xs
xsm
sm
md
lg

ผ่อนคลายทั้งกายทั้งใจ ในสวนกลางกรุง ที่ “สวนเบญจกิติ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สวนเบญจกิติ ปอดแห่งใหญ่ใจกลางเมือง
คนที่ใช้ชีวิตอยู่ในเมือง มองไปทางไหนก็เห็นแต่ตึกรามบ้านช่องสร้างขึ้นมาเบียดเสียดกัน น้อยครั้งที่จะได้เห็นสีเขียวๆ ของต้นไม้ใบหญ้าให้ชุ่มฉ่ำสายตา แต่ฉันว่ากรุงเทพฯ ก็ยังโชคดีที่มีสวนสาธารณะใหญ่ๆ ใจกลางเมืองอยู่หลายสวน แม้ว่าจะมีอยู่น้อยไปเสียหน่อย แต่ก็ทำให้คนที่ได้ไปเดินเล่นสัมผัสได้ถึงความเป็นธรรมชาติบ้างไม่มากก็น้อย

วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ครั้งนี้ ฉันตั้งใจจะไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะเสียหน่อย ไปสูดอากาศบริสุทธิ์ที่มีอยู่น้อยนิดในเมืองใหญ่ ไปเดินดูธรรมชาติเขียวๆ ให้สบายตา และฉันก็เลือกมาที่ “สวนเบญจกิติ” นั่นก็เพราะว่าเดินทางสะดวกมากๆ นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินมาก็ถึงเลย
“โลกุตระ” ด้านหน้าศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
“สวนเบญจกิติ” เปิดให้ใช้อย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 9 ธันวาคม 2547 นับมาถึงวันนี้ก็เกือบสิบปีแล้ว ซึ่งสวนแห่งนี้เกิดขึ้นมาจากการพัฒนาพื้นที่ของโรงงานยาสูบเดิมให้กลายมาเป็นสวนสาธารณะ ซึ่งแต่ก่อนนั้นบริเวณนี้คือบึงยาสูบ เป็นบึงที่เกิดขึ้นจากการขุดดินไปถมที่ทำเป็นบริเวณอาคารของโรงงานยาสูบ เมื่อโรงงานยาสูบย้ายออกไปตั้งนอกกรุงเทพฯ จึงได้มีการพัฒนาพื้นที่บริเวณนี้ให้เป็นสวนสาธารณะสำหรับคนเมือง

นอกจากนี้ สวนแห่งนี้ยังอยู่ในโครงการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 5 รอบ ในการนี้ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อสวนสาธารณะแห่งนี้ว่า “สวนเบญจกิติ” ทรงมีพระราชวินิจฉัยแบบจำลองของสวน และทรงโปรดให้พิจารณาปลูกไม้ดอกไม้ประดับที่ออกดอกในช่วงเดือนต่างๆ และยังได้เสด็จพระราชดำเนินมาเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดสวนอย่างเป็นทางการอีกด้วย
แวะสักการะ “พระสรัสวดี”
พื้นที่ภายในสวนเบญจกิติถูกออกแบบเน้นให้เป็นสวนน้ำแห่งแรกของกรุงเทพมหานคร โดยพื้นที่ 2 ใน 3 บริเวณด้านหน้าสวนจึงปรับปรุงให้เป็นบึงขนาดใหญ่ภายใต้แนวคิด ป่ารักษ์น้ำ และเชื่อมโยงไปกับพื้นที่ส่วนอื่นๆ ในสวนที่ถูกกำหนดให้เป็นสวนป่าที่จำลองลักษณะทางธรรมชาติของป่าไม้ในภูมิภาคต่างๆ ของประเทศไทย ที่สำคัญ สวนแห่งนี้นอกจากจะเขียวขจีไปด้วยต้นหญ้าและต้นไม้แล้ว ก็ยังมีสีสันสวยงามจากดอกไม้นานาพันธุ์ที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันออกดอกสวยๆ มาให้ชมตลอดทั้งปี
เด็กๆ ก็มีที่ให้เล่นสนุกสนาน
เมื่อแรกที่ฉันมาถึงสวนแห่งนี้ ก็ชื่นชอบกับทัศนียภาพสวยงามของที่นี่เลยทีเดียว เพราะภาพบึงกว้างใหญ่ล้อมรอบด้วยต้นไม้เขียวๆ ตั้งอยู่กลางใจเมือง มีฉากหลังเป็นตึกสูงต่ำเรียงรายกันอยู่ ดูเป็นความแตกต่างที่อยู่รวมกันได้อย่างลงตัวเลยทีเดียว

