อีกหนึ่งกิจกรรมที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อออกมาเดินทางท่องเที่ยวก็คือ การปั่นจักรยานไปชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ซึ่งนอกจากจะเป็นการเดินทางในอีกรูปแบบหนึ่งที่ไม่ต้องรีบเร่งมากนัก ก็ยังเป็นการเก็บเกี่ยวบรรยากาศรอบตัว ได้สัมผัสและเข้าถึงบ้านเมืองนั้นๆ ได้อย่างใกล้ชิดมากขึ้น
ด้วยเหตุนี้ ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานแพร่ (รับผิดชอบพื้นที่ แพร่ น่าน อุตรดิตถ์) จึงได้จัดแคมเปญท่องเที่ยว “เที่ยวเหนือ เที่ยวไหน เที่ยวไป ถีบไป @ แพร่ น่าน อุตรดิตถ์” เพื่อเอาใจนักปั่นบนเส้นทางการท่องเที่ยวของทั้งสามจังหวัด โดยจัดทำคู่มือเส้นทางจักรยานที่มีรายละเอียดเส้นทางการปั่น 6 เส้นทาง (จังหวัดละ 2 เส้นทาง) และข้อมูลของสถานที่ท่องเที่ยวไว้ในเล่มเดียวกัน
นอกจากนี้ ในคู่มือยังมีจุดให้ประทับตราเมื่อเดินทางตามเส้นทางท่องเที่ยวและแวะประทับตราตามจุดที่กำหนด ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเลือกเส้นทางเพียงหนึ่งเส้นทาง แล้วประทับตราให้ครบทุกจุด จะสามารถนำมาแลกรับของที่ระลึกได้อีกด้วย (ตั้งแต่วันนี้ – 30 สิงหาคม 2559)
หนึ่งในเส้นทางการเที่ยวไปถีบไปนั้น ขอเลือกเส้นทางในตัวเมือง “น่าน” เมืองสวยแห่งล้านนาตะวันออก เมืองนี้อุดมไปด้วยเสน่ห์ของความเนิบช้า จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะเป็นเส้นทางในการปั่นชมเมืองในครั้งนี้
จุดเริ่มต้นของเส้นทางเที่ยวไปถีบไปอยู่ที่ “ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเทศบาลเมืองน่าน” ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่จะให้บริการข้อมูลแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดน่าน รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ที่พัก ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก รวมถึงมีบริการรถรางนำเที่ยวด้วย แต่สำหรับทริปนี้ เราจึงมาขอคำแนะนำเรื่องเส้นทางการปั่นจักรยานและสถานที่ท่องเที่ยวตามเส้นทางการปั่น อ้อ.. ได้ข้อมูลครบถ้วนแล้วก็อย่าลืมให้เจ้าหน้าที่ประทับตราลงบนคู่มือด้วย
จากจุดเริ่มต้น ตั้งหน้าตั้งตาปั่นผ่านเส้นทางในตัวเมืองน่าน มุ่งหน้าสู่จุดประทับตราที่ 2 “โฮงเจ้าฟองคำ”
ที่ “โฮงเจ้าฟองคำ” แห่งนี้ เป็นเรือนไม้เก่ายกสูงสามหลังติดกัน มีอายุกว่า 200 ปี (โฮง หมายถึง คุ้ม หรือที่อยู่อาศัยของเจ้านายล้านนาไทย) เมื่อเข้ามาจะสัมผัสได้ถึงความเก่าแก่ที่สวยงาม ภายในเรือนจัดแสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่แบบดั้งเดิม ด้านบนเรือนถูกจัดแบ่งเป็นห้องๆ จัดแสดงข้าวของน่าสนใจ โดยมีไฮไลต์อยู่ที่เครื่องเงินและเงินตราสมัยโบราณ รวมถึงผ้าพระบฏผืนงาม ที่ยังคงสวยงามและสมบูรณ์แบบแม้ว่าจะผ่านเวลามาเนิ่นนาน ส่วนด้านล่างใต้ถุนเรือน เป็นจุดให้ข้อมูลความรู้เรื่องผ้า มีการโชว์การทอผ้าพื้นเมือง การสาธิตปั่นฝ้ายให้ได้ชม รวมถึงมีผ้าทอสวยๆ งามๆ จำหน่าย ให้ผู้สนใจซื้อเป็นที่ระลึกติดไม้ติดมือกลับบ้านกันได้อีกด้วย
