xs
xsm
sm
md
lg

งามขลัง สัมผัสพลังแห่งมรดกโลก ที่ “สุโขทัย-ศรีสัชนาลัย-กำแพงเพชร”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“วัดมหาธาตุ”
ประเทศไทยของเรานั้นมีประวัติศาสตร์มานานแสนนานและมีแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์อยู่มากมาย มนต์เสน่ห์ของแหล่งท่องเที่ยวเหล่านี้คือการที่ทำให้ผู้ได้เที่ยวชมนั้นได้มองเห็นถึงอดีตอันรุ่งเรื่องที่ได้ล่วงเลยมาจนถึงปัจจุบัน โดยมีเมืองสำคัญทางประวัติศาสตร์อยู่มากมายเเละที่ “เมืองสุโขทัยเเละเมืองบริวาร” ก็เป็นอีกบางช่วงบางตอนของประวัติศาสตร์เพ เเละที่นี่ยังมีหลักศิลาจารึกซึ่งได้จารึกเรื่องราวต่างๆ เมื่อครั้งอดีต
พระอัฏฐารส พระพุทธรูปยืนภายในซุ้มด้านเหนือและด้านใต้ของเจดีย์มหาธาตุ
“ตะลอนเที่ยว” ในครั้งนี้จึงอยากพามาเที่ยวชม “เมืองสุโขทัยเเละเมืองบริวาร” ที่ได้ทิ้งสิ่งก่อสร้างเมื่อครั้งอดีตที่ยิ่งใหญ่ไว้ให้เหล่าคนรุ่นหลังได้ศึกษาในความเป็นมาของประศาสตร์ “ตะลอนเที่ยว” จะขอกล่าวประวัติโดยย่อของราชอาณาจักรสุโขทัย ไว้พอสังเขปดังนี้ “อาณาจักรสุโขทัย” เป็นรัฐในอดีตรัฐหนึ่งตั้งอยู่บนที่ราบลุ่มแม่น้ำยมราวปี 1800 พ่อขุนบางกลางหาวและพ่อขุนผาเมือง ได้ร่วมกันสถาปนาสุโขทัยขึ้นและมีความเจริญรุ่งเรืองตามลำดับจนถึงขีดสุดในสมัยพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ซึ่งได้ทรงประดิษฐ์ตัวอักษรไทยขึ้น ก่อนจะค่อยๆ ตกต่ำจนถูกรวมเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรอยุธยาในเวลาต่อมา

โดยมี “อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยและอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร” เป็นที่ตั้งของโบราณสถานต่างๆในยุคสมัยดังกล่าว ทั้ง 3 อุทยานนี้ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกภายใต้ชื่อ “เมืองประวัติศาสตร์สุโขทัยและเมืองบริวาร” จากการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกสมัยสามัญ ครั้งที่ 15 ที่เมืองคาร์เทจ ประเทศตูนิเซีย เมื่อปี พ.ศ. 2534 ซึ่งความสวยงามของโบราณสถานในอุทยานเเต่ละเเห่งนั้นไม่แพ้กันเลยทีเดียว จัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจของประเทศไทยเเละสิ่งก่อสร้างส่วนใหญ่ที่ยังคงสภาพสมบูรณ์และได้รับการบูรณะให้สวยงามตามแบบดั้งเดิม
“พระอจนะ” ภายในวิหารวัดศรีชุม
สถานที่แรกที่ “ตะลอนเที่ยว” จะพามาเที่ยวชมและย้อนรำลึกเรื่องราวเมื่อครั้งอดีตนั้นก็คือ “อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย” เมืองหลวงของอาณาจักรสุโขทัย “อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย” ตั้งอยู่ที่ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย ภายในอุทยานฯยังเหลือร่องรอยทางประวัติศาสตร์มากมาย

