“ตระเวนกิน” ได้ใช้เวลาวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่มีอยู่ ชวนพรรคพวกนักกินคอเดียวกัน ออกไปเดินเที่ยวและตระเวนหาร้านอาหารอร่อยๆ มากำนัลปากท้องกัน ในครั้งนี้เราได้เดินทางมาเที่ยวแถวย่านบางรัก ซึ่งย่านนี้มีร้านอาหารอร่อยๆ ให้เลือกกินกันมากมาย เรียกว่ามาที่นี่แล้วไม่ผิดหวัง เป็นต้องได้อิ่มแน่นท้องกลับบ้านกันไปเป็นแน่แท้
และการมาเยือนย่านบางรักของพวกเราในครั้งนี้ ก็ได้แวะเวียนมาเที่ยวชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมงดงาม อันทรงคุณค่าของอาคารไปรษณีย์กลางบางรักกันด้วย ซึ่งการที่ได้มาที่นี่นอกจากพวกเราจะมาแอ็คท่าถ่ายรูปคู่กับอาคารสวยๆ แล้ว พวกเรายังได้สะดุดตาพบเจอร้านอาหารไทยที่ตั้งแฝงกายอยู่ภายในอาคารสวยๆ หลังนี้อีกด้วย
ทำให้พวกเราต้องขอเข้าไปสัมผัสกับร้านอาหารไทยแห่งนี้กัน ร้านที่ว่านี้มีชื่อว่า “มโนราห์ รอยัล คุยซีน” (Manorah Royal Cuisine) เป็นร้านอาหารไทยที่อยู่ภายใต้การบริหารงานของบริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่นแมเนจเมนท์ จำกัด เมื่อเดินเข้ามาภายในร้านสัมผัสได้ถึงบรรยากาศร้านที่ถูกตกแต่งสไตล์โมเดิร์น คอนเทมโพรารี่ เข้ากับตัวอาคารที่ดูคลาสสิก แฝงไว้ด้วยกลิ่นอายความเป็นไทย แลอบอุ่นชวนนั่งสบายๆ มีโต๊ะให้เลือกนั่งมากมาย แถมยังมีห้องส่วนตัวให้บริการอีกด้วย
ส่วนเรื่องอาหารของที่นี่ ต้องบอกเลยว่าทางร้านเน้นนำเสนออาหารไทยแบบดั้งเดิมสูตรต้นตำรับ มีอาหารไทยอันหลากหลายครบทั้ง 4 ภาค ซึ่งเมนูต่างๆ ที่นำเสนอผ่านการปรุงอย่างพิถีพิถันจากเชฟผู้มากด้วยฝีมือและประสบการณ์ในการทำเมนูอาหารไทยแบบดั้งเดิม และยังได้คำนึงถึงคุณภาพของวัตถุดิบที่ได้คัดสรรมาแต่ของดี มีคุณภาพ และสดใหม่ เพื่อนำมารังสรรค์เป็นเมนูอาหารไทยต้นตำรับที่ชวนกินหลากหลาย
ตามพวกเรามาชิมเมนูอาหารไทยเลิศรสของที่นี่กันดีกว่า มื้อนี้ให้ทางร้านช่วยแนะนำเมนูจานเด่นมาชิมกันมากมาย เรียกน้ำย่อยกันก่อนด้วย เมี่ยงคำ (120บาท++) ที่จัดเสิร์ฟมาดูทันสมัยในแก้วเล็กๆ แบบเป็นคำกินได้เลย เมี่ยงคำของที่นี่ใน 1 คำ ห่อมาด้วยใบชะพลู ใส่เครื่องเมี่ยงคำครบครันทั้งหอมแดง ขิง มะนาว พริกขี้หนู กุ้งแห้ง และมะพร้าวคั่วที่เน้นใช้มะพร้าวที่คั่วเองแบบสดใหม่ ทำให้ได้กลิ่นหอมของมะพร้าวคั่วเวลาเคี้ยวอยู่ในปาก ราดด้วยน้ำเมี่ยงคำที่ปรุงเคี่ยวตามสูตรเฉพาะ เคี้ยวเมี่ยงคำที่จัดมาแบบพอดีคำ อร่อยมันปากกับใบชะพลูและมะพร้าวคั่วหอมๆ กลมกลืนเข้าเครื่องต่างๆ และน้ำเมี่ยงคำที่เข้มข้นรสกลมกล่อมถูกปากมากๆ เลย
