อ.สังขละฯ ร่วมกับ ททท.กาญจน์ จัดงานฉลองสะพานมอญ พร้อมทำบุญเนื่องในโอกาสวันครบรอบมรณภาพหลวงพ่ออุตตมะ ณ วัดวังก์วิเวการาม และสะพานไม้มอญ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
เช้าวันนี้ (18 ต.ค.) ประชาชนทั้งชาวมอญและไทย รวมถึงนักท่องเที่ยวหลายพันคน มาร่วมกันทำบุญตักบาตรพระสงฆ์บนสะพานไม้มอญ หรือสะพานอุตตมานุสรณ์ ที่เพิ่งซ่อมแซมเสร็จและเปิดใช้อย่างเป็นทางการในวันนี้
หลังจากการบิณฑบาตในช่วงเช้า พระสงฆ์ได้มาสวดพระพุทธมนต์ที่ศาลาหลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เป็นการสวดมนต์ให้กับหลวงพ่ออุตตมะเนื่องในโอกาสครบรอบวันมรณภาพ จากนั้นจะถวายเครื่องไทยธรรม กรวดน้ำ ถวายภัตตาหารเพล ส่วนในช่วงบ่ายจะทำการตั้งองค์กฐิน และเคลื่อนองค์กฐินจากหมู่บ้าน ผ่านสะพานมอญไปเจดีย์พุทธคยาตามลำดับ
ส่วนช่วงเย็นจะมีการแสดงทางวัฒนธรรมท้องถิ่นต่างๆ และมีพิธีการฉลองเปิดสะพานอุตตมานุสรณ์ด้วยกระสวยลูกหนูไปยังสะพาน และมีการจุดพลุเฉลิมฉลอง ปล่อยประทีปโคมลอย อีกทั้งยังมีการสมโภชน์องค์กฐิน และเย็บผ้ากฐินเพื่อห่มองค์เจดีย์พุทธคยาอีกด้วย
สำหรับสะพานอุตตมานุสรณ์ หรือสะพานไม้มอญ โดนน้ำป่าพัดพังเสียหายหลังจากฝนตกติดต่อกันอย่างหนักเป็นเวลา 3 วัน เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2556 โดยน้ำป่าไหลเชี่ยวกรากได้พัดพาเอาตอไม้ สวะ และแพที่หลุดจากหลักปะทะกับเสาสะพานมอญจนพัง ซึ่งนอกจากจะส่งผลกระทบต่อการสัญจรข้ามไป-มาของชาวบ้านแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวใน อ.สังขละฯ อีกด้วย เพราะสะพานมอญถือเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวไฮไลต์สำคัญในอำเภอแห่งนี้ที่มีผู้คนเดินทางมาสัมผัส เที่ยวชม และถ่ายรูปคู่กับสะพานไม้อันสุดคลาสสิกแห่งนี้ไม่ได้ขาด
สะพานมอญ เป็นสะพานไม้ที่มีความยาวเป็นอันดับที่ 2 ของโลก (รองจากสะพานไม้อูเบ็งในพม่า) โดยข้อมูลส่วนใหญ่ระบุว่ายาว 850 เมตร แต่ข้อมูลจากไกด์เยาวชนในพื้นที่ระบุว่ายาว 455 เมตร สะพานแห่งนี้มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า "สะพานอุตตมานุสรณ์" โดยตั้งตามชื่อของพระราชอุดมมงคล หรือหลวงพ่ออุตตมะแห่งวัดวังก์วิเวการาม พระเกจิซึ่งเป็นดังศูนย์รวมจิตใจของทั้งชาวไทย ชาวมอญและชาวกะเหรี่ยงแห่งเมืองสังขละฯ ซึ่งท่านเป็นผู้ดำเนินการสร้างสะพานขึ้นจากความร่วมแรงร่วมใจของชาวมอญที่มีศรัทธาต่อองค์หลวงพ่ออุตตมะ โดยชาวบ้านร่วมกันสร้างขึ้นในปี 2528 ใช้เวลาสร้าง 2 ปี จนมาเสร็จสิ้นในปี 2530 กล่าวกันว่าท่อนไม้ใหญ่ที่นำมาใช้ส่วนหนึ่งนำมาจากต้นไม้ที่ยืนต้นตายอยู่ใต้เขื่อนเขาแหลม ตัวสะพานยาว 455 เมตร ทอดข้ามลำน้ำซองกาเลีย และยังเป็นสะพานเชื่อมระหว่างตัวอำเภอสังขละบุรีกับหมู่บ้านชุมชนชาวมอญอีกฝั่งหนึ่งเข้าด้วยกัน
ในปี 2538 ซึ่งเป็นปีที่เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดต่างๆ ระดับน้ำในเขื่อนเขาแหลมเองก็เพิ่มสูงมากจนกระทั่งท่วมสะพานไม้ และเอ่อล้นเข้าท่วมฝั่งบ้านเรือนริมฝั่งน้ำด้วยเช่นกัน แต่หลังจากนั้นสะพานไม้ก็ยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ ไม่เกิดความเสียหายหนักหนาแต่อย่างใด
