xs
xsm
sm
md
lg

ยลเสน่ห์"ปากพนัง" เที่ยวตลาดร้อยปี ซื้อรังนกของดี ล่องแม่น้ำสุดชิลล์

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

บรรยากาศของแม่น้ำปากพนัง
“ปากพนัง” เป็นอำเภอเล็กๆ แต่มีเสน่ห์ของจังหวัดนครศรีธรรมราช ที่อยากแนะนำให้ผู้ที่ผ่านไปมาได้ลองหาโอกาสแวะเข้ามาเยี่ยมชมดูสักครั้ง

ที่ปากพนังมี “ตลาด 100 ปี เมืองปากพนัง” เป็นตลาดเล็กๆ แต่เก่าแก่และมีประวัติยาวนานมานับร้อยปี ตัวตลาดตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำปากพนังทางทิศตะวันออก ทางเข้าตลาดจะอยู่บริเวณถนนชายน้ำ มีป้ายไม้เขียนว่า “ตลาด 100 ปี เมืองปากพนัง” อยู่หน้าตรอกเล็กๆ ที่นำเราเข้าไปสู่ตลาดด้านใน
ด้านหน้าทางเข้าตลาด 100 ปี เมืองปากพนัง
เรือโดยสารข้ามฟากในแม่น้ำ
บริเวณตรอกทางเข้าก็มีตั้งแต่ร้านขายของชำ ร้านขายยา ร้านขายสินค้าของฝาก รวมไปถึงร้านเล็กๆ ที่แม่ค้าหาบของมาขาย ซึ่งหากใครชอบกิน “ขนมลา” ขนมขึ้นชื่อของปากพนังก็สามารถซื้อหากันได้ที่นี่เลย และเมื่อเดินพ้นตรอกไปจนถึงริมแม่น้ำ ก็จะพบกับท่าเรือข้ามฟากที่มีคนข้ามฝั่งไปมาพลุกพล่านตลอดทั้งวัน มองไปยังฝั่งตรงข้ามเห็นเรือประมงจอดหลายลำ มองเห็นชุมชนริมน้ำมีเสน่ห์ดีไม่หยอก
หอยแครงสดตัวโตน่ากิน
ผลไม้ก็มีขาย
และนอกจากท่าเรือข้ามฟากแล้ว บริเวณทางเดินริมน้ำก็ยังเต็มไปด้วยตลาดสดที่มีอาหารทะเลทั้งสดทั้งแห้งวางขายตั้งแต่สายๆ ไปจนถึงเย็น กุ้งหลายชนิด หอยแครงตัวโตเนื้อแดงน่ากิน ปูม้าปูทะเล ปลาชนิดต่างๆ มีให้เลือกหลากหลาย แม้เป็นตลาดสดเล็กๆ แต่ก็ดูมีชีวิตชีวาทั้งคนซื้อคนขาย อีกทั้งใกล้ๆ ทางเดินออกสู่ถนนก็ยังมีร้านขายอาหารแห้งประเภทปลาแห้ง ปลาเค็ม กะปิ มันกุ้ง ฯลฯ ให้เลือกซื้อเป็นของฝากได้อีกด้วย
ของแห้งปลาแห้งมีให้เลือกซื้อ
ปลาสดๆ จากทะเล
หรือหากมาในช่วงสายๆ นอกจากจะได้ซื้อของสดของแห้งแล้ว ก็ยังได้เห็นพ่อค้าแม่ค้าเอาปลามาวางตากแดดเตรียมทำปลาเค็มปลาแห้ง ถ่ายรูปกันได้เพลินไปอีก
ตากปลาเตรียมทำเป็นปลาเค็มปลาแห้ง
อาคารเก่าบริเวณหัวมุมถนนพานิชย์สัมพันธ์
อีกสิ่งหนึ่งที่อยู่คู่กับเมืองปากพนังที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ นั่นก็คือ “บ้านนกอีแอ่น” บ้านนกเหล่านี้ไม่ใช่กรงเล็กๆ เลี้ยงไว้ดูเล่น แต่เป็นการเลี้ยงเพื่อเก็บรังนกอีแอ่นเพื่อขาย โดยบ้านนกอีแอ่นเหล่านี้ก็เป็นตึกสูงที่ดูเผินๆ ก็คล้ายตึกแถวธรรมดา แต่มองไปมองมาชักน่าสงสัย เพราะไม่เห็นมีหน้าต่างตามที่ควรจะมี แต่กลับเป็นกำแพงทึบ มีช่องมีรูเล็กๆ ไว้แทน หลายคนเรียกจนติดปากว่าเป็น “คอนโดนกอีแอ่น”
คอนโดนกอีแอ่นหลังใหญ่
ที่ อ.ปากพนังนี้ คนส่วนหนึ่งนิยมสร้างบ้านให้นกอีแอ่นอยู่กันเป็นจำนวนมาก โดยนกเหล่านี้ได้อพยพจากต่างถิ่นเข้ามาอาศัยอยู่ในปากพนังเมื่อประมาณ 80 ปีที่แล้ว เนื่องจากที่นี่มีป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์ มีแมลงซึ่งเป็นอาหารของนกอีแอ่นอยู่มาก จากนั้นพวกมันก็อาศัยอาคารบ้านเรือนของชาวบ้านทำรัง แต่ชาวบ้านหลายๆ คนก็ยินดีให้นกทำรัง แลกกับการเก็บรังนกนางแอ่นขาย ซึ่งราคาต่อกิโลกรัมต้องบอกว่าแพงพอๆ กับทองคำเลยทีเดียว
บริษัทรังนกขวัญมุย ที่ถือได้ว่าเป็นคอนโดนกอีแอ่นแห่งแรกๆ
ส่วนการสร้างคอนโดให้นกมาอยู่นั้น ว่ากันว่า บริษัทผลิตรังนกยี่ห้อขวัญมุยบนถนนพานิชสัมพันธ์นั้นเป็นตึกหลังแรกที่สร้างให้นกนางแอ่นอยู่ หลังจากนั้นก็มีคนทำตามต่อๆ กันมา โดยเคยมีการสำรวจเมื่อราว 10 ปีก่อน พบว่ามีนกนางแอ่นในปากพนังประมาณ 3 ล้าน 5 แสนตัว มีบ้านและคอนโดนก 100 กว่าหลัง นับว่ามากที่สุดในเมืองไทยเลยทีเดียว ดังนั้นหากมาที่นี่ก็สามารถหาซื้อรังนกแท้ๆ ไปฝากคนทางบ้านกันได้
โครงการประตูระบายน้ำอุทกวิภาชประสิทธิ หรือเขื่อนปากพนัง
แต่ถ้าอยากสัมผัสบรรยากาศของปากพนังอย่างแท้จริง ต้องหาโอกาสมาล่องเรือชมแม่น้ำปากพนังดูสักครั้ง โดย “แม่น้ำปากพนัง” มีต้นน้ำอยู่ที่เทือกเขาบรรทัด ในเขตตำบลวังอ่าง อำเภอชะอวด จ.นครศรีธรรมราช จากนั้นไหลผ่านอำเภอชะอวด อำเภอเชียรใหญ่ และมีคลองสาขาจากอำเภอหัวไทร ไหลมารวมกันที่บ้านปากแพรก จนกลายเป็นแม่น้ำปากพนัง และไหลลงสู่อ่าวนครศรีธรรมราช

