xs
xsm
sm
md
lg

นอภ.สังขละบุรีหนุนวัด-ชาวบ้านซ่อมบูรณะสะพานตามวิถีภูมิปัญญาเอง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ภาพจากแฟ้ม
กาญจนบุรี - นายอำเภอสังขละบุรี เผยอยากให้การซ่อมบูรณะสะพานมอญ เสร็จโดยเร็ว แต่ต้องทำด้วยวิธีการที่ถูกต้อง ชี้เงินที่ได้รับบริจาคมาทั้งหมดต้องยอมรับว่าได้มาจากพลังแห่งศรัทธาที่ทุกคนมีต่อ “หลวงพ่ออุตตมะ” พร้อมแสดงความเห็นด้วยที่จะให้ทางวัด และชาวบ้านลงมือซ่อมบูรณะสะพานกันเองตามวิถีภูมิปัญญา ด้านนักท่องเที่ยวเผยผิดหวังหลังสะพานพังมากว่า 1 ปีแล้วแต่กลับยังบูรณะซ่อมแซมไม่แล้วเสร็จ

จากกรณีบริษัท ป.รุ่งเรืองวัสดุภัณฑ์ ผู้รับเหมาซ่อมแซมบูรณะสะพานอุตตมานุสรณ์ หรือสะพานไม้ (สะพานมอญ) ซึ่งเป็นสะพานข้ามแม่น้ำซองกาเลีย ระหว่าง ต.วังกะ กับ ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ที่ถูกกระแสน้ำพัดพังเสียหาย โดยทำสัญญาด้วยวิธีพิเศษกับจังหวัดกาญจนบุรี เมื่อวันที่ 9 เม.ย.57 สิ้นสุดโครงการวันที่ 6 ส.ค.57 ที่ผ่านมา ด้วยวงเงินกว่า 16 ล้านบาท แต่ความคืบหน้าการซ่อมแซมได้เพียงประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น สร้างความไม่พอใจให้แก่คนในพื้นที่เป็นอย่างมาก

ล่าสุด วันนี้ (7 ส.ค.) นายชาธิป รุจนเสรี นายอำเภอสังขละบุรี ในฐานะประธานกรรมการคณะกรรมการตรวจการจ้าง เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาการซ่อมสะพานมันมีปัญหา หรือประเด็นตรงไหนบ้าง ซึ่งจะได้ทำความเข้าใจให้ตรงกัน แต่เรื่องความคิดเห็นในการที่จะเป็นมติ ก็เป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละคน

ส่วนตัวมีความคิดเห็นในใจอยู่แล้วแต่ยังไม่ได้แทงบันทึกขึ้นไปที่จังหวัด ซึ่งในที่ประชุมมีความเห็นของคณะกรรมการอยู่ 2 ท่านที่ไม่น่าจะตรงกันกับความคิดเห็นของตน แต่ขอให้ผู้บังคับบัญชาระดับจังหวัดเป็นผู้ชี้แจง และจะต้องรับฟังความคิดเห็นของวิศวกรคุมงานอีก 2 ท่านที่จะเสนอเรื่องขึ้นมาอย่างไร จากนั้นคณะกรรมการคุมงานจะพิจารณาเพื่อเสนอไปยังจังหวัดกาญจนบุรี เพราะจังหวัดเป็นผู้ว่าจ้าง

แต่ในที่ประชุมตนได้เห็นความคิดเห็นของคณะกรรมการตรวจการจ้าง 2 ท่าน ซึ่งตรงกันข้ามกับความคิดเห็นของตน และหากสื่อมวลชนอยากทราบว่าการซ่อมแซมบูรณะสะพานมอญจะเป็นไปในทิศทางใด ขอให้ไปสอบถามนายฉัตรณรงค์ ศีริพร ณ ราชสีมา หัวหน้าป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาญจนบุรี ว่า เบื้องต้นความคิดเห็นทางช่างเขาคิดเห็นกันอย่างไร และจากการตรวจสอบความคืบหน้าการก่อสร้างพบว่า มีความคืบหน้าไปเพียง 19 เปอร์เซ็นต์

