กาญจนบุรี - การซ่อมแซมบูรณะสะพานมอญ หรือสะพานอุตตมานุสรณ์ วุ่นเหลืออีก 8 วัน ก็หมดสัญญาว่าจ้าง แต่การซ่อมแซมคืบหน้าไม่ถึง 30% และมีเพียงเสาไม้โผล่กลางน้ำให้เห็นแค่ 20 ต้นเท่านั้น ด้าน “นอภ.สังขละบุรี” เผยได้ยื่นหนังสือถึงจังหวัดขอลาออกจากการเป็นประธานกรรมการคณะกรรมการตรวจการจ้างแล้ว ขณะที่คนคุมงานบริษัทฯ ที่รับเหมาชิ่งหนีแล้ว 2 ราย
การซ่อมแซมบูรณะสะพานไม้ หรือที่นิยมเรียกกันว่า สะพานมอญ หรือสะพานอุตตมานุสรณ์ หลวงพ่ออุตตมะ ซึ่งเป็นสะพานข้ามแม่น้ำซองกาเลีย ระหว่าง ต.วังกะ กับ ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ที่ทางจังหวัดกาญจนบุรี ได้ทำสัญญาว่าจ้างกับห้างหุ้นส่วนจำกัด ป.รุ่งเรืองวัสดุภัณฑ์ สัญญาจ้าง เลขที่ 0215/2557 เริ่มต้น 9 เมษายน 2557 สิ้นสุด 6 สิงหาคม 2557 ระยะเวลาก่อสร้าง 120 วัน ด้วยงบประมาณค่าก่อสร้าง จำนวน 16,347,000 บาท หลังถูกกระแสน้ำพัดพังถล่มลงมาขาดออกเป็น 2 ท่อน ยาวกว่า 70 เมตร เมื่อวันที่ 28 ก.ค.56 จนถึงวันนี้ (29 ก.ค.) ซึ่งเหลืออีก 8 วัน ก็จะครบกำหนดสัญญาว่าจ้าง 120 วัน ในวันที่ 6 ส.ค.57 ที่จะถึงนี้แล้ว แต่ปรากฏว่า การซ่อมแซมบูรณะสะพานดังกล่าวก็ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด
ล่าสุด วันนี้ (29 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบความคืบหน้าการซ่อมแซมบูรณะสะพานดังกล่าว ปรากฏว่า การก่อสร้างมีความคืบหน้าไม่มากนัก โดยที่บริเวณการก่อสร้างพบเพียงเสาไม้ไม่ทราบชนิดที่ทางบริษัทฯ รับเหมาก่อสร้างใช้ปั้นจั่นตอกลงไปเพื่อเชื่อมต่อสะพานที่ขาดออกจากกันทั้ง 2 ฝั่ง ซึ่งนับได้ประมาณ 20 ต้นเท่านั้นที่โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำให้เห็นถึงความคืบหน้าในการก่อสร้าง
นอกจากนี้ ยังพบเรือปั้นจั่นที่จอดนิ่งอยู่ในบริเวณที่มีการก่อสร้าง และมีรถแบ็กโฮขนาดเล็ดจอดอยู่ 1 คัน ส่วนคนงานมีไม่มากนักที่กำลังช่วยกันเคลื่อนย้ายท่อนไม้เพื่อนำมาซ่อมแซมสะพาน
ขณะที่ประชาชนในพื้นที่ทั้งฝั่ง ต.วังกะ และประชาชนฝั่งชุมชนชาวมอญ ต.หนองลู ต่างไม่มีใครกล้าที่จะให้รายละเอียดเกี่ยวกับการซ่อมแซมสะพานที่เกิดความล่าช้าต่อผู้สื่อข่าวแม้แต่รายเดียว ทั้งนี้ เพราะทุกคนเกรงกลัวว่า หากให้ข่าวไปแล้วอาจจะทำให้ได้รับความเดือดร้อน
อีกทั้งปัจจุบันสะพานลูกบวบที่ชาวบ้านช่วยกันสร้างขึ้นมาทดแทนสะพานที่ขาดเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และเด็กนักเรียนในการสัญจรไปมาชั่วคราว ขณะนี้ก็อยู่ในสภาพที่ทรุดโทรมหนัก ไม้ไผ่เริ่มแห้งกรอบ และเริ่มหลุดออกจากกันเป็นบางส่วน
