xs
xsm
sm
md
lg

อธิบดีกรมอุทยานฯ ลงชุมพรตรวจยึดนากุ้งจากบริษัทดังกว่า 3 พันไร่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ชุมพร - อธิบดีกรมอุทยานฯ นำกำลังเปิดยุทธการทวงคืนผืนป่า ยึดนากุ้งจากบริษัทดังกว่า 3 พันไร่ บุกรุกยึดครองทำรัฐเสียหายกว่า 300 ล้านบาท

เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (12 พ.ค.) ที่อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร หมู่ที่ 5 ตำบลหาดทรายรี อ.เมือง จ.ชุมพร นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานเเห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้เดินทางมาร่วมประชุมตรวจสอบวางแผนยุทธการทวงคืนผืนป่า ร่วมกับ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษพญาเสือ กรมอุทยานเเห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กำลังทหารจาก มทบ.44 ชุมพร

หลังจากประชุมวางแผนฟังบรรยายสรุปตรวจสอบพิกัดเพื่อเปิดยุทธการทวงคืนผืนป่าแล้ว จากนั้นได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องทั้งหมดกว่า 50 นาย ลงตรวจพื้นที่นากุ้งในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร บริเวณหมู่ 2 ตำบลทุ่งคา อ.เมือง จ.ชุมพร ของบริษัท แซมดี-ฟาร์ม จำกัด ที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษพญาเสือ กรมอุทยานเเห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กำลังทหารจาก มทบ.44 ชุมพร เข้าจับกุมตรวจยึดไว้ตั้งแต่ช่วงบ่ายของเมื่อวานนี้ (11 พ.ค.) ที่ผ่านมา โดยมี นายสุธรรม จาบรรณ์ ผู้จัดการเป็นผู้นำตรวจสอบ ซึ่งเป็นฟาร์มเลี้ยงกุ้งขนาดใหญ่กระจายอยู่จำนวนกว่า 100 บ่อ แต่ละบ่อมีเนื้อที่ประมาณ 1-2 ไร่ รวมพื้นที่กว่า 3,000 ไร่

นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษพญาเสือ กรมอุทยานเเห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่า บริษัท แซมดี-ฟาร์ม จำกัด ขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าเลนอ่าวทุ่งคา และป่าอ่าวสวี เข้าทำประโยชน์เพื่อการเลี้ยงสัตว์น้ำ และปลูกป่าแบบผสมผสานบนเนื้อที่จำนวน 3,165 ไร่ อายุขออนุญาตใช้ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค.2535-วันที่ 29 ม.ค.2547 ต่อมา พื้นที่ดังกล่าวมีการประกาศพระราชกฤษฎีกากำหนดให้เป็นเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร เมื่อปี พ.ศ.2542 ดังนั้น การอนุญาตของบริษัท แซมดี-ฟาร์ม จำกัด ได้สิ้นสุดสัญญาไปแล้วเมื่อวันที่ 29 ม.ค.2547 แต่บริษัทฯ ดังกล่าวกลับยื่นต่ออายุสัญญาเพื่อขอใช้ประโยชน์ต่ออีก แต่เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวได้ประกาศเป็นเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพรแล้ว จึงไม่สามารถต่อสัญญาได้

นายชัยวัฒน์ กล่าวต่อว่า ต่อมา กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้มีหนังสือที่ ทส 0910.504/6055 ลงวันที่ 7 เมษายน 2548 แจ้งให้สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 4 (สุราษฎร์ธานี) สั่งการให้อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ โดยมีหนังสือที่ ทส 0914.604/308 ลงวันที่ 20 พฤษภาคม 2548 แจ้งให้ บริษัท แซมดี ฟาร์ม จำกัด ทราบ และรื้อถอนสิ่งก่อสร้างต่างๆ ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติออกไป ภายใน 30 วัน แต่ต่อมา บริษัทฯ กลับแสดงเอกสารสิทธิที่ดินในพื้นที่ดังกล่าวเพื่อให้ทางอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ดำเนินการตรวจสอบรังวัด โดยแจ้งว่า กำลังอยู่ระหว่างการขอออกเอกสารสิทธิ น.ส.3ก และโฉนด ตามหลักฐานเอกสาร ส.ค.1 ในบริเวณพื้นที่ดังกล่าวจากกรมที่ดิน

นายชัยวัฒน์ กล่าวต่อว่า ทำให้การตรวจสอบยืดเยื้อเรื่อยมาจนในที่สุด สำนักงานที่ดินจังหวัดชุมพร ได้มีหนังสือที่ ชพ 0020.5/7625 ลงวันที่ 29 พฤษภาคม 2558 สรุปแจ้งกลับมายังอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร ว่า จากการตรวจสอบเอกสารสิทธิที่ดินที่บริษัท แซมดี ฟาร์ม จำกัด ได้นำเอกสาร ส.ค.1 ไปยื่นขอออกเอกสารสิทธิ น.ส.3 ก นั้น เนื่องจากเอกสารสิทธิในที่ดินดังกล่าวไม่มีรูปแผนที่ และระวางแสดงตำแหน่ง และไม่สามารถนำพิสูจน์ได้ จึงได้ยกเลิกคำขอดังกล่าว ดังนั้น จึงถือว่าบริษัทฯ มีเจตนายึดครอง ครอบครองในที่ดินเป็นของตนเอง จึงได้เปิดยุทธการทวงคืนฝืนป่าเข้าตรวจยึดจับกุมดังกล่าว

จากการตรวจยึดมีพื้นที่รัฐได้รับความเสียหาย จำนวน 2,703 ไร่ คิดเป็นเงินค่าเสียหายของรัฐ จำนวน 319,907,522 บาท พร้อมกับเข้าเเจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.วิสัยเหนือ อ.เมืองชุมพร ดำเนินคดีต่อ บริษัท แซมดี ฟาร์ม จำกัด ข้อหาบุกรุกครอบครองที่ดินของรัฐโดยไม่ได้รับอนุญาต

อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบในพื้นที่ป่าเลนอ่าวทุ่งคา และป่าเลนอ่าวสวี ปรากฏว่า ยังมีบริษัทเอกชนกลุ่มนายทุนอีกจำนวนหนึ่งอ้างเอกสารสัญญาเช่าที่ดินจากราชพัสดุ และแสดงเอกสารสิทธิ น.ส.3 ก เข้าถือครองทำนากุ้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพรอีกจำนวนหลายพันไร่ โดย นายธัญญา เนติธรรมกุลอธิบดี กรมอุทยานเเห่งชาติ สัตว์ป่า ละพันธุ์พืช สั่งให้ตรวจสอบ และดำเนินมาตรการทางกฎหมายอย่างเด็ดขาดตามนโยบายทวงคืนผืนป่าต่อไป

 
 

กำลังโหลดความคิดเห็น