โดย หนุ่มลูกทุ่ง
กรุงเทพฯ เมืองฟ้าเป็นเมืองหลวงที่แสนจะทันสมัยในทุกๆ ด้าน แต่ก็ยังมีมุมสีเขียวสบายตาให้ได้พักผ่อนในบรรยากาศชานเมืองอยู่บ้างเหมือนกัน โดยเมื่อเร็วๆ นี้ฉันได้ไปร่วมทริปกับทางกองการท่องเที่ยว สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร ที่พาไป “เปิดสวน ชวนเที่ยว” ที่ย่านบางแคและบางระมาด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการสัมมนาเครือข่ายการท่องเที่ยวภาคประชาสังคม ในครั้งนี้ฉันจึงได้พบมุมสีเขียวอีกแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ที่น่าสนใจไม่น้อย
เริ่มต้นมาเปิดสวนกันด้วยสวนผักในย่านบางแค “กลุ่มเกษตรกรปลูกผักปลอดภัยจากสารพิษ แขวงบางแคเหนือ-บางไผ่” ที่อยู่ห่างจากเดอะมอลล์ บางแค แค่นิดเดียว แต่ได้บรรยากาศเขียวขจีของต้นไม้และแปลงผัก สบายตาเหมือนไม่ได้อยู่ในกรุงเทพฯ ที่นี่ฉันได้เจอ พี่กลิ้ง-ศรัณย์ เชาว์แช่มชื่น กรรมการของศูนย์บริการและถ่ายทอดเทคโนโลยีทางการเกษตรประจำแขวงบางแคเหนือ-บางไผ่ ซึ่งเป็นคนพาชมและเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการทำสวนผักในบริเวณนี้ว่า แต่เดิมบริเวณนี้ไม่ได้ทำสวนผัก แต่ปลูกข้าวทำนากันมาตั้งแต่สมัยปูย่า มีคลองบางแวกเป็นคลองสายหลัก ตอนนี้มีพื้นที่รวมกว่า 50 ไร่ ปลูกกันทั้งผักบุ้ง ผักตำลึงหวาน วอเตอร์เครส อีกทั้งยังมีปอปลูกเป็นแปลงใหญ่ และผักอีกหลายชนิด โดยใช้คำว่า “ผักปลอดภัยจากสารพิษ” คือใช้สารเคมีบ้าง แต่พยายามใช้ให้น้อย และมีระยะเวลาเก็บเกี่ยวที่ปลอดภัย
ชุมชนเกษตรแห่งนี้อยู่กันอย่างพอเพียง โดยทางสำนักงานเขตบางแคก็ได้เข้ามาสนับสนุนโดยการให้พื้นที่ขายผักจากชุมชนแห่งนี้ทุกวันจันทร์ พุธ และศุกร์ ซึ่งนอกจากจะทำให้ชาวสวนมีรายได้อย่างสม่ำเสมอแล้ว ก็ยังเป็นการรักษาวิถีชีวิตดั้งเดิมและรากเหง้าความเป็นชาวสวนของคนในชุมชนแห่งนี้ที่สั่งสมภูมิปัญญามาตั้งแต่บรรพบุรุษให้คงอยู่ต่อไป ในยุคที่บรรดาหมู่บ้านจัดสรรตีวงล้อมเข้ามาแทนที่แหล่งทำการเกษตรในฝั่งธนฯ จนเหลือน้อยลงทุกทีๆ
มาที่สวนเกษตรฯ แห่งนี้ นอกจากจะได้ฟังเรื่องราวชีวิตและชมการทำงานของชาวสวนแล้ว ฉันยังได้ชิมผลิตภัณฑ์ผักจากสวนแบบสดๆ อย่างก๋วยเตี๋ยวลุยสวนและผัดผักบุ้งไฟแดงที่คุณลุงคุณป้าในชุมชนมาผัดให้กินกันสดๆ ไฟลุกท่วมจานต่อจาน ฉันได้ชิมแล้วพบว่านอกจากผักจะสดอร่อยแล้วฝีมือการทำอาหารของคนที่นี่ก็ไม่เป็นรองใครอีกต่างหาก
จากสวนเกษตรบางแคที่มีผักสารพัด เรามุ่งหน้าต่อไปยังสวนกล้วยไม้กันบ้าง โดยลงเรือหางยาวลัดเลาะไปตามลำคลอง โดยจากบริเวณสวนเกษตรบางแค เราแล่นเรือมาตามคลองบางแวก แล้วเลี้ยวเข้าคลองราชมนตรี ก่อนจะเลี้ยวอีกครั้งเข้าคลองบางเชือกหนังเข้าสู่พื้นที่ของเขตตลิ่งชัน ซึ่งระหว่างทางก็มีภาพวิถีชีวิตริมคลองให้ดูไปตลอดทาง ไม่ว่าจะเป็นคุณลุงคุณป้าที่ยังใช้เรือพายเป็นพาหนะเดินทางไปมาหาสู่กัน เรือก๋วยเตี๋ยวที่จอดแวะปรุงอยู่ที่ท่าน้ำหน้าบ้านลูกค้า รวมไปถึงบ้านริมคลองสวยๆ หลายหลังที่มีท่าน้ำหน้าบ้านน่านั่งเล่นรับลม และแน่นอนว่าเห็นกำแพงสูงของหมู่บ้านจัดสรรหลายโครงการด้วยเช่นกัน
