xs
xsm
sm
md
lg

ร้อนๆ หนาวๆ ชุดฉลามขาวตรวจป่าชายเลนแจ้งจับแล้ว 27 คดี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ร้อนๆ หนาวๆ เผยผลปฏิบัติงานชุดฉลาม ตามแผนพลิกฟื้นผืนป่าชายเลน จ.ภูเก็ต จำนวน 34 แปลง เนื้อที่รวม 2,200 ไร่ แจ้งความดำเนินคดี 27 ราย ผู้ต้องหา 22 คน พื้นที่กระทำความผิด 669 ไร่ ขณะที่พื้นที่อีก กว่า 1,500 ไร่ ที่เจ้าของนำหลักฐานมาแสดงเตรียมเสนอเข้าคณะกรรมการตรวจสอบการออกเอกสารสิทธิออกโดยชอบหรือไม่

นายวัชรินทร์ ถิ่นถลาง ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 6 (สบทช.6) กล่าวถึงความคืบหน้า และผลการปฏิบัติงานตรวจสอบพื้นที่ป่าชายเลน ของชุดปฏิบัติการพิเศษฉลามขาว กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ซึ่งนำโดย นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ตามแผนปฏิบัติการพลิกฟื้นผืนป่าชายเลน จ.ภูเก็ต ว่า จากการตรวจสอบของรองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) พบว่า ตั้งแต่ปี 2504 จ.ภูเก็ต มีพื้นที่ป่าชายเลนทั้งสิ้น 21,021 ไร่ ต่อมา ได้ถูกบุกรุกแปรสภาพเป็นบ่อเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ที่อยู่อาศัย และรีสอร์ต จนในปี 2557 พบว่า เหลือพื้นที่ป่าชายเลนเพียงแค่ 13,446 ไร่ ใน 7 พื้นที่ป่าสงวน จึงได้กำหนดเป้าหมายการทวงคืนผืนป่าชายเลน 34 เป้าหมาย เนื้อที่ 2,200 ไร่ โดยเริ่มปฏิบัติการตรวจสอบระหว่างวันที่ 23-31 พ.ค.ที่ผ่านมา มีการตรวจพบพื้นที่ขนาดใหญ่ทั้งที่เป็นสนามกอล์ฟ ท่าเทียบเรือมารีน่า และนากุ้งจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม จากการเข้าพื้นที่ตรวจสอบ พบว่า มีการกระทำความผิดเนื่องจากผู้อ้างสิทธิเข้าไปครอบครองพื้นที่ป่าชายเลนในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต แต่ไม่สามารถนำเอกสารหลักฐานมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้ จำนวน 27 คดี ผู้ต้องหา จำนวน 22 คน พื้นที่กระทำความผิด จำนวน 669 ไร่ ซึ่งในจำนวนนี้ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รวมถึงกรณีการบินสำรวจพื้นที่ป่าชายเลนในพื้นที่ตำบลโคกกลอย อ.ท้ายเหมือง จ.พังงา ซึ่งจากการบินสำรวจเมื่อวันที่ 31 พ.ค.ที่ผ่านมา พบว่า กำลังมีการปรับปรุงหน้าดินเพื่อทำโครงการสวนน้ำขนาดใหญ่ โดยจุดนี้มีการนำเอกสารสิทธิมาแสดง จำนวน 2 ฉบับ แต่การตรวจสอบพบว่า มีการปรับพื้นที่เกิดกว่าเอกสารที่ดินที่มีอยู่ จึงได้มีการดำเนินคดีต่อเจ้าของที่ดินไปแล้วเช่นกัน

ซึ่งหลังจากแจ้งความดำเนินคดีแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ก็จะทำการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อส่งให้พนักงานสอบสวนแต่ละพื้นที่เพิ่มเติม และส่งฟ้องศาล ซึ่งตามหลักฐานที่มีเชื่อว่าจะสามารถทวงคืนที่ดิน จำนวน 669 ไร่ กลับมาเป็นของรัฐได้โดยไม่มีปัญหาอะไร หลังจากผ่านขั้นตอนดังกล่าวทางกระทวงก็จะดำเนินการฟื้นฟู และปลูกป่าชายเลนในที่ดินที่ยึดคืนมาทั้งหมด เพื่อคืนพื้นที่ป่าชายเลยให้กลับมาเป็นของชาติต่อไป

ขณะที่ที่ดินอีกจำนวนกว่า 1,500 ไร่ ซึ่งเจ้าของผู้ครอบครองนำเอกสารหลักฐานการครอบครองมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ที่เข้าตรวจสอบนั้น ในส่วนนี้ตนได้เซ็นคำสั่งตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1 ชุด เพื่อตรวจสอบเอกสารสิทธิที่ดินทั้ง 1,500 ไร่ ว่า เป็นการได้มาโดยชอบหรือไม่ ในเบื้องต้น เชื่อไว้ก่อนว่า ได้มาโดยชอบ แต่จะต้องมาการตรวจสอบให้ชัดเจน ซึ่งจะมีผู้เชี่ยวชาญจากส่วนกลางเข้ามาช่วยดูแล และจะต้องนำการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์เข้ามาช่วยตรวจสอบ รวมถึงการแปรภาพถ่ายทางอากาศด้วย โดยมีประกาศเขตป่าสงวนเมื่อปี 2507 และจากการตรวจสอบภาพถ่ายทางอากาศเมื่อปี 2510 พบว่า สภาพื้นที่ยังเป็นป่าชายเลนสมบูรณ์ แต่ในปัจจุบันพบว่า พื้นที่ป่าชายเลนส่วนใหญ่มีเจ้าของหมดแล้ว และจากการยื่นคำขอออกโฉนดส่วนใหญ่จะใช้ใบเหยียบย่ำมายื่นข้อ ซึ่งเรื่องนี้จะต้องตรวจสอบให้ชัดเจน ว่า เป็นการออกโฉนดโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น