ในครั้งที่แล้ว “ตะลอนเที่ยว” ได้เล่าเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวบางส่วนในมณฑล “กวางสี” ซึ่งเป็นมณฑลที่อยู่ในภูมิภาคทางทิศใต้ของประเทศจีน แต่สถานที่ท่องเที่ยวนั้นยังไม่หมดแต่เพียงเท่านี้ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวเด่นๆ และสวยๆ อีกหลายที่ที่น่าสนใจรอให้ไปเยือน โดยเมืองที่สวยงามและมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในระดับโลกอย่างเมือง “กุ้ยหลิน” นั้นถือว่าเป็นเมืองมีฐานะเป็นเมืองใหญ่อันดับสามของเขตปกครองตนเองมณฑลกวางสี และมีตำแหน่งเป็นเมืองท่องเที่ยวอันดับหนึ่ง ในอดีตกุ้ยหลินได้รับการยกย่องให้เป็นดัง “ซื่อไหว้เถ้าหยวน” หรือ “สวรรค์บนพื้นพิภพ” เพราะเป็นดินแดนแห่งขุนเขาและสายน้ำอันงดงาม มีแม่น้ำหลีเจียงและภูเขาหินปูนรูปร่างแปลก เป็นจุดเด่นที่สำคัญของเมืองกุ้ยหลินแห่งนี้
คลิกอ่าน อลังการ!!! “เต๋อเทียน” น้ำตกงามสองแผ่นดิน ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ท่องชมธรรมชาติ ที่ “กวางสี” ได้ที่นี่
โดยการมาที่เมืองกุ้ยหลินนั้นใช้การเดินทางโดยรถไฟความเร็วสูง โดยนั่งจากสถานีหนานหนิง มายังเมืองกุ้ยหลิน ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าๆ ซึ่งภายในสถานีรถไฟความเร็วสูงของจีนนั้น ได้ถูกออกแบบการบริการคล้ายกับสนามบิน มีระบบรักษาความปลอดภัย ตรวจกระเป๋า ชานชาลาที่จะขึ้นรถไฟนั้นได้ถูกแยกเป็นเกต ตามที่ระบุในบัตร การเดินทางโดยรถไฟความเร็วสูง จึงกลายเป็นเส้นทางหลักที่คนจีนหรือนักท่องเที่ยวนิยมใช้กันมากขึ้น
โดยที่ที่แรกที่เราจะไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองกุ้ยหลิน นั่นคือ “เขางวงช้าง” (Elephant Trunk Hill) หรือในภาษาจีนเรียกว่า “เซี่ยงปี๋ ซาน” ตั้งอยู่ตรงบริเวณที่แม่น้ำหลีเจียง กับแม่น้ำถาวฮัว (แม่น้ำสายเล็ก) ไหลมาบรรจบกันพอดี โดยรูปร่างของภูเขาหิน นั้นจะคล้ายกับงวงของช้างที่กำลังโน้มลงเพื่อกินน้ำจากแม่น้ำหลีเจียงที่อยู่เบื้องล่าง เป็นหนึ่งในภูเขาที่ขึ้นชื่ออย่างมากของกุ้ยหลิน รวมถึงเป็นสัญลักษณ์ของเมืองอีกด้วย นอกจากนั้นยังมีเกาะแห่งความรัก สวนธารณะเล็กๆ ที่อยู่ข้างๆ เป็นจุดสถานที่นัดพบกันของคู่รักหลายๆ คู่ รวมทั้งยังเป็นจุดยอดฮิตสำหรับคู่แต่งงานของชาวเมืองกุ้ยหลินที่มักจะนิยมมาถ่ายรูปแต่งงานตรงนี้กันมากมาย