ก่อนจะถึงตัวสวนเบญจกิติ หากว่าใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดินเดินออกมาแล้วก็จะพบกับอาคารศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์เสียก่อน และบริเวณด้านหน้าอาคารก็ยังมี “โลกุตระ” ประติมากรรมที่มีลักษณะคล้ายการไหว้ของคนไทย อันเป็นสัญลักษณ์ของศูนย์การประชุมที่เราเห็นกันจนคุ้นตา
เครื่องออกกำลังกายมีให้เลือกตามชอบ
เมื่อเดินตรงมาทางสวนเบญจกิติ ฉันก็ขอแวะสักการะ “พระสรัสวดี” ผู้ทรงเป็นเทพผู้คุ้มครองสถานที่แห่งนี้ เนื่องด้วยในช่วงที่การก่อสร้างศูนย์การประชุมแห่งนี้กำลังจะแล้วเสร็จ จึงมีการสร้างเทพารักษ์ประจำสถานที่เพื่อให้เป็นมงคลแก่โครงการตามความนิยมแบบพราหมณ์ ท่านพระครูวามเทพมุนี แห่งเทวสถานโบสถ์พราหมณ์ จึงเห็นชอบให้สร้างองค์พระสรัสวดี (สราสวาตี) พระชายาแห่งพรหมเทพ และยังเป็นเทวีแห่งวาจาและการสื่อสารทั้งปวง

เริ่มต้นจากการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำสถานที่แล้ว ก็ออกเดินตรงไปยังประตูทางเข้าสวน เมื่อเดินตรงเข้าไปแล้วจะเห็นมุมเด็กเล่นเล็กๆ ภายในสวน มีเครื่องเล่นของเด็กตั้งอยู่ไม่กี่ชิ้น แต่เด็กๆ ก็เล่นกันสนุกสนานเลยทีเดียว
สวนสาธารณะสีเขียวที่มองแล้วสบายตา
เดินตามทางเดินไปเรื่อยๆ ก็จะเห็นมุมออกกำลังกาย มีทั้งป้ายแนะนำท่าทางการบริหาร มีลานกว้างให้ยืดเส้นยืดสาย มีเครื่องออกกำลังกายสีสันสะดุดตาตั้งเรียงกันอยู่ริมทางต้นไม้สีเขียวๆ นี่มองไปแล้วชื่นตาชื่นใจ เดินเข้ามาอากาศร้อนๆ พอได้อยู่ในสวนสักพักก็เริ่มเย็นลง สดชื่นสบายตัวมากขึ้นเป็นกอง