หลังจากการใช้งานมากว่า 20 ปี จากเดิมที่ทุกปีชาวบ้านจะช่วยกันซ่อมแซมตามสภาพ สะพานมอญที่ใช้งานมายาวนานเริ่มชำรุดจนอาจเป็นอันตรายกับประชาชนที่สัญจรผ่านไปมา ทำให้ต้องมีการซ่อมแซมสะพานครั้งใหญ่เป็นครั้งที่ 5 ซึ่งเป็นครั้งล่าสุดเมื่อปี 2554 โดยเทศบาลสังขละบุรี โดยเมื่อซ่อมเสร็จ หน้าตาของสะพานได้เปลี่ยนไปบ้าง จากเดิมที่มีแผ่นไม้สั้นบ้างยาวบ้างปูเป็นพื้นดูไม่เป็นระเบียบแต่สวยงามคลาสสิก ก็กลายเป็นแผ่นไม้ขนาดเท่ากันวางเรียงเป็นระเบียบดูมั่นคงแข็งแรง นอกจากนั้นยังติดตั้งเสาไฟฟ้าเพิ่มเติมโดยหัวเสาเป็นหงส์สีทองคาบโคมไฟตลอดแนวสะพาน ซึ่งบางคนกล่าวว่าแม้สะพานจะดูสวยงามแข็งแรงขึ้น แต่ก็ขาดเสน่ห์ความคลาสสิกแบบดั้งเดิมไป
จนกระทั่งวันที่ 28 ก.ค. ที่ผ่านมา มีฝนตกหนักต่อเนื่องและน้ำจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรทะลักลงมาสมทบ ทำให้แพที่ลอยอยู่ในแม่น้ำซองกาเลียพร้อมทั้งท่อนไม้ที่ลอยมากับน้ำกระแทกตอม่อจนต้านไม่ไหว ทำให้ช่วงกลางสะพานพังลงเป็นระยะทางรวมกว่า 50 เมตร
สำหรับการซ่อมแซมสะพาน ไม่สามารถซ่อมแซมได้ทันทีเนื่องจากต้องรอให้น้ำลดเสียก่อน อีกทั้งยังติดปัญหาเกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายแพของผู้ประกอบการให้ออกห่างจากสะพาน แต่ผู้ประกอบการแพไม่ยินยอม โดยให้เหตุผลว่าเกรงจะไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาใช้บริการแพของตน อีกทั้งประกอบกับปัญหาหลายๆ อย่าง ทำให้กว่าจะมีการเริ่มซ่อมแซมสะพานอย่างจริงจังก็คือในเดือนพฤษภาคม 2557
เเต่เมื่อเริ่มซ่อมอย่างจริงจังก็เกิดปัญหาขึ้นอีก เมื่อชาวบ้านสังขละบุรีกว่า 100 คน รวมตัวปิดสะพานมอญประท้วง หลังเอกชนที่ทำสัญญากับทางจังหวัดซ่อมแซมไม่คืบหน้า ซึ่งในเดือน ส.ค. 57 เป็นวันครบกำหนดสัญญาจ้าง 120 วันที่ทางจังหวัดกาญจนบุรีได้ทำสัญญากับภาคเอกชนเพื่อซ่อมแซมบูรณะสะพานมอญในวงเงิน 16,347,000 บาท ซึ่งที่ผ่านมาการซ่อมแซมสะพานไม่คืบหน้าทำไปได้เพียง 30% อีกทั้งไม้ที่ใช้ซ่อมแซมไปแล้วบางส่วนและไม้ที่ผู้รับเหมาทิ้งไว้นั้นเป็นไม้อายุน้อย ยังสด และทำให้แกนของไม้ไม่แข็งพอ เกรงว่าอาจจะส่งผลกระทบต่อความแข็งแรงของสะพานในอนาคตได้ ชาวบ้านจึงเรียกร้องขอทวงพื้นที่ก่อสร้างคืนทั้งหมด ยืนยันจะดำเนินการสร้างเองด้วยงบประมาณที่ร่วมบริจาคจำนวน 3 ล้านบาท พร้อมเปิดเพจ “สะพานมอญ โมเดล” ให้ผู้ที่สนใจร่วมแสดงความคิดเห็น และตั้งคำถามเกี่ยวกับสะพานมอญ ซึ่งก็มีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่ต่างแสดงความคิดเห็นไปในทางตำหนิ หรืออยากทราบเหตุผลที่แท้จริง บางรายตั้งคำถามว่า ทำไมไม่ยอมให้ทางวัดและชุมชนเข้ามาซ่อมแซมกันเองตามวิถีชีวิตดั้งเดิมเหมือนเช่นที่ผ่านมา
จนในที่สุด ทางจังหวัดกาญจนบุรียกเลิกสัญญากับบริษัทเอกชน และให้ทหารช่างจากค่ายสุรสีห์ รวมถึงชาวมอญสังขละบุรี อาสาสมัคร และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ร่วมมือกันช่วยกันซ่อมแซมสะพานมอญเองตั้งแต่วันที่ 10 กันยายนที่ผ่านมา ใช้เวลาเพียง 1 เดือน 18 วัน การซ่อมแซมก็สำเร็จลงอย่างรวดเร็วและสามารถเปิดอย่างเป็นทางการ รวมถึงมีการทำบุญเพื่อเป็นการต้อนรับการกลับมาของสะพานมอญในวันนี้
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล travel_astvmgr@hotmail.com