จากนั้นมาลิ้มรส น้ำพริกมโนราห์ (160 บาท++) เป็นน้ำพริกตัวเด่นของทางร้าน ปรุงตามสูตรเฉพาะโดยนำหอมแดง กระเทียม พริกแห้ง มาคั่วให้สุก แล้วก็นำเนื้อปลาย่าง และกุ้งแห้งมาโขลกรวมกัน แล้วนำส่วนผสมทุกอย่างมาผัดรวมกันอีกทีให้หอมและปรุงรสตามสูตรเด็ด ได้น้ำพริกหอมๆ ชิมแล้วน้ำพริกรสเข้มข้น ออกเผ็ดลิ้นนิดๆ กินคู่กับผักสดและผักลวกนานาชนิดโดนใจดีจริง
แล้วก็มาชิมเมนูนี้ ข้าวตังหน้าตั้ง (120 บาท++) ทางร้านปรุงหน้าตั้งโดยเลือกใช้กะทิสด ปรุงกับหมูและกุ้งที่รวนปรุงรสกับรากผักชีและพริกไทยหอมๆ ส่วนข้าวตังทางร้านทำเองโดยใช้ข้าวหอมมะลิมาตากให้แห้ง นำมาทอดในน้ำมันใหม่จนเหลืองกรอบ เสิร์ฟมาร้อนๆ ตักหน้าตั้งลงบนข้าวตังแล้วส่งเข้าปาก เคี้ยวกร้วมทั้งคำข้าวตังกรุบกรอบไม่อมน้ำมัน อร่อยลิ้นกับหน้าตั้งที่เข้มข้นหอมมันกะทิ
ต่อด้วยเมนูของทอด ไก่ทอดหาดใหญ่ (150 บาท++) เป็นเนื้อไก่ส่วนสะโพกหมักด้วยเครื่องเทศไทยต่างๆ ใส่ขมิ้นด้วย หมักนานถึง 1 คืน แล้วจึงนำมาทอดจนไก่สุกได้ที่ โรยหน้าด้วยหอมแดงเจียวกับกระเทียมทอด เสิร์ฟมาร้อนๆ ได้กลิ่นไก่หอมๆ ชวนกิน ลิ้มรสเนื้อไก่กรอบนอก เนื้อในนุ่มฉ่ำปาก ได้รสชาติของเครื่องหมักที่เข้มข้น กินโดยไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้มเพิ่มเลย แต่ว่าก็มีน้ำจิ้มไก่มาให้ด้วย เพิ่มรสชาติขึ้นมาอีก
แล้วก็ต้องไม่พลาดเมนูนี้ ห่อหมกชาวเล (200 บาท++) เสิร์ฟมาในกระทงใบตองแบบร้อนๆ ได้กลิ่นห่อหมกหอมๆ ยั่วน้ำลายมาก ทางร้านโขลกเครื่องแกงเอง และใช้เนื้อปลากรายแท้ๆ ใส่กะทิคั้นสด ใส่ใบยอและใบโหระพาหอมๆ และยังใส่กุ้ง หมึก และเนื้อปลากะพงมาในห่อหมกด้วย กินแล้วสัมผัสได้ถึงรสชาติห่อหมกที่เข้มข้นถึงเครื่องแกงมากๆ และเนื้อเนียนนุ่มละมุนลิ้น
กินเมนูแห้งๆ มาหลายอย่างแล้ว มาซดน้ำให้คล่องคอกับเมนูนี้กันดีกว่า แกงเลียงกุ้งสด (หม้อไฟ 280 บาท++ ถ้วย 140 บาท++) เสิร์ฟมาแบบหม้อไฟร้อนๆ เป็นแกงเลียงที่เข้มข้นเป็นอย่างมาก ทางร้านโขลกเครื่องพริกแกงเลียงเอง มีส่วนผสมของกุ้งแห้งป่น กะปิ หอมแดง กระชาย พริกไทยดำ แล้วนำมาปรุงกับน้ำซุปไก่ ใส่ผักสารพัดอย่างมีบวบ ฟักทอง ข้าวโพดอ่อน น้ำเต้า ใบแมงลัก และใส่กุ้งสดด้วย ได้ซดน้ำแกงเลียงร้อนๆ หอมๆ ช่างชุ่มชื่นคอ รสเข้มข้นออกเผ็ดร้อนกำลังดี