ออกตัวปั่นกันต่อ มุ่งหน้าไปยังจุดประทับตราที่ 3 “วัดน้ำล้อม” แต่ระหว่างทางขอแวะชม “วัดพระเกิด” ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากโฮงเจ้าฟองคำมากนัก
มาที่วัดพระเกิด นอกจากจะมาสักการะพระพุทธรูปเพื่อความเป็นสิริมงคลแล้ว ก็ยังแวะมาทำ “ตุงค่าคิง” หรือ “ตุงก้าคิง” ซึ่งเป็นตุงตามความเชื่อแบบล้านนา เชื่อว่าทำแล้วจะเป็นการสะเดาะเคราะห์สืบต่อชะตาของผู้ทำได้ ลักษณะตุงจะเป็นธงกระดาษสาที่มีความยาวเท่ากับความสูงของผู้ทำตุง มีการจำลองหน้าตา คิ้ว จมูก ปาก และปีนักษัตรของผู้ทำตุง เมื่อทำเสร็จแล้วตุงเหล่านี้จะถูกแขวนไว้ภายในพระอุโบสถ ยามใดที่มีการสวดมนต์หรือทำพิธีทางศาสนาก็เหมือนกับเราได้รับพรไปด้วยตลอดเวลา
มาถึง “วัดน้ำล้อม” วัดนี้เป็นวัดเก่าแก่เช่นกัน แต่ไม่ปรากฏหลักฐานว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยใด แต่มีเรื่องที่ชาวบ้านเล่าต่อๆ กันมาว่า เดิมบริเวณนี้เป็นเกาะกลางหนองน้ำ จึงได้ชื่อว่าวัดน้ำล้อม
ภายในวัดมีพระพุทธรัตนมงคลมุนี หรือ หลวงพ่อโต เป็นพระประธาน ประดิษฐานอยู่ภายในพระอุโบสถ ส่วนที่ศาลาพิทักษ์ไทย บนชั้นสองจัดเป็น “พิพิธภัณฑ์พระพุทธรูปไม้และแหล่งเรียนรู้ชุมชน” ซึ่งภายในจัดแสดงพระพุทธรูปไม้ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นของเมืองน่านจำนวนกว่า 200 องค์ รวมถึงของเก่าแก่ที่ชาวบ้านนำมาถวายวัด
ปั่นจักรยานแวะเที่ยวกันมาหลายจุดแล้ว ก็มาถึงจุดประทับตราสุดท้าย ที่ “Mix Academic Cafe” ซึ่งนอกจากจะเป็นจุดประทับตราแล้ว ที่นี่ยังเป็นร้านกาแฟที่สามารถมานั่งพักขาให้หายเมื่อยได้ด้วย ด้วยการตกแต่งสไตล์ลอฟท์ ทำให้มีที่นั่งสบายๆ และเย็นฉ่ำอยู่ภายในร้าน ส่วนด้านหน้าก็มีจุดจอดจักรยานเป็นสัดเป็นส่วน หรือหากใครแวะมานั่งเล่นที่ร้านแล้วเกิดอยากปั่นจักรยานขึ้นมา ที่นี่ก็มีให้ยืมไปขี่ด้วย
ถึงจะปั่นจักรยานตามเส้นทางท่องเที่ยวและประทับตราจนครบทุกแห่งแล้ว แต่ไหนๆ แล้ว ก็เลยขอแวะเที่ยวต่อกันอีกสักหน่อย เลยกลับมาที่บริเวณข่วงเมืองน่าน เพื่อแวะเข้าไปไหว้พระที่ “วัดภูมินทร์” สัญลักษณ์สำคัญของเมืองน่าน
“วัดภูมินทร์”เป็นที่ที่มีความงดงามทางด้านพุทธศิลป์อันโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ มีพระวิหารและพระอุโบสถเป็นหลังเดียวกันสร้างทรงจัตุรมุข ดูคล้ายตั้งอยู่บนหลังพญานาค 2 ตัวที่ช่างโบราณได้สร้างสรรค์ขึ้นอย่างดงาม เมื่อเดินเข้ามาภายในพระอุโบสถ บริเวณใจกลางพระอุโบสถ จะพบกับความงดงามของ “พระประธานจตุรทิศ” เป็นพระประธานปางมารวิชัยศิลปะสุโขทัยองค์ใหญ่สีทองเหลืองอร่าม 4 องค์ ประทับนั่งบนฐานชุกชีเดียวกัน หันพระปฤษฎางค์ชนกัน (หันหลังชนกัน) หันพระพักตร์ไปทางทิศทั้ง 4 ถือว่าเป็นพระประธาน ที่มีเอกลักษณ์เป็นหนึ่งเดียว นอกจากนี้บริเวณฝาผนังภายในพระอุโบสถยังมีภาพจิตรกรรมที่สวยงาม และถือว่าเป็นสุดยอดศิลปกรรมล้านนาอีกชิ้นหนึ่ง