นายชาธิป รุจนเสรี นายอำเภอสังขละบุรี ในฐานะประธานกรรมการคณะกรรมการตรวจการจ้าง เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนได้ยื่นหนังสือถึงจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อลาออกจากการเป็นประธานกรรมการคณะกรรมการตรวจการจ้างแล้ว แต่ขณะนี้ทางจังหวัดยังไม่ได้เซ็นอนุมัติให้ลาออก ส่วนสาเหตุนั้นตนไม่ขอเปิดเผยว่าด้วยเหตุอะไร
ส่วนสาเหตุที่ปริมาณน้ำในลำน้ำซองกาเลียแห้งขอดทั้งๆ ที่ฝนตกหนักลงมาเกือบทุกวันในขณะนี้นั้น เป็นเพราะทางจังหวัดได้ประสานไปยังเขื่อนวชิราลงกรณ ขอให้ปล่อยน้ำออกไปจากเขื่อนเพื่อให้ทางบริษัทซ่อมบูรณะสะพานได้สะดวกมากขึ้น จนกว่าจะซ่อมบูรณะแล้วเสร็จ ซึ่งทราบว่าทางเขื่อนมีกำหนดกักเก็บน้ำเอาไว้ในเขื่อนประมาณเดือนกันยายนนี้เท่านั้น
ส่วนเรื่องการซ่อมแซมบูรณะสะพานในขณะนี้ ตนมองว่า ทางบริษัทคงไม่สามารถซ่อมได้ทันตามระยะเวลาที่ทำสัญญาเอาไว้ได้อย่างแน่นอน เพราะเหลืออีกแค่ 8 วัน ก็จะครบกำหนดแล้ว แต่การซ่อมคืบหน้าไปไม่ถึง 30% เชื่อว่าทางบริษัทคงจะขอขยายสัญญาออกไปอีกจนกว่าจะซ่อมแซมบูรณะสะพานมอญแล้วเสร็จ
“ส่วนจะมีการปรับเงินจากบริษัทที่ไม่สามารถทำตามสัญญาหรือไม่ขึ้นอยู่กับทางจังหวัดกาญจนบุรีเป็นผู้ตัดสิน และสาเหตุสำคัญที่ทางบริษัทไม่สามารถซ่อมบูรณะสะพานได้ทันตามสัญญา เท่าที่ทราบสาเหตุน่าจะมาจากจำนวนของไม้ที่มีไม่เพียงพอ และทราบมาว่า จากปัญหาดังกล่าวทำให้คนคุมงานได้ลาออกไปแล้วถึง 2 คน ซึ่งไม่ทราบว่ามีใครบ้าง” นายชาธิป เผย
อนึ่ง สำหรับสะพานไม้ หรือที่นิยมเรียกกันว่า สะพานมอญ หรือสะพานอุตตมานุสรณ์ หลวงพ่ออุตตมะ เป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย มีความยาว 850 เมตร และเป็นสะพานไม้ที่ยาวเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสะพานไม้อูเบ็ง ในประเทศพม่า เป็นสะพานที่ข้ามแม่น้ำซองกาเรีย ที่ ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
สะพานนี้สร้างขึ้นโดยดำริของหลวงพ่ออุตตมะ เจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม ในปี 2529 จนถึงปี 2530 โดยใช้แรงงานของชาวมอญ เป็นสะพานไม้ที่ใช้สัญจรไปมาของชาวมอญ และชาวไทยที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ ปัจจุบันเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของจังหวัดกาญจนบุรี
เมื่อวันที่ 28 ก.ค.56 เวลา 18.30 น.สะพานอุตตมานุสรณ์ ได้พังทลายขาดเป็น 2 ท่อนในช่วงกลางสะพาน ความยาวประมาณ 30 เมตร เนื่องจากเกิดเหตุฝนตกหนักติดต่อกันนานถึง 3 วัน ทำให้เกิดน้ำป่าไหลเชี่ยวกรากจากทุ่งใหญ่นเรศวร พัดขยะตอไม้ลงสูแม่น้ำซองกาเลีย ปะทะกับเสาสะพานทำให้เกิดขาดกลาง และเสียหายเพิ่มเป็น 70 เมตร ในเที่ยงของวันต่อมา ซึ่งเมื่อวันที่ 28 ก.ค.57 ที่ผ่านมาครบรอบ 1 ปีเต็มที่สะพานแห่งนี้ถูกน้ำป่าพัดพัง