และถ้าใครชอบกินแกงใต้รสจัด แนะนำเมนูนี้ แกงเหลืองปลาเนื้ออ่อน (180 บาท++) สีสันจัดจ้านชวนกิน ทางร้านโขลกเครื่องแกงใส่ขมิ้นสดด้วย แกงใส่มะละกอดิบ และใส่ปลาเนื้ออ่อน ชิมแล้วขอยกนิ้วให้เลยในรสชาติที่เข้มข้นของเครื่องแกงออกเผ็ดลิ้น ปลาเนื้ออ่อนไม่คาวกินนุ่มลิ้นชุ่มรสน้ำแกง
ส่งท้ายล้างปากด้วยเมนูของหวานขึ้นชื่อ บัวลอยฟักทอง (55 บาท++) เป็นบัวลอยที่มีหลายสีสัน อย่างสีเหลืองได้จากเนื้อฟักทองนึ่งสุกนำมานวดผสมกับแป้ง สีม่วงจากเผือกนึ่ง สีเขียวจากน้ำใบเตย ที่สำคัญใส่เนื้อมะพร้าวอ่อน และต้มกับกะทิคั้นสด กินแล้วหอมกลิ่นกะทิอ่อนๆ บัวลอยเคี้ยวนุ่มปาก รสชาติหวานหอมมันน้ำกะทิ
ถึงแม้ว่าพวกเราจะได้ลองลิ้มและอิ่มกับอาหารไทยนานเมนูที่ว่านี้มาแล้ว ก็ว่าในรายการอาหารก็ยังมีเมนูอื่นๆ ที่ชวนลิ้มรสอีกมาก อาทิ อันดามันหม้อไฟ (250 บาท++) ยำส้มโอกุ้งสด (150 บาท++) พะแนงซี่โครงหมู (180 บาท++) ฉู่ฉี่กุ้งแม่น้ำ (300 บาท++) ฯลฯ และยังมีเซตอาหารกลางวัน ซึ่งในเซตจะมีอาหารเรียกน้ำย่อย อาหารจานหลัก หรือซุปให้เลือกอิ่มอร่อยกันได้ตามใจชอบ มีอยู่ 5 เซตให้เลือกอิ่มอร่อย ราคาเซตละ 179 บาท++
สำหรับแฟนๆ นักกินคนไหนที่เป็นคออาหารไทย อยากจะชวนให้มาลองลิ้มอาหารไทยดั้งเดิมสูตรต้นตำรับที่ร้าน “มโนราห์ รอยัล คุยซีน” แห่งนี้กันจริงๆ บอกได้คำเดียวเลยว่าติดใจทั้งรสชาติ และบรรยากาศของร้านที่ชวนนั่งสบายๆ ภายใต้อาคารไปรษณีย์กลางบางรักสวยๆ แห่งนี้
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“มโนราห์ รอยัล คุยซีน” (Manorah Royal Cuisine) ตั้งอยู่ที่อาคารไปรษณีย์กลาง 1160 ถ.เจริญกรุง แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กทม. การเดินทางจาก ถ.เจริญกรุง วิ่งตรงมาที่อาคารไปรษณีย์กลาง ตั้งอยู่ระหว่าง ซ.เจริญกรุง 32 และ 34 มีป้ายร้านให้เห็น สามารถขับรถเข้ามาจอดยังที่จอดรถด้านในได้ เปิดทุกวัน เวลา 11.00 - 14.00น. และ 17.00 - 21.00น. ถ้ามากินอาหารแนะนำว่าควรโทร. มาจองโต๊ะก่อน โทร. 0-2206-7310
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
คลิก!! อ่านรายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยัง ร้าน “มโนราห์ รอยัล คุยซีน” (Manorah Royal Cuisine)
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com