบ้าง โดยชายหาดในจังหวัดตราดนี้มีหลายแห่งและมีความสวยงามไม่น้อย คนในพื้นที่มักมานั่งเล่นพักผ่อนหย่อนใจในยามเย็น โดยชายหาดส่วนใหญ่จะอยู่ในเขตอำเภอคลองใหญ่ อาทิ หาดทรายเงิน หาดทรายแก้ว หาดมุกแก้ว หาดราชการุณย์ หาดไม้รูด หาดบานชื่น
แต่ชายหาดที่แปลกที่สุดในตราด ต้องยกให้ “หาดทรายดำ” (ต.แหลมงอบ อ.แหลมงอบ) ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแหลมมะขาม “หาดทรายดำ” หรือ “หาดหัวสวน” เป็นหาดทรายในพื้นที่ป่าชายเลน มีความงามแปลกตาตรงที่หาดทรายมีลักษณะละเอียด เม็ดทรายเป็นสีน้ำตาลแดงเข้มไปจนถึงดำ ซึ่งทั่วโลกมีหาดทรายดำลักษณะเช่นนี้มีเพียงไม่กี่แห่งในโลกเท่านั้น
ทรายดำที่หาดแห่งนี้มีชื่อทางวิชาการว่า “ไลโมไนต์” (Limonite) เป็นแร่ที่เกิดจากการยุบตัวของเศษเหมืองและเปลือกหอยผสมด้วยควอตซ์ หรือเป็นแร่ที่เกิดจากการผุกร่อนของเหล็ก เชื่อกันว่าทรายดำที่นี่มีแร่ธาตุที่ช่วยให้ระบบการไหลเวียนโลหิตดีขึ้น และรักษาอาการปวดเมื่อยได้ ใครที่อยากทดลองก็สามารถมาทำ "สปาหาดทรายดำ" ด้วยการมานอนหมกตัวอยู่ในทราย หรือจะลองเพียงฝังเท้าในทรายดูก็ได้เช่นกัน
ยลเสน่ห์วิถีชุมชนหลากหลายในเมืองตราด
วิถีชุมชนเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของตราดที่น่ายล มีชุมชนหลายแห่งในจังหวัดตราดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้ไปพร้อมๆ กัน โดยในอำเภอเมืองตราดมี “ชุมชนรักษ์คลองบางพระ” (ต.บางพระ อ.เมือง) ซึ่งเคยเป็นย่านการค้าเก่าแก่ของตราดในอดีต ปัจจุบันยังคงมองเห็นเรือนแถวไม้เก่าแก่ริมคลองบางพระที่เคยเป็นร้านค้า และยังมีร้านค้าแบบโบราณเหลือให้เห็นอยู่บ้าง บางหลังดัดแปลงเป็นร้านอาหารและที่พัก ได้บรรยากาศสงบแต่มีเสน่ห์
“บ้านเปร็ดใน” (ต.ห้วงน้ำขาว อ.เมือง) เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาสัมผัสบรรยากาศของป่าชายเลนอันอุดมสมบูรณ์ โดยมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติชมนกเหยี่ยวแดง นกอีโก้ง โดยเฉพาะในช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงนกอพยพ รวมทั้งชมหิ่งห้อยซึ่งมีอยู่อย่างมากมายในช่วงกลางคืน และในช่วงเดือนมิถุนายนของทุกปีจะมีการจัดงาน “เทศกาลกินปูนิ่ม ชิมหอย” อีกด้วย
“บ้านน้ำเชี่ยว” (ต.น้ำเชี่ยว อ.แหลมงอบ) เป็นอีกหนึ่งชุมชนที่มีความโดดเด่นตรงที่เป็นชุมชน 2 ศาสนา 3 วัฒนธรรม คือศาสนาพุทธและมุสลิม และวัฒนธรรมไทย จีน และอิสลาม ที่อาศัยอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน แหล่งท่องเที่ยวในชุมชนจึงมีทั้งวัดน้ำเชี่ยว มัสยิดอัลกุบรอ รวมไปถึงเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายเลน อีกทั้งยังมีสินค้าโอทอปขึ้นชื่ออย่าง “งอบน้ำเชี่ยว” งอบซึ่งทำด้วยใบจาก เป็นงานหัตถกรรมพื้นบ้านที่สืบทอดกันมาช้านาน