หลังจากสะพานพัง ได้มีหลายหน่วยงานบริจาคเงินเข้ามาเพื่อร่วมซ่อมแซมบูรณะสะพานให้กลับมาเหมือนเดิม เช่น เมื่อวันที่ 3 ก.ย.56 พล.ต.ต.อรรถกฤษณ์ ธารีฉัตร ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลขณะนั้นได้มอบเงิน จำนวน 5 ล้านบาท ให้แก่ทางจังหวัดกาญจนบุรี นำไปสมทบทุนเพื่อบูรณะซ่อมแซมสะพาน โดยมี นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี เป็นตัวแทนรับมอบ ขณะนั้นทางจังหวัดได้ประมาณการค่าใช้จ่ายในการบูรณะไว้ที่ 5.7 ล้านบาท และจะเริ่มบูรณะในช่วงหน้าแล้ง หรือเดือน มี.ค.-เม.ย.57
วันที่ 5 ต.ค.56 นางองค์อร อาภากร ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่อาวุโสธนาคารไทยพาณิชย์ และนายธนะ คุ้งบรรพต ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ เป็นผู้แทนธนาคารมอบเงิน จำนวน 2 ล้านบาท ให้แก่ นายชัยวัฒน์ ลิมป์วรรณธะ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจบุรี
วันที่ 17 เม.ย.57 นายณัฐจพนธ์ ภูมิเวียงศรี ผู้ช่วยว่าการไฟฟ้าพลังน้ำ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) มอบเงิน จำนวน 4 ล้านบาท ให้แก่ นายชัยวัฒน์ ลิทป์วรรณธะ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ณ บริเวณสะพานอุตตมานุสรณ์ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เพื่อสนับสนุนการซ่อมแซมสะพานอุตตมานุสรณ์
วันที่ 9 เม.ย.57 จังหวัดกาญจนบุรี ได้ทำสัญญากับห้างหุ้นส่วนจำกัด ป.รุ่งเรืองวัสดุภัณฑ์ ผู้แทนผู้รับจ้าง โดยนายประณต สุวัฒนรัตน์ เลขที่ 192 หมู่ที่ 1 ถ.บางกรวย-ไทรน้อย ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี สัญญาจ้าง เลขที่ 0215/2557 เริ่มต้น 9 เมษายน 2557 สิ้นสุด 6 สิงหาคม 2557 ระยะเวลาก่อสร้าง 120 วัน งบประมาณค่าก่อสร้างเพิ่มเป็น จำนวน 16,347,000 บาท
สำหรับคณะกรรมการตรวจสอบการก่อสร้างสะพาน ที่ทางจังหวัดกาญจนบุรี แต่งตั้งขึ้นมา ประกอบด้วย นายชาธิป รุจนเสรี นายอำเภอสังขละบุรี เป็นประธานกรรมการคณะกรรมการตรวจการจ้าง นายฉัตรณรงค์ ศีริพร ณ ราชสีมา หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี เป็นกรรมการ นายทวี สกุลกาญจนดล รองปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดรักษาการกองช่าง องค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี เป็นกรรมการ
ส่วนคณะกรรมการควบคุมงาน ประกอบด้วย นายนฤชิต คงณศิริ นายช่างโยธาชำนาญงานสังกัดสำนักงาน ปภ.สาขาทองผาภูมิ และนายธนิต ทองเจริญยวง นายช่างโยธา 5 สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาญจนบุรี