ที่อำเภอแกลง จังหวัดระยอง นอกจากจะมีผลไม้อร่อยหลายอย่าง และได้ชื่อว่าเป็นบ้านเกิดของบิดาของกวีเอกของไทย “สุนทรภู่” แล้ว ก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นของดีอีกอย่างหนึ่งที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้จัก นั่นก็คือ “สวนพฤกษศาสตร์ระยอง”
สวนพฤกษศาสตร์ฯ นี้เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีมาแต่เดิม และเป็นแห่งเดียวที่คงเหลืออยู่สมบูรณ์ที่สุดในภาคตะวันออก ชาวบ้านเรียกว่า “หนองจำรุง” ปัจจุบันเรียกว่า “บึงสำนักใหญ่” มีพื้นที่กว่า 3,800 ไร่ เป็นบึงน้ำจืดธรรมชาติลักษณะคล้ายแอ่งกระทะที่รองรับน้ำในพื้นที่บริเวณนี้ และในบึงขนาดใหญ่นี้มีเกาะอยู่กลางน้ำ ภายในบึงและบนเกาะกลางน้ำนี้มีสังคมพืชท้องถิ่นอันอุดมสมบูรณ์รอให้คนรักต้นไม้และผู้ที่สนใจเข้ามาชม
การเดินทางไปชมพืชพรรณอันน่าสนใจต่างๆ ภายในสวนฯ สามารถเดินทางไปชมได้ 3 วิธีด้วยกัน วิธีที่ 1 คือการนั่งเรือชม ใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง วิธีที่ 2 นั่งเรือแล้วลงเดินชมต้นไม้ตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ และวิธีที่ 3 ใช้รถยนต์ไปส่งบริเวณทางเข้าเกาะและใช้รถจักรยานยนต์หรือเดินเท้าเข้าชมพรรณไม้
ทั้งนี้ขอแนะนำวิธีที่ 2 คือการนั่งเรือและเดินเท้าชมในเส้นทางศึกษาธรรมชาติบนเกาะ โดยเริ่มต้นเส้นทางที่บริเวณอาคารสำนักงานของสวนฯ นั่งเรือท้องแบนมุ่งหน้าไปยังเกาะกลางน้ำ โดยระหว่างทางจะได้ชมทัศนียภาพของบึงบัวนานาชนิดทั้งบัวผัน บัวเผื่อน บัวสาย ทั้งสองข้างทาง อีกทั้งยังมองเห็นดอกไม้เล็กๆ สีเหลืองและสีชมพูที่ขึ้นปริ่มผิวน้ำซึ่งนั่นคือดอกของสาหร่ายข้าวเหนียว รวมไปถึงนกชนิดต่างๆ อีกด้วย
นอกจากนั้นบริเวณพงหญ้าสองฝั่งของบึงรวมทั้งกอหญ้ากลางน้ำ เราจะเห็นต้น “กกกระจูด” ไม้ล้มลุกตระกูลเดียวกับต้นกก ลำต้นมีลักษณะกลม ภายในกลวง ขนาดเท่าก้านธูป สูง 1-3 เมตร ปกติแล้วจะพบมากในแถบภาคใต้ และสำหรับภาคตะวันออกมีเพียงแห่งเดียวคือที่แห่งนี้ กกกระจูดถือเป็นพืชเศรษฐกิจชุมชน โดยชาวบ้านจะนำเอาต้นกระจูดเหล่านี้มาสานเป็นเสื่อ กระเป๋า ตะกร้า หมวก หรือของใช้ต่างๆ โดยชาวบ้านในบริเวณนี้ได้นำเอากระจูดมาสานเป็นข้าวของเครื่องใช้มายาวนานนับร้อยปี โดยมีกล่าวไว้ใน “นิราศเมืองแกลง” ของสุนทรภู่ และปัจจุบันก็ยังคงรวมกลุ่มกันผลิตสินค้าชุมชนจากกระจูดสร้างรายได้ให้กับชุมชนอย่างต่อเนื่อง
สิ่งที่น่าสนใจในบึงแห่งนี้ก็คือแพหญ้าที่ทับถมกันเป็นชั้นหนาๆ มากกว่า 50-100 ซม. ลอยเป็นผืนเล็กบ้างใหญ่บ้าง ชาวบ้านเรียกว่า “หนังหมา” และบนผืนแพหญ้าหนังหมานี้ก็มีพืชพรรณไม้หายากเติบโตขึ้นมาให้ชมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกล้วยไม้ดินในพื้นที่ชุ่มน้ำหายากใกล้สูญพันธุ์อย่าง เอื้องอึ่งอ่าง เอื้องสีสนิม ผักไผ่น้ำ แห้วชะครู ซึ่งหากอยากเห็นก็ต้องสอบถามทางสวนฯ ถึงช่วงเวลาที่พรรณไม้เหล่านี้เติบโต
