กาญจนบุรี - รองอธิบดี อช.ชี้พื้นที่อุทยานแห่งชาติ และเขตรักษาพันธุ์สัตวป่าเมืองกาญจน์ เป็นที่ต้องการของกลุ่มนายทุน เหตุ “ฮวงจุ้ยดี” สั่ง จนท.อช.เอราวัณ อช.เขื่อนศรีฯ เร่งสแกนพื้นที่ปลูกปาล์ม และรีสอร์ตหรู ด่วน หากพบบุกรุกหรือฝืนมติ ครม.2541 สั่งยึดคืนตกเป็นของแผ่นดิน พร้อมแนะเศรษฐีไปหาซื้อที่ดินที่ถูกต้องจะดีกว่า
จากกรณีเมื่อวานนี้ (26 ก.ค.) ที่ผ่านมา นายธัญญา เนติธรรมกุล รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมด้วยนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันปราบปรามและควบคุมไฟป่า กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันพืช นายเชิดชัย จริยะปัญญา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) นายธรรมรัฐ วงศ์โสภา ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมคณะ ใช้เฮลิคอปเตอร์ของกรมอุทยานฯ บินสำรวจสภาพผืนป่าของเขตอุทยานแห่งชาติเอราวัณ อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ จ.กาญจนบุรี
ล่าสุด เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (27 ก.ค.) นายธัญญา เนติธรรมกุล รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช เปิดเผยว่า เนื่องจากเราสืบทราบมาว่า พื้นที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณและอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ตลอดจนเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ มีนายทุนเข้ามาบุกรุกสร้างรีสอร์ต และปลูกปาล์มในพื้นที่ แต่ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นการบุกรุก หรือเป็นพื้นที่ครอบครองตามมติ ครม.30 มิ.ย.2541 หรือไม่ หลังจากเมื่อวานนี้ได้บินสำรวจแล้วเสร็จ จึงได้สั่งการให้หน่วยงานภาคสนามเข้าไปตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง
นายธัญญา เนติธรรมกุล กล่าวว่า จากสภาพที่บินตรวจสอบพบว่า มีการสร้างรีสอร์ตค่อนข้างมีสภาพใหม่ และมีการก่อสร้างที่ใหญ่โต และมีการปลูกปาล์มในพื้นที่บางส่วน จากการสอบถามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ทราบว่า พื้นที่บางส่วนมีการครอบครองตามมติ ครม.วันที่ 30 มิถุนายน 2541 แต่ตนคาดว่ามีการเปลี่ยนมือผู้ครอบครองจากชาวบ้าน ไปเป็นบุคคลรายที่สองรายที่สาม และรายที่สี่ ไปแล้ว จะอย่างไรก็ตาม พื้นที่บริเวณนี้มีราคาค่อนข้างแพง ตามหลักฮวงจุ้ยของคนจีนก็คือ ด้านหน้าเป็นน้ำด้านหลังเป็นภูเขา จึงเหมาะที่จะสร้างรีสอร์ต หรือเป็นแหล่งพักผ่อนของคนที่มีฐานะทางการเงิน
ดังนั้น เจ้าหน้าที่จะต้องรีบแสกนพื้นที่โดยเร่งด่วน เพราะไม่ต้องการขยายผลไปสู่พื้นที่อื่นๆ เหตุผลคือ เมื่อชาวบ้านที่ครอบครองพื้นที่ตามมติ ครม.วันที่ 30 มิ.ย.2541 อยู่แล้ว และมีการขายต่อให้แก่กลุ่มนายทุนด้วยการสมยอม หลังจากนายทุนเข้ามายึดครอง ชาวบ้านก็จะเข้าไปบุกรุกแผ้วถางพื้นที่ผืนป่าแห่งใหม่ โดยอ้างเหตุผลว่าไม่มีที่ดินทำกิน จึงเป็นการแก้ไขปัญหาไม่มีที่สิ้นสุด และหลังจากนี้ไป หากตรวจสอบพื้นที่ที่มีการสร้างรีสอร์ต หรือพื้นที่ปลูกสวนปาล์มแล้วพบว่ามีความผิดจริงจะต้องสั่งให้ยกเลิก และยึดกลับคืนมาเป็นทรัพย์สินของแผ่นดิน
