ผบก.กาญจน์สั่ง ตร.ดูแลความปลอดภัยเข้มวันทำบุญฉลอง “สะพานมอญ” เชื่อคนแห่ร่วมงานแน่น

กาญจนบุรี - ผบก.กาญจนบุรี สั่งตำรวจอำนวยความสะดวกการจราจร ดูแลความปลอดภัยวันทำบุญฉลอง “สะพานมอญ” ระหว่างวันที่ 18-19 ต.ค.นี้ เชื่อคนแห่ร่วมงานทะลักแน่ “พ.ท.จิรายุ จิตรธรรม” นายทหารวิศวกรคุมงาน เผยขณะนี้งานไม้ทุกจุดสำเร็จแล้ว 100 เปอร์เซ็นต์ เหลือเพียงปรับภูมิทัศน์โดยรอบเพื่อความสวยงาม และติดตั้งเสาหงส์ไฟส่องสว่างบริเวณราวสะพาน

เมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (15 ต.ค.) พล.ต.ต.กมลสันติ กลั่นบุศย์ ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี กล่าวถึงการจัด “งานสะพานเชื่อมใจ คืนความสุขให้ชาวสังขละบุรี” ที่กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-19 ต.ค.นี้ เพื่อเป็นการฉลองสะพานอุตตมานุสรณ์ หรือสะพานไม้ (สะพานมอญ) ข้ามลำน้ำซองกาเรีย ต.หนองลู อ.สังขละบุรี หลังจากได้ทำการซ่อมแซมเสร็จว่า นักท่องเที่ยวคงจะเริ่มเดินทางมาร่วมงานตั้งแต่วันศุกร์ที่ 17 ต.ค.เป็นต้นไป และเชื่อว่าจะมีเป็นจำนวนมาก เพราะจากการรายงานพบว่ารีสอร์ต และโรงแรมในพื้นที่อำเภอสังขละบุรี เต็มหมดแล้ว

ดังนั้น เพื่อป้องกันความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน และนักท่องเที่ยว รวมทั้งป้องกันการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน ตนจึงได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกท้องที่เริ่มตั้งแต่ท้องที่ สภ.ลูกแก อ.ท่ามะกา ไปจนถึงท้องที่ สภ.สังขละบุรี ให้อำนวยความสะดวกด้านการจราจรแก่นักท่องเที่ยว รวมทั้งคอยแนะนำเส้นทางหากนักท่องเที่ยวไปไม่ถูกก็สามารถจอดรถสอบถามเจ้าหน้าที่ตามจุดตรวจต่างๆ ได้

นอกจากนี้ ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.วีระ วิจิตรหงษ์ ผกก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนขึ้นมา 1 ชุด ไปปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวด้วย และให้จับตาดูการเคลื่อนไหวของกลุ่มก่ออาชญากรรม หากพบบุคคลใดพกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาตจะต้องจับกุมตัวมาดำเนินคดีทันที โดยไม่ต้องสนใจว่าบุคคลนั้นจะเป็นใคร

อีกทั้งให้เฝ้าดูพฤติกรรมของบุคคลที่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งกรณีนี้จะต้องเฝ้าติดตามเป็นกรณีพิเศษ เพราะอาจจะแฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวก็เป็นได้ โดยเฉพาะกลุ่มบุคลที่เดินทางข้ามไปยังประเทศเพื่อนบ้านบริเวณบ้านพระเจดีย์สามองค์ เขตติดต่อกับอำเภอพญาตองซู ประเทศพม่า หากกลับขึ้นมาจะต้องตรวจค้นยานพาหนะอย่างละเอียดเพื่อป้องกันการขนยาเสพติดเข้ามาภายในประเทศ

ด้าน น.ส.อรัญญา เจริญหงส์ษา เลขานุการนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลวังกะ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา ที่กำลังทหารช่าง ช.พัน 9 กองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ และช่างฝีมืองานไม้ชาวมอญ ได้ร่วมกันซ่อมบูรณะสะพานอุตตมานุสรณ์ หรือสะพานไม้ (สะพานมอญ) ข้ามลำน้ำซองกาเรีย ต.หนองลู สื่อมวลชนในพื้นที่และจากส่วนกลางได้นำเสนอข่าวออกไปให้ประชาชนได้รู้ถึงความคืบหน้าของการซ่อมสะพานอย่างต่อเนื่องจนแล้วเสร็จ