ส่วนที่ “บ้านช้างทูน” (ต.ช้างทูน อ.บ่อไร่) ที่นี่มีเรื่องราวของ “ชาวชอง” ซึ่งเป็นชนพื้นถิ่นดั้งเดิมที่ตั้งรกรากอยู่ทางภาคตะวันออกของไทยให้ชมกันผ่าน “นิเวศพิพิธภัณฑ์บ้านช้างทูน” อีกทั้งยังมีกิจกรรมให้ทำหลากหลาย ทั้งการทดลองร่อนพลอยในลำธาร การทำ “สปาโคลนขาว” ด้วยโคลนจากลำธาร การทำ “สปาสุ่มไก่” ภูมิปัญญาโบราณของชาวชองด้วยการอบไอน้ำจากสมุนไพรภายในสุ่มไก่ และการทำ “ยาดมสมุนไพรบุฟเฟ่ต์” ที่สามารถเลือกสมุนไพรกลิ่นหอมเย็นชื่นใจมาทำยาตามใจคนทำ
วัดงามนาม “บุปผาราม” เก่าแก่ที่สุดในตราด
มาเยือนเมืองตราดทั้งที อยากให้แวะมาเยี่ยมเยือนวัดที่เก่าแก่ที่สุดในตราด ที่ “วัดบุปผาราม” (ต.วังกระแจะ อ.เมือง) ที่มีอายุมากกว่า 300 ปี สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นมาตั้งแต่กรุงศรีอยุธยา สิ่งที่น่าสนใจในวัดแห่งนี้คือ “โบสถ์ 2 ชั้น” ซึ่งชั้นในเป็นโบสถ์เก่าแก่ดั้งเดิมที่ชำรุดทรุดโทรม ต่อมาได้บูรณะโดยการสร้างโบสถ์ชั้นนอกครอบโบสถ์เก่า จนกลายเป็นโบสถ์ 2 ชั้น ภายในประดิษฐาน “หลวงพ่อโต” พระพุทธรูปสมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งมีพุทธลักษณะเด่นตรงที่ท่านมีเล็บมือ-เล็บเท้าเป็นสีขาวขุ่นเหมือนเล็บของมนุษย์เรา
อีกทั้งในโบสถ์ยังมีภาพจิตรกรรมฝาผนังฝีมือช่างพื้นบ้านสมัยรัตนโกสินทร์ที่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างมีเสน่ห์ นอกจากนั้นบริเวณวัดยังมีเจดีย์ย่อมุมไม้สิบสองเรียงเป็นแถวอย่างสวยงาม มี “โบสถ์หลังเก่า”(วิหารฝากระดาน) “วิหารพระพุทธไสยาสน์” และมี “เรือนพระพุทธรูปไม้องค์ใหญ่” อันเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปไม้แกะสลักเก่าแก่ศิลปะแบบพม่าไว้ด้วย
ขอแถมท้ายแหล่งท่องเที่ยวเมืองตราดด้วย “สวนสละสมโภชน์” (บ้านท้ายวัง ต.วังกระแจะ อ.เมือง) สวนสละสมโภชน์เป็นหนึ่งในสวนสละขึ้นชื่อของภาคตะวันออก ที่นี่ปลูกสละพันธุ์สุมาลี อันเป็นพันธุ์ขึ้นชื่อของจังหวัดตราด โดยนอกจากจะเป็นสวนสละคุณภาพดีแล้ว ยังเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถไปเที่ยวชมสวน และพูดคุยกับคุณลุงเจ้าของเกี่ยวกับความรู้เรื่องการปลูกสละและการทำสวนผลไม้ได้อีกด้วย
“ระยอง” เมืองสุนทรภู่ กวีเอกของโลก