ส่วนจะมีการขยายสัญญาออกไปให้แก่บริษัทรับจ้างหรือไม่ จะต้องดูเหตุผล และทางจังหวัดกาญจนบุรีจะเป็นผู้ตัดสินใจ และทราบว่า ทางบริษัท ป.รุ่งเรืองวัสดุภัณฑ์ จำกัด ผู้รับจ้างได้อธิบายเหตุผลเพื่อขอขยายสัญญาให้แก่ทางจังหวัดพิจารณา โดยให้เหตุผลว่า การส่งมอบพื้นที่ของอำเภอเป็นไปด้วยความล่าช้า เป็นสาเหตุทำให้บริษัทไม่สามารถดำเนินการซ่อมแซมสะพานได้ทันตามกำหนด

อีกทั้งการขนย้ายไม้มาจากทางภาคอีสานค่อนข้างล่าช้า และยังให้เหตุผลอีกว่า ช่วงที่บริษัททำสัญญากับจังหวัดเป็นวันหยุดยาวช่วงเทศกาลวันสงกรานต์ ทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเป็นจำนวนมาก อีกทั้งการเคลื่อนย้ายเรือนแพ และสะพานลูกบวบค่อนข้างยากลำบาก แต่เหตุผลดังกล่าวไม่ใช่ว่าทางผู้รับจ้างจะนำไปอ้างเป็นเหตุผลได้

เพราะการจัดซื้อจัดจ้างครั้งนี้เป็นการจัดจ้างด้วยวิธีพิเศษ เพราะฉะนั้น ต้องถือว่าผู้รับจ้างจะต้องมีความพร้อมอย่างเต็มที่ ทั้งเรื่องวัสดุ และอุปกรณ์เครื่องจักรชนิดต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องของไม้แดงที่เป็นวัสดุที่สำคัญที่ขาดไม่ได้ ที่ผ่านมาพบว่า ทางบริษัทได้นำไม้เข้ามาแต่ละครั้งมีจำนวนน้อยมาก ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ ทางบริษัทหาไม้เข้ามาลำบาก ส่วนเรื่องที่ชาวบ้านออกมารวมตัวบนสะพาน ก็เป็นสิทธิที่จะกระทำได้ เพราะพวกเขาต้องการทวงสิทธินำกลับมาซ่อมบูรณะด้วยตนเอง

“ผมขอแสดงความคิดเห็นในฐานะประชาชนคนหนึ่งว่า อยากให้การซ่อมบูรณะสะพานอุตตะมานุสรณ์แห่งนี้สร้างเสร็จโดยเร็ว แต่ต้องทำด้วยวิธีการที่ถูกต้อง เงินที่ได้รับบริจาคมาทั้งหมด ต้องยอมรับว่าได้มาจากพลังแห่งศรัทธาที่ทุกคนมีต่อหลวงพ่ออุตตมะจริงๆ ดังนั้น เงินที่ได้รับบริจาคมาก็ควรที่จะนำไปใช้ตามวัสถุประสงค์ของผู้บริจาค หรือให้การสนับสนุนให้แก่วัด เพื่อนำไปซ่อมแซมกันเองตามวิถีภูมิปัญญาของชาวบ้าน และเท่าที่ทราบพบว่า ทาง พระมหาสุชาติ สิริปัญโญ เจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวการาม ท่านก็พร้อมอยู่ตลอดเวลา และพร้อมที่จะจ่ายเงินชดเชยความเสียหายให้แก่ทางบริษัท ส่วนโครงสร้างที่เหลือ ทางวัด และชาวบ้านขอดำเนินการซ่อมบูรณะกันเองทั้งหมด และเชื่อว่าหากเป็นไปตามที่ชาวบ้านต้องการทุกฝ่ายสบายใจอย่างแน่นอน”