ส่งผลดีทำให้มีประชาชน และนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยี่ยมชม และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหารและชาวบ้านที่มีส่วนร่วมในการดำเนินการซ่อมสะพานเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังทำให้ชาวบ้านในพื้นที่มีรายได้จากการจำหน่ายสินค้าที่ระลึก รวมทั้งร้านอาหาร และร้านขายเครื่องดื่มก็มีรายได้เพิ่มขึ้นด้วย

สำหรับ “งานฉลองสะพานอุตตมานุสรณ์ ไทย มอญ ร่วมใจ” กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-19 ต.ค.57 โดยในช่วงเช้า จะมีกิจกรรมตักบาตรเช้าบนสะพาน กิจกรรมวิ่ง และปั่นจักรยานผ่านสะพานมอญ การทำบุญถวายภัตตาหารเพลที่วัดวังก์วิเวการาม

ช่วงบ่ายมีการแห่องค์กฐินด้วยขบวนกลองยาว เริ่มต้นจากเชิงสะพานฝั่งอำเภอสังขละบุรี มายังเชิงสะพานฝั่งชุมชนชาวมอญไปสิ้นสุดที่เจดีย์พุทธคยา และช่วงค่ำเป็นพิธีเปิดสะพานอย่างเป็นทางการ

โดยใช้ชื่องานว่า “งานสะพานเชื่อมใจ คืนความสุขให้ชาวสังขละบุรี” การแสดงทางวัฒนธรรมของชาวมอญบนแพลอยน้ำ การแสดงแสงสีเสียง การจุดพลุเฉลิมฉลอง และให้ประชาชน และนักท่องเที่ยวปล่อยโคมลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าพร้อมกัน จึงขอเชิญชวนคนไทยทุกคนมาร่วมทำบุญ และจัดกิจกรรมต่างๆ พร้อมกัน

ทางด้าน พ.ท.จิรายุ จิตรธรรม ผบ.ช.พัน 9 กองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ วิศวกรคุมงานซ่อมบูรณะสะพานอุตตมานุสรณ์ หรือสะพานไม้ (สะพานมอญ) เปิดเผยว่า ขณะนี้งานไม้ทุกจุดสำเร็จแล้ว 100 เปอร์เซ็นต์ เหลือเพียงปรับภูมิทัศน์โดยรอบเพื่อความสวยงาม และดำเนินการติดตั้งเสาหงส์ไฟส่องสว่างบริเวณราวสะพานเท่านั้น คาดว่าคงจะแล้วเสร็จก่อนถึงวันทำบุญอย่างแน่นอน

นายออง เงินทอง อายุ 65 ปี นักธุรกิจจำหน่ายยางรถยนต์ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยว่า ตนได้ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวการซ่อมบูรณะสะพานมอญแห่งนี้มาอย่างต่อเนื่อง และเมื่อทราบข่าวว่า สะพานที่ขาดออกจากกันเป็น 2 ท่อน ได้ซ่อมบูรณะเสร็จแล้ว และทราบว่าจะมีการทำบุญซึ่งตรงกับวันมรณภาพของหลวงพ่ออุตตมะ นับว่าเป็นเรื่องที่น่าภูมิใจมาก

โดยตนกับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ จะเดินทางไปร่วมทำบุญ และร่วมกิจกรรมที่ทางวัดจัดขึ้นอย่างแน่นอน แต่จากการสอบถามไปตามรีสอร์ต และโรงแรมที่พักพบว่า ถูกจองเอาไว้เต็มหมดแล้ว ทุกคนจึงต้องนำเต็นท์ไปด้วย และจะหาสถานที่ที่เหมาะสม และปลอดภัยกางเต็นท์ต่อไป