ข้ามไปอีกฝั่งก็เป็น “วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร” เดิมชื่อ “วัดหลวงกลางเวียง” ภายในมีวิหารขนาดใหญ่สร้างตามแบบสถาปัตยกรรมของล้านนา เสาภายในพระวิหารมีขนาดใหญ่ขนาด 2 คนโอบ มีพระประธานเป็นพระพุทธรูป นามว่า “หลวงพ่อพระเจ้าหลวง” ด้านหลังของพระวิหารเป็นที่ประดิษฐานของพระธาตุเจดีย์ช้างค้ำ ซึ่งบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ภายใน โดดเด่นด้วยลักษณะเป็นเจดีย์ทรงลังกา มีช้างปูนปั้นตั้งอยู่ในลักษณะของฐานรองรับไว้รอบด้าน คาดกันว่าน่าจะรับอิทธิพลมาจากศิลปะของสุโขทัย เช่นเดียวกับที่วัดช้างล้อมในอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย
อีกฝั่งของถนน ตรงข้ามวัดพระธาตุช้างค้ำก็คือ “พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน” ซึ่งภายในจัดแสดงโบราณวัตถุสำคัญต่างๆ โดยเฉพาะ “งาช้างดำ” ของสำคัญล้ำค่าของเมืองน่าน แต่ขณะนี้ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่านกำลังทำการบูรณะครั้งใหญ่ จึงไม่สามารถเข้าชมได้ แต่บริเวณด้านหน้าพิพิธภัณฑ์ยังสามารถเข้าไปเดินชมซุ้มต้นลีลาวดีที่ขึ้นอยู่ริมสองฟากฝั่งทางเดิน
นอกจากนี้ก็ยังมี “โบราณสถานวัดน้อย” ซึ่งถือว่าเป็นวัดที่เล็กที่สุดในประเทศ สร้างโดยพระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดชฯ เมื่อคราวได้เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และกราบบังคมทูลถึงจำนวนวัดทั้งหมดในน่าน แต่ได้นับจำนวนเกินไปหนึ่งวัด จึงได้สร้างวัดน้อยแห่งนี้ขึ้นมาให้ครบตามจำนวนที่กราบบังคมทูล รูปทรงของวัดน้อยเป็นแบบศิลปะล้านนา สกุลช่างน่าน มีพระพุทธรูปและแผงพระพิมพ์ไม้ประดิษฐานอยู่ภายใน
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งในเส้นทางปั่นจักรยานท่องเที่ยว “เที่ยวเหนือ เที่ยวไหน เที่ยวไป ถีบไป @ แพร่ น่าน อุตรดิตถ์” ซึ่งนอกจากนี้แล้วก็ยังมีเส้นทางใน อ.ปัว จ.น่าน, อ.เมือง จ.แพร่, อ.ลอง จ.แพร่, อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ และ อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์
* * * * * * * * * * * * * * * * *
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และรับคู่มือ “เที่ยวเหนือ เที่ยวไหน เที่ยวไป ถีบไป @ แพร่ น่าน อุตรดิตถ์” ได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานแพร่ โทร. 0-5452-1127 facebook : Tat Phrae
* * * * * * * * * * * * * * * * *
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล travel_astvmgr@hotmail.com