ดร.ธรณ์ โต้ข่าวลือในโลกออนไลน์ ยันหอยในภาคตะวันออกกินได้ ส่วนข่าวลือซื้อน้ำปลากักตุน ดร.ธรณ์ บอกปลาที่ใช้ทำน้ำปลาระยองไม่ได้มาจากแถวนั้น เพราะฉะนั้นอย่าตื่นกับข่าวลือทั้ง 2 เรื่อง
จากกรณีมีข่าวลือในโลกออนไลน์อ้างอาจารย์ด้านสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยมหิดล แจ้งเตือนให้งดอาหารทะเลจากภาคตะวันออกเป็นเวลา 6 เดือน โดยเฉพาะหอยที่หากินหน้าดินให้งดบริโภคนาน 1 ปี พร้อมแนะให้ตุนน้ำปลาไว้บริโภคเพียงพอ 2 ปี เนื่องจากน้ำปลาต้องผ่านการหมักนาน 12-18 เดือน
ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ได้ออกมาให้ข้อมูลผ่านเฟสบุ๊ค Thon Thamrongnawasawat ให้ความมั่นใจว่า
...ตามที่มีข่าวว่า อาจารย์จากมหิดลให้ข่าวว่า อย่ากินหอยจากภาคตะวันออก ผมมีความคิดเห็นบอกเพื่อนธรณ์ดังนี้ครับ
1. อาจารย์ท่านนั้นคือผู้ใด เหตุใดจึงไม่แสดงตัว ผมมีเพื่อนฝูงอยู่ ม.มหิดลหลายคน สอบถามก็ไม่ทราบว่าใครพูด
2. ในความคิดเห็นของผม คนที่เป็นอาจารย์ของมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง จะไม่พูดอะไรที่มีความสำคัญต่อสังคมโดยไม่เปิดเผยตัวเป็นอันขาด
3. หอยกรองอาหารจากน้ำ ใช่ หากมีคราบน้ำมันในบริเวณนั้น หอยอาจกรองเข้าไป ก็ใช่ ทว่า น้ำมันอยู่ที่บ้านเพ เกี่ยวข้องอะไรกับสถานที่อื่น ๆ ในภาคตะวันออก ผมจึงยืนยันอย่างชัดเจนว่า หอยที่ศรีราชากินได้ ทีบางแสนอ่างศิลาก็กินได้ อร่อยด้วย หรือแม้กระทั่งหอยจันทบุรี ตราด หรือที่ใดก็ตามที่ภาพถ่ายดาวเทียมไม่ได้โชว์ว่า คราบน้ำมันลอยไปถึงที่นั่น ย่อมกินได้เสมอ
4. หอยที่บ้านเพกินได้ไหม เรื่องนั้นต้องสอบถามจากกรมประมงเพื่อข้อมูลที่ชัดเจน แต่ถ้าเป็นผมตอนนี้ ยังไม่มีประกาศใด ผมดมแล้วไม่มีกลิ่นน้ำมัน มองซ้ายขวาแล้วมีคนเลี้ยง ผมกินครับ
5. สำหรับข่าวว่าจงไปซื้อน้ำปลามาตุนซะ เพราะปลากะตักที่ใช้ทำน้ำปลา อาจปนเปื้อนคราบน้ำมัน ผมยืนยันว่าแม้น้ำปลาระยองจะมีชื่อ แต่ปลาที่ได้มาไม่ได้มาจากแถวนั้น โดยเฉพาะอ่าวบ้านเพอันเป็นที่ตื้น ผมจะไม่บ้าจี้ไปซื้อน้ำปลาเพื่อมากักตุนเป็นอันขาด
6. ประเด็นใด ๆ ก็ตามต่อจากนี้ เช่น อย่าใช้แชมพูเพราะมีส่วนสกัดจากสาหร่ายทะเล อย่าใส่เกลือเพราะอาจมีการปนเปื้อน ฯลฯ ไม่ควรจะอยู่ในข้อสงสัยต่อไป คราบน้ำมันแม้ไม่ดี แต่ไม่ใช่สารกัมมันตภาพรังสี หากเรายังยินดีใช้มาร์กตเต้าหู้จากญี่ปุ่น (น่ากลัวเนอะ) เหตุใดเราจึงไม่กล้ากินน้ำปลาไทย
เพราะฉะนั้น อย่าตื่นตระหนก สอบถามความชัดเจนให้แน่นอน หากสอบจากใครไม่ได้ ขอเชิญถามไถ่มา หากตอบได้ ยินดีเสมอครับ