แม่น้ำสายนี้เป็นแม่น้ำสายสำคัญของปากพนัง โดยทางด้านเกษตรกรรม โดยแต่เดิมบริเวณลุ่มน้ำปากพนังเป็นบริเวณที่ราบมีพื้นที่นากว่า 500,000 ไร่ มีโรงสีข้าวมากถึง 9 โรง ถือได้ว่าเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของภาคใต้ แต่ต่อมาเกษตรกรเปลี่ยนไปทำนากุ้งแทน ทำให้มีปัญหาเรื่องน้ำเสีย อีกทั้งยังมีน้ำเปรี้ยวจากป่าพรุแพร่กระจาย น้ำเค็มรุกน้ำจืด และอีกหลากหลายปัญหาเรื่องน้ำที่สร้างความเดือดร้อนให้ชาวปากพนังไม่น้อย
นั่งเรือชมวิวชิลล์ๆ
“โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังอันเนื่องมาจากพระราชดำริ” หรือ “โครงการประตูระบายน้ำอุทกวิภาชประสิทธิ” (มีความหมายว่า “ประตูระบายน้ำที่ให้ประสบความสำเร็จในการแยกน้ำ”) หรือที่รู้จักกันในชื่อ “เขื่อนปากพนัง” จึงถือกำเนิดขึ้น โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานแนวพระราชดำริให้หาทางทางพิจารณาแก้ปัญหาทั้งน้ำท่วม น้ำแล้ง น้ำเค็ม โดยการก่อสร้างประตูระบายน้ำอุทกวิภาชประสิทธิขึ้น รวมถึงประตูระบายน้ำอื่นๆ รวมถึงระบบระบายน้ำ ระบบกักเก็บน้ำ และระบบส่งน้ำอื่นๆป้องกันการรุกล้ำของน้ำเค็มไม่ให้เข้าไปทำลายพื้นที่เกษตร อีกทั้งยังมีแหล่งเก็บกักน้ำจืดและลำน้ำสาขาไว้เพื่อการอุปโภคบริโภค เพื่อการเพาะปลูก และยังช่วยบรรเทาเรื่องอุทกภัยอีกด้วย
ปล่องโรงสีข้าวเก่าแก่ยังมีให้เห็น
หากอยากทราบเรื่องราวของเขื่อนปากพนังมากกว่านี้ก็สามารถเข้าไปชมได้ที่ “พิพิธภัณฑ์เฉลิมพระเกียรติ โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำปากพนังฯ” ซึ่งภายในมีทั้งห้องทรงงานส่วนพระองค์ ห้องประชุมและห้องนิทรรศการปากพนังในอดีต พาไปย้อนอดีตสู่ลุ่มน้ำปากพนังที่เมื่ออดีตเคยรุ่งโรจน์ ก่อนที่จะพบกับสภาพปัญหาเรื่องน้ำต่างๆ

