กลายเป็นอีเวนต์เคานต์ดาวน์ปีใหม่ที่มีกระแสพูดถึงอย่างมากในโลกออนไลน์ สำหรับการจัดเคานต์ดาวน์อย่างยิ่งใหญ่ในพื้นที่แลนด์มาร์กแห่งใหม่ "วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร" งานนี้ททท.ทุ่มงบฯ เกือบ 120 ล้าน หวังสร้างชื่อเสียงครั้งใหญ่ ฟื้นความเชื่อมั่น ดึงความสนใจจากทั่วโลกให้มาหยุดอยู่ที่ประเทศไทยอีกครั้ง
ทว่า บางกลุ่มกลับมองว่า เป็นความหวังดีประสงค์ร้าย เห็นแก่ได้มากกว่าผลเสียที่จะตามมา โยงไปประสู่ประเด็นดรามาทั้งเรื่องของการลบหลู่ และทำลายในเวลาเดียวกัน โดยเฉพาะพระปรางค์วัดอรุณฯ ที่กำลังอยู่ในระหว่างการบูรณะซ่อมแซม อาจได้รับผลกระทบจากอีเวนต์ใหญ่ระดับประเทศครั้งนี้
เคานต์ดาวน์ปีใหม่ที่ "วัดอรุณฯ"
ทันทีที่กิจกรรมเคานต์ดาวน์ปีใหม่ครั้งยิ่งใหญ่ระดับประเทศ โดยเลือก "วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร" หรือวัดแจ้งเป็นสถานที่ไฮไลท์สุดอลังการภายใต้กิจกรรม Thailand Countdown 2016 ชูพระปรางค์เป็นฉากหลังงานเคานต์ดาวน์ พร้อมด้วยพลุกว่า 5 พันนัด เชื่อว่าหลายคนคงตื่นเต้น และรอที่จะเห็นความแปลกใหม่ครั้งแรกของไทยในการใช้วัดจัดอีเวนท์นับถอยหลังส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่
ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในฐานะหัวเรือใหญ่ บอกว่า การใช้ภาพวัดอรุณฯ จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ฟื้นคืนความเชื่อมั่นของประเทศไทยให้กลับคืนมา เพราะเป็นวัดมีชื่อเสียง และเป็นสัญลักษณ์ที่นักท่องเที่ยวคิดถึงเมื่อพูดถึงประเทศไทย นอกจากนั้น ยังสะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นไทย สอดคล้องกับแนวคิดท่องเที่ยววิถีไทย ซึ่งถือว่าคุ้มค่าต่อการสร้างชื่อเสียงครั้งใหญ่ให้แก่ประเทศไทย
ทั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานเป็นจำนวนมาก จึงให้ความสำคัญกับการบริหารด้านความปลอดภัย และจำกัดจำนวนผู้เข้าชม โดยจะทำการเผยแพร่ภาพให้ผู้ชมทั่วไปได้รับชมผ่านการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ในคืนวันที่ 31 ธ.ค. อีกทั้งได้เพิ่มกิจกรรมในวันที่ 29 และ 30 ธ.ค. ตั้งแต่ 21.00-22.00 น. ประกอบด้วยการแสดงต่างๆ รวมทั้งการเคานต์ดาวน์ต้อนรับเออีซี ในคืนวันที่ 30 ธ.ค. เพื่อเป็นการประกาศความพร้อมสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
สำหรับกิจกรรมดังกล่าว ประกอบด้วยกิจกรรม 2 ส่วนหลัก คือ ถนนคนเดินแบบวิถีย้อนยุค บริเวณท่ามหาราช ช่วงสวนนาคราภิรมย์-ถนนเชตุพน จำหน่ายสินค้าจาก12 เมืองต้องห้าม...พลาด และ 12 เมืองต้องห้าม...พลาด พลัส ตั้งแต่เวลา 17.00-22.00 น.
ส่วนกิจกรรม Thailand Countdown 2016 จะมีการแสดงแสงสีเสียง โดยกิจกรรมเคานต์ดาวน์ในคืนที่ 31 ธันวาคม จะมีการจัดกิจกรรมอย่างยิ่งใหญ่ มีการจุดพลุรวม 5,574 นัด ประกอบด้วยการฉลองปีสากล 2016 นัด ฉลองปีพุทธศักราชใหม่ 2,559 นัด และ 999 นัดสุดยิ่งใหญ่เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯลฯ
อัปยศ! รุมสวดอีเวนต์ระดับประเทศ
ท่ามกลางกระแสความตื่นเต้นกับความแปลกใหม่ในการเคานต์ดาวน์ปีใหม่โดยใช้พระปรางค์วัดอรุณฯ เป็นฉากหลัง แต่บางกลุ่มกลับมองว่า นี่คือความอัปยศทิ้งท้ายปี
เห็นได้จากสมาชิกเฟซบุ๊ก Janthip Satiratham ได้มีการโพสต์ข้อความระบุถึงการจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีของวัดในขณะที่รอบบริเวณดังกล่าวก็ได้มีการจัดงานแสดงแสง สี เสียง พร้อมด้วยการตั้งเวทีขนาดใหญ่ขนาบพระปรางค์ รวมถึงการจุดพลุเฉลิมฉลอง โดยระบุว่าเป็นการจัดงานที่อัปยศมากๆ
ความอัปยศของ 2016 Thailand Countdownช่างโหดร้าย แล้งน้ำใจยิ่งนักทางวัดประกาศกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีริมน้ำก็จัดจอยักษ์ขนา...