ชื่นชมกับสัญลักษณ์อย่างเขางวงช้างในเมืองกุ้ยหลินกันแล้ว ก็ไปกันต่อที่ สวนสาธารณะชื่อดังในเมืองที่มีชื่อเสียงไม่แพ้กัน นั่นคือ “สวน 7 ดาว” ภาษาจีนเรียกว่า “ชีซิงกงหยวน” สวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุด โดยมีอาณาเขตครอบคลุมพื้นที่เนินเขาถึง 7 ลูกที่เรียงกันเหมือนกลุ่มดาวหมีใหญ่ โดยไฮไลท์จะอยู่ที่กลางใจสวน โดยมีสัญลักษณ์ของฮ่องเต้ สมัยราชวงศ์ถังและซ่ง ที่แสดงถึงพลังอำนาจของฮ่องเต้ตั้งอยู่เป็นสง่า ส่วนด้านหลังนั้นจะเป็นรูปวาดเฉลิมฉลองเกาะฮ่องกงที่ได้กลับคืนสูประเทศจีนในปี ค.ศ. 1977 ยาวประมาณ 100 เมตร มีความสวยงานและถือเป็นไฮไลท์ ของสวนเจ็ดดาวแห่งนี้
จากนั้นเราก็ไปชมสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงและเป็นที่รู้จักสำหนักท่องเที่ยวที่มาเมืองกุ้ยหลินไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง นั่นคือ “ถ้ำขลุ่ยอ้อ” (Reed Flute Cave) ชื่อจีนว่า "หลูตี๋เหยียน" ซึ่งได้เปิดให้คนเที่ยวมานานกว่า 40 ปี ซึ่ง ทั้งนี้ความวิจิตรของหินงอกหินย้อยในถ้ำขลุ่ยอ้อ มีหลายแบบหลากสไตล์ให้เลือกชม และเลือกจินตนาการกันตามใจชอบ ทั้งหินงอกหินย้อยที่มีลักษณะเป็นปุ่ม เป็นหยด เป็นเสา เป็นแผ่น เป็นริ้ว ดูน่าตื่นตาตื่นใจรวมกับแสงสีที่จัดอยู่ภายในถ้ำ สำหรับหินงอกหินย้อยที่เด่นๆ ก็มีหินรูปสิงโตรับแขกตอนเดินเข้าถ้ำ หินรูปตุ๊กแก หินรูปตาแป๊ะ หินรูปมนุษย์หิมะ และไฮไลท์ของถ้ำขลุ่ยอ้อก็คือ “วังบาดาล” ที่เป็นวังน้ำมีหินงอกหินย้อย ทอดเงาตกสะท้อนลงในวังน้ำ ภายใต้แสงไฟสีน้ำเงินที่ส่องประดับ ท่ามกลางโถงถ้ำขนาดใหญ่ ดูแล้วสวยงาม นอกจากนั้นยังมีส่วนช่วงสุดท้ายของถ้ำขลุ่ยอ้อก็ถือว่าน่าสนใจยิ่ง เพราะมีก้อนหินรูปคล้ายสิงโตตั้งตระหง่านคอยส่งแขก ทำให้การเที่ยวถ้ำแห่งนี้ดูแล้วช่างลงตัว เพราะตอนเข้ามาก็มีหินรูปทรงสิงโตรับแขก เป็นสีสันสำหรับนักท่องเที่ยว
นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ ในเมืองกุ้ยหลินแล้ว ต่อไปจะไปล่องเรือชมทิวทัศน์ของแม่น้ำหลีเจียงที่ถือว่ามหัศจรรย์และสวยงาม โดยจะล่องเรือจากเมืองกุ้ยหลิน ออกเดินทางสู่เมืองหยางซั่ว ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองกุ้ยหลิน "เมืองหยางซั่ว" ถือว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีทัศนียภาพสวยงาม จนได้รับคำกล่าวไว้ว่า “หากกุ้ยหลินเป็นเมืองที่สวยที่สุดในจีน หยางซั่วก็เป็นที่ที่สวยที่สุดในกุ้ยหลิน” โดยเราจะลงเรือล่องชมทัศนียภาพ แม่น้ำหลีเจียง ที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่น้ำที่มีความงดงามที่สุดแห่งหนึ่งของจีน สองฟากฝั่งตามทางจะเรียงรายและเลื่อมล้ำสลับซับซ้อนกันไปมาของทิวเขา ที่มีลักษณะรูปร่างแตกต่างกันออกไป จนก่อให้เกิดภาพจินตนาการขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เขารูปอูฐ เขารูปแอปเปิ้ล เขาหน้าผาลายม้า 9 ตัว รวมกับเหล่าทิวเขาที่งดงามนั้นยังเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดภาพวาดทิวทัศน์จากนักจิตรกรเอกที่มีชื่อเสียงของจีนอีกด้วย เช่น ภาพวาดบนแบงค์ 20 หยวน ของจีน ก็มาจากภาพวาดที่นี่เช่นกัน