ด้านนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยี่ยมชมสะพานอุตตมานุสรณ ซึ่งเป็นวิศวกรของบริษัทแห่งหนึ่ง เผยว่า ตนเคยเดินทางมาเที่ยวชมความงามของสะพานไม้แห่งนี้มาแล้ว ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ครั้งแรกมาภายหลังจากที่สะพานมอญถูกกระแสน้ำพัดพังลงมาใหม่ๆ และนี่เป็นการเดินทางมาที่อำเภอสังขละบุรีเป็นครั้งที่ 2 และทุกครั้งจะต้องมาเที่ยวชมบรรยากาศบนสะพานแห่งนี้ เวลาผ่ามากว่า 1 ปี แต่พบว่า สะพานยังบูรณะซ่อมแซมไม่แล้วเสร็จ

จากสภาพที่เห็นคิดว่าการก่อสร้างต้องใชเวลาอีกนานหลายเดือน หรือกระทั่ง 1 ปี ซึ่งก็ยังไม่ทราบว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์หรือไม่ เพราะการดำเนินการซ่อมแซมเพิ่งจะเดินหน้าไปได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น โดยตนอยากให้สะพานสร้างเสร็จเร็วๆ สะพานแห่งนี้จะได้กลับมาเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทยเหมือนเดิมเสียที และนักท่องเที่ยวจะได้กลับมาเที่ยวชมความงดงามของสะพาน

“ผมมองว่าหากราชการจะนำสะพานไม้ไปซ่อมสร้างก็ควรที่จะให้ชุมชนมีส่วนร่วมด้วย เพราะสะพานแห่งนี้ชุมชนเป็นเจ้าของ ซึ่งเกิดจากแรงศรัทธาที่มีต่อหลวงพ่ออุตตมะ ไม่ใช่สะพานคอนกรีต หรือสะพานทั่วไปที่เป็นของหน่วยงานราชการ ซึ่งปัจจุบันหาผู้รับเหมางานไม้ยากมาก หรือแทบจะไม่มีเลย เพราะเป็นงานที่ต้องประณีต ผู้รับเหมาที่ทำโดยอาชีพ หรือเป็นหน้าที่ หากได้ผู้รับเหมาที่ดีก็จะใส่ใจต่องาน ผลงานที่ออกมาก็จะเรียบร้อย แต่หากตั้งเป้าเรื่องของตัวเงินเป็นหลัก ก็จะทำให้การใส่ใจกับงานที่ลงมือทำน้อยลงไป ซึ่งงานไม้เป็นงานค่อนข้างละเอียดมาก

ดังนั้น ผลงานก็จะออกมาไม่เรียบร้อย แต่หากชาวบ้านช่วยกันซ่อมแซมกันเองคนละไม้ละมือจากแรงศรัทธา ขณะที่พวกเขาลงมือตอกตะปูแต่ละตัว และค่อยๆ บรรจงวางไม้ลงไปแต่ละชิ้นๆ รวมทั้งระยะห่างของไม้แต่ละชิ้น เขาได้ใส่ใจเข้าไปในงานที่กำลังลงมือทำด้วยความตั้งใจ อย่างแท้จริง จากสภาพไม้เดิมที่เห็น ยากที่บริษัทเอกชนจะดำเนินการได้อย่างแน่นอน”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา ในพื้นที่อำเภอสังขละบุรี มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง กระแสน้ำจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรฝั่งตะวันตก ได้ไหลมาตามลำน้ำซองกาเรีย ลงสู่อ่างเก็บน้ำเขื่อนวชิราลงกรณเป็นจำนวนมาก

ส่วนบริเวณหน้างานซ่อมบูรณะสะพานคนงานของบริษัทยังคงทำงานตามปกติ แต่ระดับน้ำเริ่มสูงขึ้นตามลำดับ และเชื่อว่าหากการซ่อมแซมยังล่าช้าก็จะส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายของประชาชนทั้งสองฟากฝั่งเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทางด้วยรถยนต์โดยสารที่ต้องอ้อมไปไกลกว่า 6 กิโลเมตร
ภาพจากแฟ้ม
ภาพจากแฟ้ม
ภาพจากแฟ้ม
กำลังโหลดความคิดเห็น