เมื่อเรือแล่นเข้าสู่คลองบางเชือกหนังได้สักพัก ก็ถึงจุดหมายปลายทางต่อไป นั่นคือ “สวนกล้วยไม้ลุงนิยม” ซึ่งสวนกล้วยไม้แห่งนี้ก็เป็นจุดแวะเที่ยวของเรือนำเที่ยวจากตลาดน้ำตลิ่งชันด้วย ภายในสวนกล้วยไม้ลุงนิยมมีกล้วยไม้หลายชนิด บ้างกำลังออกดอกสีสดสวย บ้างออกดอกตูมเตรียมจะผลิบานอีกไม่นาน ซึ่งทางสวนก็จะตัดดอกไปส่งขายที่ปากคลองตลาด แต่สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาชมที่สวนแล้วอยากซื้อกล้วยไม้ติดมือกลับบ้านไปเลี้ยงดูต่อไปก็ได้เช่นกัน
นั่งพักชมดอกไม้สวยๆ รับลมเย็นๆ สักพัก เราก็ลงเรือกันต่อไปยัง “ชุมชนเกาะศาลเจ้า” โดยล่องเรือผ่านคลองลัดตาเหนียว เข้าสู่คลองบางพรม ระหว่างทางเราผ่านคลองลัดมะยม ซึ่งเป็นที่ตั้งของตลาดน้ำคลองลัดมะยม ที่ตอนนี้ขยายจากตลาดน้ำเล็กๆ กลายเป็นตลาดใหญ่โต มีอาหาร ขนม พืชผักผลไม้จากสวนให้ซื้อหากัน โดยวันเสาร์อาทิตย์มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวกันเป็นจำนวนมาก จากนั้นเรือแล่นผ่านคลองบางระมาด มาถึงยัง “เกาะศาลเจ้า” จนได้
หลายคนอาจจะงงว่าในคลองเล็กๆ ย่านตลิ่งชันนี้มีเกาะได้อย่างไร ต้องขอบอกว่า เหตุที่เรียกพื้นที่บริเวณนี้ว่าเกาะศาลเจ้าก็เพราะชุมชนแห่งนี้ถูกล้อมรอบด้วยคลองบางระมาด คลองบ้านไทรและคลองลัดวัดจำปา ทำให้พื้นที่มีลักษณะเป็นเกาะมีน้ำล้อมรอบ
ที่ชุมชนเกาะศาลเจ้านี้ดูภายนอกก็คล้ายชุมชนชาวสวนริมคลองทั่วไป แต่หากได้มาเรียนรู้เรื่องราวในชุมชนแล้วจะพบว่าน่าสนใจมากทีเดียว โดยคนในชุมชนส่วนใหญ่เป็นชุมชนชาวสวน อีกทั้งบริเวณนี้เคยเป็นย่านการค้าในลำคลอง แม้ปัจจุบันจะไม่เห็นร่องรอยนั้นแล้วก็ตาม นอกจากนั้น ในชุมชนยังมีการสืบทอดงานศิลป์และงานช่าง เช่น การแทงหยวก งานปั้น งานเขียน เป็นต้น โดยที่ชุมชนเกาะศาลเจ้านี้เปิดบ้านในชุมชนเป็นโฮมสเตย์ให้ผู้ที่สนใจจะเรียนรู้วิถีถิ่นชีวิตของคนในชุมชนเข้ามาพักกันได้ด้วย
ที่ชุมชนแห่งนี้มีศูนย์รวมจิตใจอยู่ที่ “ศาลเจ้าพ่อจุ้ย” ซึ่งเป็นที่มาของชื่อเกาะศาลเจ้านั่นเอง ชาวบ้านเชื่อว่าเจ้าพ่อจุ้ยหมายถึงเทพเจ้าประจำท้องน้ำ และเจ้าพ่อกุมกรรณ์ ซึ่งเชื่อว่าเป็นจระเข้ใหญ่ อันเป็นพาหนะของเจ้าพ่อจุ้ย และด้วยความที่คลองแถบนี้ในอดีตมีจระเข้อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ทั้งยังเชื่อว่าเป็นพาหนะของเทพที่ชาวบ้านให้ความนับถือ ดังนั้น เมื่อฉันได้เดินทะลุตัดสวนข้ามคลองบ้านไทรเพื่อไปชม “วัดจำปา” ฉันจึงได้เห็นจระเข้ปูนปั้นตัวยาวนอนอ้าปากอยู่บริเวณสันหลังคามณฑป แสดงให้เห็นถึงความเชื่อประจำถิ่นเกี่ยวกับจระเข้ศักดิ์สิทธิ์ ที่เป็นสิ่งเคารพนับถือของชาวบ้านย่านนี้
ฉันแวะชมสิ่งที่น่าสนใจต่างๆ ในวัดจำปาซึ่งมีอีกหลายอย่าง เพราะเป็นวัดสำคัญของท้องถิ่น มีสิ่งที่น่าสนใจอย่างพระอุโบสถสมัยอยุธยา พระพุทธรูปงามๆ อีกหลายองค์ และที่สำคัญ ในวันเสาร์ อาทิตย์ ที่วัดจำปามีตลาดน้ำเล็กๆ ให้มาเดินเที่ยวชิมของอร่อยกันได้ที่วัดอีกด้วย ดังนั้น เสาร์ อาทิตย์นี้หากใครว่างอย่าลืมแวะมาเที่ยวชมสวนผักย่านบางแค แล้วอย่าลืมแวะมาเที่ยวชมชุมชนเกาะศาลเจ้า และมาเที่ยวตลาดน้ำวัดจำปากัน
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับงานเปิดสวนชวนเที่ยว “เกษตรดีที่บางแค” และการท่องเที่ยวสวนเกษตรบางแคได้ที่ ฝ่ายพัฒนาชุมชนและสวัสดิการสังคม สำนักงานเขตบางแค โทร. 0-2454-5849 หรือสอบถามได้ที่ กองการท่องเที่ยวกรุงเทพมหานคร โทร. 0-2224-0120