จากเมืองตราดหากเลาะเลียบชายฝั่งข้ามจังหวัดจันทบุรีมาไม่นาน ก็เข้าสู่เขต “จังหวัดระยอง” เมืองต้องห้าม...พลาด plus ที่จับคู่กันได้อย่างลงตัวด้วยความที่เป็นเมืองชายฝั่งตะวันออกเหมือนกัน มีหมู่เกาะน้อยใหญ่สวยงามไม่แพ้กัน แม้จะมีจำนวนเกาะไม่มากเท่าตราดก็ตาม
พูดถึง “จังหวัดระยอง” หลายคนคงนึกไปถึง “สุนทรภู่” กวีเอกแห่งกรุงรัตนโกสินทร์และกวีเอกของโลกที่ได้รับยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นบุคคลสำคัญของโลกด้านงานวรรณกรรมเมื่อปี 2529 จากผลงานที่ท่านสร้างสรรค์ไว้มากมาย ทั้งงานวรรณคดี กาพย์ กลอน นิราศอันไพเราะ
เมืองระยองได้ยกย่องสุนทรภู่ให้เป็นบุคคลสำคัญของจังหวัด เนื่องจากบิดาของท่านเป็นชาวกร่ำ เมืองแกลง หรือปัจจุบันคือตำบลกร่ำ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง อีกทั้งสุนทรภู่ยังได้แต่ง "นิราศเมืองแกลง" นิราศเรื่องแรกที่แต่งขึ้นในคราวที่เดินทางไปหาบิดาซึ่งบวชเป็นพระภิกษุอยู่ที่วัดบ้านกร่ำ จึงมีการอนุสาวรีย์สุนทรภู่ไว้ที่ ตำบลกร่ำ อำเภอแกลง และได้จัดงาน "วันสุนทรภู่" ขึ้นเป็นประจำในวันคล้ายวันเกิดของท่านหรือวันที่ 26 มิ.ย. ของทุกปี
“เสม็ด” เกาะต้องห้ามพลาดแห่งระยอง
เมื่อถามถึงทะเลระยอง เชื่อแน่ว่าหลายๆ คนต้องนึกถึง “เกาะเสม็ด” หนึ่งในเกาะงามใกล้กรุงฯที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวมาช้านานหลายยุคหลายสมัย
“เกาะเสม็ด” (ต.บ้านเพ อ.เมือง) อยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด บนเกาะประกอบไปด้วยหาดทรายขาวสะอาดและหาดหินรวมๆ แล้วเกือบ 20 หาด โดยหาดยอดฮิตที่มีทั้งความสวยงามและความคึกคักของนักท่องเที่ยวก็เช่น หาดทรายแก้ว อ่าววงเดือน ส่วนหาดที่เงียบสงบเหมาะแก่การพักผ่อนก็เช่น อ่าวช่อ อ่าวลุงดำ อ่าวปะการัง ฯลฯ รวมไปถึงอ่าวพร้าวที่ชมพระอาทิตย์ตกยามเย็นได้สวยงามที่สุด อีกทั้งในยามราตรี บางหาดบนเกาะเสม็ด เช่น หาดทรายแก้ว อ่าววงเดือน ก็จะมีแสงสีและความสนุกคึกคักให้นักท่องเที่ยวออกมาปาร์ตี้และตื่นตาตื่นใจกับการแสดงโชว์ควงไฟ
นอกจากเกาะเสม็ดแล้ว ระยองยังมี “หมู่เกาะมัน” (ต.กร่ำ อ.แกลง) เป็นอีกหนึ่งหมู่เกาะงามแห่งท้องทะเลอ่าวไทย หมู่เกาะมัน ประกอบไปด้วย 3 เกาะ ได้แก่ เกาะมันใน เกาะมันกลาง และเกาะมันนอก
สำหรับ “เกาะมันใน” เป็นสถานที่ดำเนินโครงการอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล ในพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นเกาะชมได้ ที่นี่เป็นสถานที่อนุบาลลูกเต่าทะเลก่อนจะปล่อยลงสู่ทะเล นอกจากนั้นภายในโครงการฯ ก็ยังมีการเลี้ยงพ่อพันธุ์แม่พันธุ์เต่าทะเลเพื่อใช้ในการขยายพันธุ์ และมีส่วนจัดแสดงให้ความรู้เกี่ยวกับเต่าทะเลให้นักท่องเที่ยวได้รับทราบกัน