อีกทั้งยังมี "อนุสาวรีย์ปล่องโรงสีข้าวโบราณ" ที่ตั้งเด่นเป็นสง่าให้ได้ชมกัน ซึ่งปล่องโรงสีข้าวโบราณนี้ ถือว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งปากพนังที่แสดงให้เห็นว่าในอดีตปากพนังมีความอุดมสมบูรณ์ในฐานะอู่ข้าวอู่น้ำแห่งหนึ่งของเมืองไทย
ยอที่ชาวบ้านสร้างไว้จับปลา
แต่ในเส้นทางของการล่องเรือในแม่น้ำปากพนัง ก็ยังพอมองเห็นปล่องโรงสีข้าวโบราณของจริงให้เห็นอยู่บ้าง และนอกจากนั้นก็ยังได้เห็นถึงชีวิตความเป็นอยู่แบบชาวปากพนังที่มีความผูกพันกับสายน้ำ ที่หล่อเลี้ยงชีวิตชาวปากพนังให้อยู่ดีกินดี มองเห็นเรือประมงของชาวบ้านมากมายจอดเรียงรายไปตามแนวแม่น้ำ ได้เห็นชาวบ้านแล่นเรือออกมาหาปลา บ้านเรือนบางหลังที่ปลูกอยู่ริมน้ำก็มีกระชังปลาและยออยู่หน้าบ้าน

และหากเรือพาล่องออกไปสู่ทะเล ก็จะได้ชมบรรยากาศของป่าชายเลนและวิถีชีวิตประมงชายฝั่ง รวมถึงยังสามารถมองเห็น “แหลมตะลุมพุก” สถานที่ประสบเหตุวาตภัยที่กวาดถล่มหมู่บ้านบนแหลมตะลุมพุกจนราบเป็นหน้ากลองเมื่อปี 2505 แบบไกลๆ ได้อีกด้วย
ป่าชายเลนร่มครึ้ม
* * * * * * * * * * * * * * * * * * *

สามารถสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยว จ.นครศรีธรรมราชเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สนง. นครศรีธรรมราช โทร. 0-7534-6515-6 หรือเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.facebook.com/nakhonsrididee http://www.facebook.com/NakhonsiAwesome
* * * * * * * * * * * * * * * * * * *

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com

 

กำลังโหลดความคิดเห็น