นั่งเรือมาราวครึ่งชั่วโมงก็ถึงยังเกาะกลางน้ำ ซึ่งมีเกาะเล็กเกาะใหญ่ทั้ง 5 เกาะด้วยกัน ได้แก่ เกาะกก เกาะชะมวง เกาะแต้วเล็ก เกาะแต้วใหญ่ เกาะไม้หนาม โดยสภาพพื้นที่ภายในเกาะจะผสมผสานกันระหว่างบึงน้ำจืดและป่าพรุรวมอยู่ในนิเวศเดียวกัน ซึ่งเป็นลักษณะพิเศษและหายาก แต่ละเกาะจะมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติและสะพานไม้เชื่อมถึงกันแต่ละเกาะ เพื่อศึกษาความหลากหลายของพรรณไม้ท้องถิ่นบนเกาะที่เกี่ยวข้องกับชีวิตชุมชน ทั้งผักพื้นบ้าน พืชสมุนไพร ลานดินโป่ง ทุ่งหญ้าชุ่มน้ำ ไม้หนาม ป่าพรุ ฯลฯ ซึ่งถ้าจะชมให้ครบทั้ง 5 เกาะคงต้องใช้เวลามากกว่าครึ่งวันเลยทีเดียว
สำหรับพืชพรรณที่น่าสนใจบนเกาะกลางน้ำเหล่านี้ก็มีมากมาย ไม่ว่าจะเป็น “หม้อข้าวหม้อแกงลิง” หรือ “เขนงนายพราน” พืชไม้เลื้อยที่มีกระเปาะดักจับสัตว์ “แต้ว” ต้นไม้ขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ยอดอ่อนใบอ่อนและช่อดอกอ่อนสามารถกินได้ มักกินเป็นผักสดแกล้มกับน้ำพริก “พรวด” พืชพื้นบ้านที่สามารถพบเห็นได้บริเวณป่าชายหาด หรือป่าพรุน้ำจืด พรวดเรียกอีกชื่อหนึ่งว่ากุหลาบบูรพา เนื่องจากมีดอกสีชมพูสดใสคล้ายกุหลาบ ลูกของมันมีสีม่วงอมดำกินได้ “ชะมวง” พืชที่พบได้ในภาคตะวันออกและภาคใต้ มีฤทธิ์เป็นยาสมุนไพร ใบและผลรสเปรี้ยว ทางภาคตะวันออกนำมาทำเป็นอาหารท้องถิ่นอย่างหมูชะมวง
ไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาดชมที่สวนพฤกษศาสตร์ระยองก็คือ “ป่าเสม็ดพันปี” ที่มีทั้งต้นเสม็ดขาวและเสม็ดแดงที่เก่าแก่ขึ้นอยู่เป็นบริเวณกว้างหลายร้อยต้น ต้นเสม็ดนี้พบได้ทั้งภาคตะวันออกและภาคใต้ พบได้ทั่วไปในพื้นที่ป่าพรุที่มีน้ำท่วมในหน้าฝน และในหน้าแล้งมีไฟไหม้ป่าอยู่เป็นประจำ ซึ่งพรรณไม้ชนิดอื่นๆ จะไม่สามารถปรับตัวได้ คงเหลือแต่เสม็ดที่ขึ้นเป็นกลุ่ม เหตุที่ต้นเสม็ดทนได้ทั้งน้ำทั้งไฟก็เพราะลำต้นมีเปลือกหนานุ่มซ้อนกันเป็นชั้นๆ เพื่อปกป้องแก่นของต้นซึ่งเนื้อแข็งมาก เปลือกที่ลอกได้เป็นชั้นๆ นี้ชาวบ้านนำเอาไปทำเป็นฝาบ้านหรือมุงหลังคาได้ ส่วนแก่นต้นที่แข็งแกร่งก็นำไปเผาเป็นถ่านได้
ต้นเสม็ดที่อายุมากๆ จะแผ่กิ่งก้านและลำต้นออกไปไกล ปลายกิ่งหงิกงอดูแล้วชวนให้นึกถึงป่าดึกดำบรรพ์ ยิ่งเมื่อเดินลึกเข้าไปในป่าเสม็ดก็ได้บรรยากาศคล้ายเดินอยู่ในดินแดนลึกลับ แต่เมื่อได้สัมผัสลำต้นของต้นเสม็ดจะรู้ว่าต้นไม้ที่ดูน่ากลัวนิดๆ นี้มีสัมผัสของความหนานุ่มของเปลือกที่ปกป้องแก่นของต้นไม้อันแข็งแรงอยู่ภายใน นับเป็นพรรณไม้ที่น่าสนใจและเรียกได้ว่าเป็นไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาดชมของสวนพฤกษศาสตร์ระยองเลยทีเดียว
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“สวนพฤกษศาสตร์ระยอง” ตั้งอยู่ในตำบลชากพง อำเภอแกลง จังหวัดระยอง เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่ 08.30-16.00 น.ทางสวนฯ มีบริการเรือ และเจ้าหน้าที่นำชมหากมาเป็นหมู่คณะ สอบถามค่าใช้จ่ายและรายละเอียดอื่นๆ ได้ที่ โทร.0-3863-8880-1, 0-3863-8981 หรือสอบถามที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานระยอง (ดูแลพื้นที่ระยอง, จันทบุรี) โทร.0-3865-5420-1, 0-3866-4585
0-3865-5422
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล travel_astvmgr@hotmail.com