เมื่อถึงเมืองหยางซั่ว ที่นี่จะมีสถานที่ท่องเที่ยวเป็นแหล่งที่คนมักนิยมชอปปิ้งกันอย่างมากมาย อย่าง “ถนนฝรั่ง” หรือถนนซีเจีย (West Street-Foreigner Street) ย่านเก่าแก่อายุร่วมกว่า 100 ปี ที่ข้างทางล้วนเต็มไปด้วย ผับ บาร์ ร้านกาแฟ ร้านขายของที่ระลึก ร้านของกินมากมาย ให้บรรยากาศคล้ายกับถนนข้าวสารบ้านเรา เป็นที่นิยมและถูกใจบรรดาขาชอปอย่างยิ่ง
นอกจากนั้นที่หยางซั่วยังมีการแสดงที่มีชื่อเสียงและน่าสนใจ กับโชว์ "Impression Liu Sanjie" หรือ "หลิวซานเจี่ย" โชว์ชื่อก้องที่กำกับการแสดงโดยจางอี้โหมว ผู้กำกับชั้นเทพที่ฝากผลงานภาพยนตร์เด่นๆ เอาไว้มากมายหลายเรื่อง อีกทั้งเขาได้รับเกียรติให้กำกับพิธีเปิด-ปิด กีฬาโอลิมปิก 2008 โดยใช้ฉากธรรมชาติเป็นฉากหลังทั้งสายน้ำ ขุนเขา แล้วนำการแสดงอันน่าตื่นตาตื่นใจใส่เข้าไป ซึ่งเรื่องราวหลักๆ นั้นนำมาจากภาพยนตร์จีนละครเพลงสุดคลาสสิคเรื่อง "หลิวซานเจี่ย" หรือ "เพลงรักชาวเรือ" เนื้อเรื่องจะกล่าวถึง หลิวซานเจี่ย นางเอกนักสู้ สาวงามชาวจ้วงสมัยราชวงศ์ถังที่มีพรสวรรค์ด้านการร้องเพลง (ชาวจ้วงชื่นชอบการร้องเพลงมาก) ซึ่งได้กลายเป็นที่หมายปองของหนุ่มๆทั่วไป แต่ถูกผู้มีอิทธิพลบีบบังคับให้แต่งงานด้วย แต่ว่าหลิวซานเจี่ยก็ได้ทำการต่อสู้กับความอยุติธรรมของผู้มีอิทธิพลโดยใช้เสียงเพลงร้องตอบโต้ จนเธอสามารถเอาชนะได้ครองคู่กับคนรักและได้รับการยกย่องให้เป็น "วีรสตรีชาวจ้วง" มาจนถึงทุกวันนี้ สำหรับการแสดงชุดนี้แม้เป็นภาษาจีนล้วนๆ และเต็มไปด้วยเทคนิคการแสดง การเล่นกับสี แสง เทคนิคมนุษย์หลอดไฟ ฉากธรรมชาติ และเนื้อเพลงที่ชวนฟัง ทำให้โชว์ชุดนี้ดูเพลิน สนุกสนาน ที่ไม่ควรพลาด
และนี่ก็คือเสน่ห์ของเมืองกุ้ยหลิน ที่ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและมีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นทิวทัศน์ขุนเขาและสายน้ำที่งดงาม หรือสถานที่ท่องเที่ยวชอปปิ้งเอาใจขาชอป ถือว่าอดีตสวรรค์บนพื้นพิภพที่ปัจจุบันแม้หลายสิ่งหลายอย่างจะเปลี่ยนไป แต่ความงามและมนต์เสน่ห์ของเมืองกุ้ยหลินยังคงอยู่เช่นเดิม
* * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สามารถเดินทางสู่มนฑลกวางสี เมืองหนานหนิงได้สายการบิน ไทย แอร์เอเชีย สนามบินอู่ตะเภา- หนานหนิง โดยมีเที่ยวบิน 3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และนั่งรถไฟต่อไปยังเมืองกุ้ยหลิน สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.airasia.com หรือที่ www.facebook.com/AirAsiaThailand
* * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com