พื้นที่ภายในสวน นอกจากจะมีบึงน้ำขนาดใหญ่ และมีสวนสวยๆ มีทางเดินให้เดินเล่นหรือออกกำลังกายแล้ว ก็ยังแบ่งออกเป็นส่วนต่างๆ ให้ผู้คนได้เข้ามาใช้ทำกิจกรรมอื่นๆ อีกด้วย อย่างเช่นลานเบญจกิติ ลานการแสดงกลางแจ้ง สวนสุขภาพ ศาลาพักผ่อน เป็นต้น
บริเวณลานองค์พระ
ฉันเดินเล่นไปจนเกือบกลางทางก็พบว่ามีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่ด้วยเลยแวะนั่งพักสักครู่ บริเวณนี้เขาเรียกกันว่าลานองค์พระ ซึ่งประดิษฐาน “พระพุทธวิสุทธิมงคล” นอกจากจะมาไหว้พระแล้วบริเวณนี้ก็ดูจะเป็นที่นั่งพักเหนื่อยที่ดีไม่น้อย เพราะเห็นหลายๆ คนมานั่งอยู่ตามใต้ต้นไม้ร่มครึ้มแถบๆ นี้
เมอร์ไลออนในสวน
ต่อจากลานองค์พระ เดินตรงตามทางไปนิดหน่อยฉันก็เห็นสิ่งแปลกปลอมที่ไม่น่าจะมาตั้งที่นี่ได้ นั่นก็คือ “เมอร์ไลออน” ของประเทศสิงคโปร์ ลองอ่านป้ายที่ตั้งอยู่ข้างๆ กันเขาบอกว่าเป็นของขวัญจากประเทศสิงคโปร์และชาวสิงคโปร์ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย แสดงว่าเจ้าเมอร์ไลออนตัวเล็กนี่คงเป็นตัวแทนความสัมพันธ์อันดีของคนไทยและคนสิงคโปร์ที่มีต่อกัน แต่ประติมากรรมต่างชาติก็ยังมีให้เห็นที่นี่อีก ไม่ว่าจะเป็น เสาหินแบบจีน กงล้อโกนารักของวัดสุริยเทพในประเทศอินเดีย ใครที่มาเดินเล่นหรือออกกำลังกายที่นี่ก็เดินชมไปเรื่อยๆ ได้ความรู้ไปด้วยเลยในคราวเดียวกัน
ลานเบญจกิติ
อีกจุดหนึ่งที่เป็นสัญลักษณ์ของสวนเบญจกิติ ก็คือ ลานเบญจกิติ ลักษณะเป็นลานกว้างเชื่อมต่อระหว่างทางวิ่งออกกำลังกายและทางจักรยาน ซึ่งจะมีประติมากรรม “ปทุมชาติ” อันเป็นสัญลักษณ์ของสวนแห่งนี้ ลักษณะจะเหมือนกับดอกบัวสีทองบานอยู่บนยอดเสา

สิ่งหนึ่งที่ฉันชอบมากที่สวนแห่งนี้ก็คือ ที่นี่เขาจะมีการแบ่งทางคนเดิน-วิ่ง กับทางจักรยาน เรียกว่าทางใครทางมัน แต่ก็ดีสำหรับทั้งคู่ เพราะจะได้ไม่ต้องมาคอยกังวลว่าจักรยานจะเฉี่ยวคน หรือคนจะไปเกี่ยวจักรยาน ซึ่งเท่าที่สังเกตดูนั้นก็มีคนมาปั่นจักรยานออกกำลังกายกันเยอะพอควร บางคนก็หอบหิ้วจักรยานมาเอง บางคนก็มาเช่าเอาที่นี่ ขี่กันไปมาเพลิดเพลินดีแท้
ขี่จักรยานออกกำลังกาย
สำหรับบริเวณริมบึง เขาก็มีทางเดินริมน้ำให้รับลมเย็นๆ เหมือนกัน มีที่นั่งให้พักผ่อนใต้ร่มไม้ มีศาลาที่พักให้ผ่อนคลาย ใครที่เดินๆ วิ่งๆ มาเหนื่อยแล้ว มานั่งพักดูคนอื่นเดินบ้างก็ดีเหมือนกัน

ฉันว่า สวนแห่งนี้น่าจะเป็นที่ชื่นชอบของคนกรุงอยู่ไม่น้อย เพราะฉันมานั่งเล่นเดินเล่นอยู่หลายชั่วโมง ก็เห็นคนแวะเวียนผ่านไปมาตลอด มีทั้งมานั่งเล่นเดินเล่น มาออกกำลังกายจริงจัง มาขี่จักรยานรอบๆ สวน บ้างก็มาอาศัยร่มไม้พักผ่อนในยามที่แสงแดดแรงกล้า แต่ฉันขอบอกว่าช่วงเวลาที่เห็นจะเหมาะที่สุดก็คงจะเป็นตอนเย็นแดดร่มลมตก เดินเล่นสบายๆ รอชมแสงอาทิตย์สีส้มแก่ๆ ที่กำลังจะลาลับขอบฟ้า ก็จะได้เห็นภาพเมืองกรุงที่วุ่นวายกลับมาเป็นความสงบนิ่งและสบายใจ
แวะพักริมบึงใหญ่
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

“สวนเบญจกิติ” ตั้งอยู่บนถนนรัชดาภิเษก แขวง-เขตคลองเตย กทม. เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 05.00-20.00 น. การเดินทางสามารถใช้บริการ MRT ลงที่สถานีศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ สวนเบญจกิติตั้งอยู่ติดกับศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ บนพื้นที่ของโรงงานยาสูบเดิม
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล travel_astvmgr@hotmail.com

 

กำลังโหลดความคิดเห็น