Posted by Janthip Satiratham on Sunday, December 27, 2015
"ความอัปยศของ 2016 Thailand Countdown
ช่างโหดร้าย แล้งน้ำใจยิ่งนัก
ทางวัดประกาศกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี
ริมน้ำก็จัดจอยักษ์ขนาบข้างพระปรางค์วัดอรุณฯ สารพัดลำโพง คงกระหึ่มตะลึงตึงตัง อีกทั้งจุดทั้งพลุ และดอกไม้ไฟ คงกระทบกระเทือนน่าดู
ช่างลบหลู่โบราณสถานคู่เมือง ความเป็นพระราชวังเดิม ศาสนสถานยิ่งนัก คนที่สวดมนต์เขาจะมีสมาธิได้อย่างไร
คนทำงานเก่งเขาต้องฉลาดอย่างมีปัญญา งานนี้แสดงถึงความเห็นแก่ได้ เอาหน้าอย่างชัดเจน.."
ภายหลังที่ข้อความถูกเผยแพร่ออกไป มีผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์เข้ามาร่วมแสดงความเห็นกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีทั้งที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย ขณะที่บางส่วนเกรงว่าองค์พระปรางค์วัดอรุณฯ นั้นจะได้รับผลกระทบจากการจัดงานครั้งนี้ เนื่องจากกำลังอยู่ในระหว่างการซ่อมแซม โดยมีข่าวว่าทางกระทรวงวัฒนธรรมได้มีการขอร้องให้กรมศิลปากรรื้อถอนนั่งร้านออกไปก่อนชั่วคราวเพื่องานนี้โดยเฉพาะ
เคลียร์ชัดๆ ทุกข้อสงสัย
สำหรับความกังวลในประเด็นการจัดแสดง และการสวดมนต์ข้ามปีว่าจะคาบเกี่ยวกันหรือไม่ ทางผู้จัดงานได้เคยออกมาชี้แจงว่า การแสดงต่างๆ จะให้ยุติในเวลา 22.00 น. เพื่อให้ไม่กระทบต่อการสวดมนต์ข้ามปี ดังนั้น จึงไม่รบกวนสมาธิของผู้ที่เดินทางมาสวดมนต์อย่างแน่นอน
ส่วนความกังวลที่ว่าพระปรางค์วัดอรุณฯ นั้นอาจได้รับผลกระทบ หรือเสียหายจากกิจกรรมในงานอีเวนต์ใหญ่ระดับประเทศครั้งนี้ กรมศิลปากร ในฐานะผู้ดูแลผู้งานบูรณะพระปรางค์วัดอรุณฯ ให้ความเชื่อมั่นว่า แม้จะรื้อนั่งร้านรอบๆ องค์พระปรางค์ออกไปก็ไม่กระทบต่อโครงสร้าง แต่จะส่งผลกระทบในเรื่องของการบูรณะที่จะต้องล่าช้าออกไป อย่างน้อยๆ ประมาณ 2 เดือน แค่การประกอบนั่งร้านใหม่ก็ใช้เวลาประมาณ 2-3 อาทิตย์ แถมยังต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นด้วย
"ที่คุยกันกับทาง ททท. มีเพียงไลท์อัปอย่างเดียวที่ติดตั้งบริเวณตัวพระปรางค์ เพื่อเป็นสัญลักษณ์เมื่อถึงเวลาเคานต์ดาวน์เท่านั้นเองครับ ถ้าแค่นี้ก็คงไม่ส่งผลกระทบอะไรกับตัวพระปรางค์ครับ ที่จะมีผลกระทบก็คือส่วนงานในการบูรณะที่ล่าช้าออกไป ซึ่งงานนี้เราจำเป็นต้องถอนนั่งร้านลง สนองความตั้งใจดีของ ททท.ที่ต้องการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่ประเทศ อีกทั้งยังเป็นมติ ครม. ทางกรมศิลป์เราก็ยินดี
ส่วนประเด็นวิพากษ์วิจารณ์เรื่องเครื่องเสียงที่ตั้งขนาบข้างพระปรางค์นั้น ตรงนี้ไม่มีนะครับ เพราะในส่วนของเวที และเครื่องเสียงจะถูกเอาไปตั้งไว้อีกฝั่งหนึ่ง ซึ่งก็คือฝั่งของสวนนาคราภิรมย์ เรื่องพลุเราก็เสนอให้ไปจุดไกลๆ และต้องมีไม่มากนัก นอกจากนั้น จะเป็นการฉายไฟ มีแค่จอฉายขนาดใหญ่ 2 อันที่ตั้งอยู่ริมน้ำเท่านั้น โดยรอบๆ พระปรางค์เข้าไม่ได้อยู่แล้วครับ หน้าวัดที่เป็นสนามหญ้าก็จะเป็นกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีของกระทรวงวัฒนธรรมที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี" นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากรให้สัมภาษณ์ผ่านทีมข่าวผู้จัดการ Live
ปัจจุบัน ตัวโครงสร้างขององค์พระปรางค์วัดอรุณฯ นั้น อธิบดีกรมศิลปากร ย้ำว่า ทางกรมศิลป์ได้ส่งวิศวกรเข้าไปตรวจโครงสร้างแล้ว และพบว่ายังมีความแข็งแรงทนทาน ซึ่งภาพโดยรวมถือว่าอยู่ในสภาพดี มีแค่เพียงพื้นผิวภายนอกเท่านั้นที่เสียหายบ้างไปตามกาลเวลา
มาตามติด Facebook Fanpage และ Instagram
"MGR Online Live" และ "@manager_live" กันได้ที่นี่!!
และสามารถส่งข่าวสารมาได้ที่: manageronlinelive@gmail.com
หรือ Fax 0-2629-4754