เนื่องจากพื้นที่บริเวณนี้เป็นพื้นที่แหล่งต้นน้ำลำธาร และเป็นแหล่งต้นน้ำของน้ำตกที่สำคัญหลายแห่ง ซึ่งไม่มีใครคนใดคนหนึ่งจะเข้ามายึดครองเป็นของส่วนตัวได้ คนไทยทั้งประเทศเท่านั้นที่เป็นเจ้าของร่วมกัน สำหรับภาพรวมผืนป่าในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี อยากให้สื่อมวลชนทุกแขนงช่วยกันประชาสัมพันธ์ว่า เศรษฐี หรือคนมีเงินทองทั้งหลายที่คิดจะมาซื้อที่บริเวณนี้ขอให้ตรวจสอบให้ดีก่อนว่า พื้นที่ที่ท่านต้องการจะซื้อนั้นมีเอกสารถูกต้องหรือไม่ หรือเป็นพื้นที่ตามมติ ครม.วันที่ 30 มิถุนายน 2541 ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวไม่สามารถซื้อขายได้
“ขอความกรุณาพวกเศรษฐี อย่าได้มาซื้อที่บริเวณเหล่านี้เลย เพราะมีที่ดินอีกมากมายที่ถูกต้องตามกฎหมายที่ท่านสามารถซื้อได้ หากพวกท่านยังต้องการเข้ามาซื้อที่บริเวณนี้จะทำให้การแก้ไขปัญหาของเจ้าหน้าที่ไม่รู้จักจบสิ้นเสียที และหากท่านถูกจับกุมก็จะถูกดำเนินคดีจนถึงที่สุด”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจาก นายธัญญา เนติธรรมกุล รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมคณะ จะบินสำรวจผืนป่าในเขตอุทยานแห่งชาติเอราวัณ เขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ แล้ว ทั้งหมดยังได้บินสำรวจผืนป่าของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ทุ่งใหญ่นเรศวร โดยไม่มีการแจ้งแผนการบินให้เจ้าหน้าที่ทราบล่วงหน้าอีกด้วย ส่วนผลการบินสำรวจจะเป็นอย่างไร นายธัญญา จะลงพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี และจะเปิดเผยให้ทราบในภายหลัง
สำหรับอุทยานแห่งชาติเอราวัณ มีพื้นที่ประมาณ 549.9 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 343,735 ไร่ นับเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 12 ของประเทศ ลักษณะเป็นพื้นที่ป่าสลับภูเขาสูงชัน และพื้นที่ราบเทือกเขาที่สำคัญของอุทยานแห่งนี้ คือ เขาหนองพุก เขาปลายดินสอ เขาหมอเฒ่า เขาช่องปูน เขาพุรางริน และเขาเกราะแกระ ซึ่งเป็นยอดเขาสูงสุดประมาณ 996 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง เทือกเขาเหล่านี้เป็นต้นกำเนิดของลำห้วยที่สำคัญหลายสาย สามารถแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ในพื้นที่ด้านตะวันออก จะมีลำห้วยที่สำคัญคือ ห้วยม่องไล่ และห้วยอมตะลา ซึ่งไหลมาบรรจบกันกลายมาเป็นน้ำตกเอราวัณ ทางตอนเหนือของพื้นที่มีห้วยสะแดะ และห้วยหนองกบ
โดยห้วยสะแดะ จะระบายน้ำลงสู่เขื่อนศรีนครินทร์ ส่วนห้วยหนองกบ ไหลไปรวมกับห้วยไทรโยค ก่อให้เกิดน้ำตกไทรโยค ส่วนในพื้นที่ด้านตะวันตก และด้านใต้ ได้แก่ ห้วยทับศิลา ห้วยเขาพัง ซึ่งเป็นต้นกำเนิดน้ำตกที่สวยงามที่เรียกว่า “น้ำตกเขาพัง” หรือน้ำตกไทรโยคน้อย พื้นที่ป่าส่วนใหญ่เป็นป่าเบญจพรรณร้อยละ 81.05 ป่าเต็งรังร้อยละ 1.68 และป่าดิบแล้งร้อยละ 14.35
สำหรับอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ มีพื้นที่ 1,532 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 957,500 ไร่ สภาพป่าแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ ป่าเบญจพรรณ ป่าเต็งรัง และป่าดิบแล้ง มีน้ำตกที่สำคัญ คือ น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น อยู่ในพื้นที่อำเภอศรีสวัสดิ์ และน้ำตกผาตาด อยู่ในพื้นที่อำเภอทองผาภูมิ