ส่วน “เกาะมันกลาง” และ “เกาะมันนอก” ต่างเป็นเกาะเล็กๆ ที่มีความสวยใสไม่แพ้กัน และมีลักษณะคล้ายกันคือเป็นเกาะของเอกชนที่มีรีสอร์ทให้บริการเพียงแห่งเดียวบนเกาะ การจะไปเที่ยวหรือพักค้างคืนจะต้องซื้อแพ็คเกจกับทางรีสอร์ท แต่ก็รับรองว่าจะได้พบกับบรรยากาศอันแสนสงบและเป็นส่วนตัว อีกทั้งเกาะมันกลางและเกาะมันนอกต่างมีน้ำทะเลใสและหาดทรายสวยๆ ที่จะทำให้นักท่องเที่ยวต่างหลงใหลได้ไม่ยาก
ระยอง เมืองชายหาดมากเสน่ห์
หากไม่อยากนั่งเรือไปเที่ยวเกาะ แต่อยากพักผ่อนสบายๆ ริมชายหาด ระยองก็มีชายหาดมากเสน่ห์อยู่หลายแห่ง ซึ่งแต่ละแห่งก็มีที่พักและร้านอาหารให้เลือกหลายแบบหลายสไตล์ ทั้งโรงแรมหรูหรา รีสอร์ทน่ารัก และบังกะโลเล็กๆ ราคาประหยัด ไม่ว่าจะเป็น “หาดพยูน-หาดพลา” (อ.บ้านฉาง) เป็นหาดแรกที่จะได้พบหากมาจากชลบุรีสู่ระยอง “หาดแสงจันทร์” (อ.เมือง) หาดนี้อยู่ในตัวเมืองระยองเลย ลักษณะหาดมีกองหินสร้างเป็นเขื่อนก่อยื่นออกไปในทะเล ทำให้ชายฝั่งเป็นเหมือนอ่าวเล็กๆ รูปครึ่งวงกลมเรียงต่อกันตลอดแนวชายหาด
“หาดแม่รำพึง” (อ.เมือง) ชายหาดสะอาดบรรยากาศสงบ และยังเป็นชายหาดที่ยาวที่สุดของฝั่งทะเลตะวันออก มีความยาว 12 กม. “หาดบ้านเพ” (อ.เมือง) แม้จะไม่เหมาะแก่การเล่นน้ำ แต่ก็ขึ้นชื่อในเรื่องของการเป็นท่าเรือข้ามฟากไปยังเกาะเสม็ด และยังเป็นแหล่งซื้อหาของฝากประเภทอาหารทะเลทั้งสดและแห้ง
“หาดสวนสน” หรือสวนรุกขชาติเพ (อ.เมือง) เป็นอีกหาดหนึ่งของทะเลระยองที่ผู้คนนิยมมาพักผ่อนกัน มีจุดเด่นคือต้นสนทะเลที่เรียงรายเต็มสองข้างทางและริมชายหาด และ “หาดแม่พิมพ์” (อ.แกลง) หาดทรายละเอียดและมีความเป็นธรรมชาติของแนวสนสลับกับต้นหูกวางร่มรื่นตลอดริมหาด
ใน อ.เมืองระยองยังเป็นที่ตั้งของ “อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด” แหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจที่หลายคนมักผ่านเลยไป แต่หากแวะเข้ามาชมจะรู้ว่าที่นี่เป็นจุดชมวิวทะเลที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของระยอง
อุทยานฯ เขาแหลมหญ้ามีพื้นที่ครอบคลุมทั้งบนฝั่งด้านตะวันออกของเขาแหลมหญ้า ได้แก่หาดแม่รำพึง บ้านก้นอ่าว รวมไปถึงเกาะในทะเล อาทิ เกาะเสม็ด เกาะจันทร์ เกาะกุฎี เกาะทะลุ เป็นต้น สำหรับพื้นที่บนชายฝั่งนั้น นอกจากจะมีจุดชมวิวทะเลงามๆ ที่พัก ที่กางเต็นท์ และร้านอาหารของอุทยานให้บริการแล้ว ก็ยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติระยะทาง 1.1 กม. ที่แบ่งเป็นสถานีย่อยๆ จากป่าดิบแล้งในภูเขาไปออกสู่ยอดเขาแหลมหญ้าซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยงาม และสามารถเดินลัดเลาะลงสู่ทะเลไปตามโขดหินชายฝั่งได้อีกด้วย
เดินเล่น “ถนนยมจินดา” ไหว้พระวัดงามแห่งระยอง
เที่ยวทะเลกันจนเต็มอิ่มแล้ว เปลี่ยนบรรยากาศมาเดินเล่นเพลินๆ ไหว้พระให้สบายใจในเมืองระยองกันบ้าง โดยถนนสายชิลล์ในเมืองระยองที่เหมาะจะเดินเล่นชมบรรยากาศต้องยกให้ “ถนนยมจินดา” (อ.เมือง) ถนนสายแรกของเมืองระยองซึ่งเป็นย่านชุมชนการค้าอันเก่าแก่ สร้างขนานไปกับแม่น้ำระยองที่อยู่กลางเมือง
ถนนสายนี้เคยคึกคักและเต็มไปด้วยผู้คนที่มาทำธุรกิจการค้า เป็นที่ตั้งของธนาคาร โรงหนัง ตลาด แต่เมื่อเมืองโดยรอบขยายตัวขึ้น มีถนนตัดผ่านมากขึ้น ถนนยมจินดาจึงไม่ใช่ถนนสายหลักอีกต่อไป แต่ด้วยความร่วมมือของชาวชุมชนและหน่วยงานต่างๆ ที่มองเห็นคุณค่าของย่านเก่าแห่งนี้ จึงช่วยกันฟื้นฟูให้บรรยากาศแบบเดิมๆ ของถนนยมจินดาฟื้นคืนมาอีกครั้งเพื่อให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ยังมีกลิ่นอายของวันคืนเก่าๆ
หากได้มาเดินเล่นที่นี่ เราจะได้ชมบ้านเรือนแบบโบราณอายุนับเกือบร้อยปีริมสองฝั่งถนน บ้างเป็นบ้านไม้ทั้งหลัง บ้างเป็นครึ่งปูนครึ่งไม้ บ้างเป็นตึกโบราณคลาสสิกด้วยประตูบานเฟี้ยม ไม้ระแนง ช่องลมลวดลายอ่อนช้อย ที่แต่ละหลังก็มีเรื่องราวของตนเอง อาทิ ตึกกี่พง หรือตึกพ่อสิงห์-แม่กราย เป็นตึกแรกที่สร้างขึ้นบนถนนยมจินดา “บ้านสัตย์อุดม” ที่ปัจจุบันจัดทำเป็น “พิพิธภัณฑ์เมืองระยอง” บอกเล่าเรื่องราวเมืองระยองผ่านภาพถ่ายเก่าแก่และข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันในสมัยอดีต บางหลังปรับปรุงเป็นร้านกาแฟบรรยากาศเยี่ยมอย่างร้าน “ราย็อง” มีบริการอาหารและเครื่องดื่มในร้านที่ตกแต่งแบบสมัยเก่า กินขนมพร้อมชมบรรยากาศไปด้วย เพลินยิ่งนัก
ไม่ไกลจากถนนยมจินดาซึ่งอยู่กลางเมือง เป็นที่ตั้งของวัดสำคัญหลายแห่งของเมืองระยอง อาทิ “วัดป่าประดู่” วัดเก่าแก่สมัยกรุงศรีอยุธยา วัดแห่งนี้มีสิ่งสำคัญที่ไม่ควรพลาดไปกราบสักการะก็คือ “พระพุทธไสยาสน์” พระนอนองค์ใหญ่ประทับอยู่ในท่านอนตะแคงซ้าย ที่นับว่าแปลกจากพระนอนทั่วไปที่นอนตะแคงขวา และพระพุทธรูปปางเลไลยก์องค์เก่าแก่สร้างมาคู่กับวัด นอกจากนั้นอย่าลืมไปลอดใต้โบสถ์เก่าของวัด ที่เชื่อกันว่าเป็นการล้างอาถรรพ์ เพิ่มสิริมงคลให้ตนเอง
ทุ่งโปรงทอง-สวนพฤกษศาสตร์ ชมธรรมชาติไม่ควรพลาดที่เมืองแกลง
“ทุ่งโปรงทอง” (บ้านแสมภู่ ต.ปากน้ำประแส อ.แกลง) เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของระยอง หลังจากที่ ททท. ชูให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว “เขาเล่าว่า...” ที่นำตำนานเรื่องเล่าจากทั่วเมืองไทยมาผูกโยงกับแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ
สำหรับทุ่งโปรงทอง เขาเล่ากันว่า ความงดงามของ “ป่าสีทอง” นั้นเกิดจากใบไม้ของต้นโปรงที่มีสีเขียวอมเหลืองสดใส เมื่อยามต้องแสงแดดก็เปล่งประกายคล้ายสีทองอร่ามไปทั่วบริเวณสวยงามราวกับต้องมนต์ แต่ที่มากกว่าความสวยงามคือความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติป่าชายเลน และความร่วมมือของชุมชนปากน้ำประแสที่ช่วยกันฟื้นฟูและอนุรักษ์ไว้
และนอกจากทุ่งโปรงทองแล้ว ในตำบลปากน้ำประแสนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอีกหลากหลายที่นักท่องเที่ยวสามารถนั่ง “รถมอเตอร์ไซค์พ่วงข้าง” ไปเที่ยวชมกันได้ ไม่ว่าจะเป็นการชมบรรยากาศบ้านเรือนในชุมชนปากน้ำประแส ชม “อนุสรณ์เรือรบหลวงประแส” ที่นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมบรรยากาศของเรือรบกันได้อย่างใกล้ชิด ไปไหว้ “ศาลกรมหลวงชุมพรฯ” และชมต้นตะเคียนเก่าแก่กว่า 500 ปีที่ “วัดตะเคียนงาม” กันได้
ทุ่งโปรงทองว่าสวยมีเสน่ห์แล้ว อยากให้ไปชมอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวใน อ.แกลง ที่มีพันธุ์ไม้นานาพรรณละลานตาไม่แพ้กัน ที่ “สวนพฤกษศาสตร์ระยอง” (ต.ชากพง อ.แกลง) ที่นี่จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นศูนย์ศึกษาวิจัย และรวบรวมพรรณไม้ในภาคตะวันออก โดยเฉพาะสภาพนิเวศวิทยาของพื้นที่ชุ่มน้ำและป่าเสม็ด เพราะพื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีมาแต่เดิม และเป็นแห่งเดียวที่คงเหลืออยู่สมบูรณ์ที่สุดในภาคตะวันออก ชาวบ้านเรียกว่า “หนองจำรุง” หรือ “บึงสำนักใหญ่”
การเข้าชมเส้นทางศึกษาธรรมชาติบนเกาะกลางบึงด้วยเรือในระหว่างทางจะได้ชมทัศนียภาพของบึงบัวนานาชนิดทั้งบัวผัน บัวเผื่อน บัวสาย ดอกของสาหร่ายข้าวเหนียว แพหญ้าหนังหมา (แพหญ้าที่ทับถมกันเป็นชั้นหนาๆ 50-100 ซม.) รวมถึงกกกระจูด ที่ชาวบ้านได้นำเอามามาสานเป็นข้าวของเครื่องใช้สร้างรายได้ให้ครอบครัวอย่างมากมาย
ส่วนเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่อยู่บนเกาะกลางน้ำนั้นเป็นการผสมผสานกันระหว่างบึงน้ำจืดและป่าพรุรวมอยู่ในนิเวศเดียวกัน ซึ่งเป็นลักษณะพิเศษและหายาก โดยไฮไลต์ของพันธุ์ไม้ในเส้นทางนี้ก็คือ “ป่าเสม็ดพันปี” ที่มีทั้งต้นเสม็ดขาวและเสม็ดแดงที่เก่าแก่ขึ้นอยู่เป็นบริเวณกว้างหลายร้อยต้น ต้นเสม็ดที่อายุมากๆ จะแผ่กิ่งก้านออกไปไกล ปลายกิ่งหงิกงอดูแล้วชวนให้นึกถึงป่าดึกดำบรรพ์อันลึกลับและงามแปลกตา
อิ่มอร่อยในแดนสวรรค์แห่งสวนผลไม้
มาปิดท้ายที่เที่ยวในระยองด้วยการเที่ยวไปชิมไปในสวนผลไม้หลากชนิด เพราะช่วงหน้าฝนอย่างนี้เป็นช่วงที่ผลไม้หลากหลายในภาคตะวันออกกำลังแข่งกันออกผลหวานหอมมาให้เราชิมกัน เป็นดังสวรรค์ของคนรักผลไม้ ไม่ว่าจะเป็นทุเรียน เงาะ มังคุด ลองกอง สละ ฯลฯ ที่นอกจากจะไปหาซื้อผลไม้สดๆ กันได้ในตลาดผลไม้ตะพง (ต.ตะพง อ.เมือง) ที่เป็นตลาดผลไม้ที่ใหญ่ที่สุดในระยองแล้ว ก็ยังสามารถเข้าไปชิมผลไม้สดๆ กันถึงต้น แบบ“อร่อยทุกไร่ ชิมไปทุกสวน” ที่สวนผลไม้ต่างๆ
สำหรับสวนผลไม้เด่นๆใน ระยองที่เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปเทียวชมพร้อมอิ่มอร่อยกับการกินผลไม้สดๆเก็บจากต้นนั้นก็มีหลากหลาย อาทิ “สวนยายดา”(เจ๊บุญชื่น) “สวนปาหนัน” “สวนลุงทองใบ” (ต.ตะพง อ.เมือง) ที่มีบุปเฟต์ผลไม้ให้ชิมกันจุใจ, “สวนละไม”(ต.ป่ายุบใบ อ.วังจันทร์) สวนผลไม้ท่ามกลางอ้อมกอดแห่งขุนเขาที่กำลังมาแรง และ “สวนสุภัทราแลนด์”(อ.บ้านค่าย) หนึ่งในต้นตำรับทัวร์สวนผลไม้ที่มีการจัดการที่ดีมีชื่อเสียงมาช้านาน
ที่สวนสุภัทราแลนด์นอกจากจะมีผลไม้ให้ชิมแล้วยังมีบริการนำชมสวนผลไม้ และมีกิจกรรมหลากหลายให้นักท่องเที่ยวเข้าชมโดยนั่งรถรางผ่านไปยังสถานีต่างๆ และอีกหลากหลายสวนที่พร้อมเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมและชิม
มาเที่ยว “ตราด plus ระยอง” แบบนี้ ได้เต็มอิ่มกับท้องทะเล ทั้งเกาะงามเหมือนฝันและชายหาดมากเสน่ห์ ทำเอาหลงรักทะเลตะวันออกเข้าอย่างจัง
เห็นอย่างนี้แล้วอย่ารอช้า เก็บกระเป๋าเตรียมตัวออกเดินทางมาสัมผัสเมืองที่ต้องห้าม...พลาด แห่งภาคตะวันออกกันเลย
* * * * * * * * * * * * * * * * * * *
ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดของสถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร และการเดินทางในเส้นทาง เมืองต้องห้าม...พลาด พลัส “ตราด plus ระยอง” เพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานระยอง (ดูแลพื้นที่ระยอง จันทบุรี) โทร.0-3865-5420-1, 0- 3866-4585 และ ททท.สำนักงานตราด โทร.0 3959 7259
* * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com