โดยจุดแรกที่เราจะชมนั้นคือ “วัดมหาธาตุ” ซึ่งเป็นวัดที่ใหญ่ที่สุดในอุทยานฯ และเป็นวัดสำคัญของเมืองสุโขทัย วัดนี้มีพระเจดีย์มหาธาตุทรงดอกบัวตูมหรือทรงพุ่มข้าวบิณฑ์เป็นศิลปะแบบสุโขทัยแท้เเต่ดั้งเดิม เป็นเจดีย์ประธานล้อมรอบด้วยเจดีย์ 8 องค์บนฐานเดียวกัน ที่ด้านเหนือและด้านใต้ของเจดีย์มหาธาตุมีพระพุทธรูปยืนภายในซุ้มพระเรียกว่า “พระอัฏฐารส”
“พระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช”
ถัดมาคือ “วัดศรีชุม” เป็นที่ประดิษฐาน “พระอจนะ” พระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย วิหารวัดเหลือเพียงผนังสี่ด้านในส่วนผนังด้านใต้มีช่องเข้าไปภายในและสามารถเดินขึ้นไปตามทางบันไดจนถึงผนังด้านข้างขององค์พระ ภายในช่องตามฝาผนังมีภาพเขียนเก่าแก่มีอายุเกือบ 700 ปี ที่วิหารแห่งนี้ได้กล่าวถึงตำนานความเร้นลับที่ซ่อนอยู่ โดยเรื่องนี้หากพิจารณากันอย่างลึกซึ้งแล้วจะพบว่าผนังด้านข้างขององค์พระอจนะมีช่องเล็กๆ ถ้าหากใครแอบเข้าไปทางอุโมงค์แล้วไปโผล่ที่ช่องนี้และพูดออกมาดังๆ ผู้ที่อยู่ภายในวิหารจะต้องนึกว่าพระอจนะพูดได้ เป็นกุศโลบายอีกอย่างหนึ่งเมื่อครั้งอดีต
หลักศิลาจารึกจำลอง
สถานที่ต่อมาคือ “พระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช” ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของวัดมหาธาตุ พระบรมราชานุสาวรีย์หล่อด้วยโลหะทองเหลืองผสมทองแดงรมดำขนาด 2 เท่าขององค์จริง ประทับนั่งห้อยพระบาทบนแท่นมนังคศิลาบาตร ลักษณะพระพักตร์เหมือนอย่างพระพุทธรูปสมัยสุโขทัยตอนต้น ที่ถ่ายทอดความรู้สึกถึงพระทัยเมตตากรุณาเเละความยุติธรรมในการปกครอง ที่ด้านข้างมีภาพแผ่นจำหลักจารึกเหตุการณ์เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจของพระองค์และด้านหน้ามีหลักศิลาจารึกจำลองตั้งไว้ให้ชม อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยยังมีโบราณสถานอีกมากมายให้นักท่องเที่ยวได้มาชม อาทิ กำแพงเมืองสุโขทัย, วัดศรีสวาย, วัดสะพานหิน, วัดเชตุพน, วัดพระพายหลวง
ทางเดินขึ้นสู่ “วัดสะพานหิน”
หลังจากลัดเลาะเที่ยวชมนครหลวงแล้ว เราก็จะมาต่อกันที่เมืองบริวารกันบ้าง “อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย” ตั้งอยู่ที่ตำบลศรีสัชนาลัย อำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย เมืองศรีสัชนาลัยแห่งนี้เป็นเมืองบริวารที่มีความสำคัญมากที่สุดเเละถือว่าเป็นเมืองลูกหลวง เพราะพระมหาอุปราชเป็นผู้ปกครองเเละจะได้ครองราชย์ต่อในภายภาคหน้า ในส่วนของสิ่งก่อสร้างต่างๆ ภายในอุทยานฯ นั้นมีการบูรณะต่อเติมจากสภาพเดิมน้อยกว่าที่ใดและยังคงรักษาภูมิทัศน์ของเมืองประวัติศาสตร์ไว้ได้ครบถ้วน
ปรางค์ประธานและกำแพงศิลาแท่นกลม “วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ”
“ตะลอนเที่ยว” จึงขอพาเที่ยวชมจุดเด่นๆ ภายใน “อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย” แห่งนี้โดยเริ่มจาก “วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ” หรือวัดพระบรมธาตุเมืองเชลียง ตั้งอยู่นอกกำแพงเมืองเก่าศรีสัชนาลัย เป็นกลุ่มโบราณสถานขนาดใหญ่ที่น่าสนใจและจัดเป็นพระอารามหลวง มีโบราณสถานที่สำคัญภายในวัด ได้แก่ ปรางค์ประธานก่อด้วยศิลาแลงฉาบปูน สถาปัตยกรรมอยู่ในสมัยอยุธยา ด้านหน้าองค์ปรางค์มีวิหารภายในประดิษฐานพระพุทธรูปขนาดใหญ่ปางมารวิชัย กำแพงวัดเป็นศิลาแท่นกลมขนาดใหญ่ เรียงชิดกันเป็นเอกลักษณ์เด่นของวัดเเห่งนี้
“วัดเจดีย์เจ็ดแถว” อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย
“วัดเจดีย์เจ็ดแถว” วัดแห่งนี้มีความสวยงามมากกว่าวัดอื่นๆ ภายในอุทยานฯ ภายในวัดมีเจดีย์แบบต่างๆ มากมายที่เป็นศิลปะสุโขทัยแท้ โบราณสถานที่สำคัญคือเจดีย์ประธานรูปดอกบัวตูม องค์เจดีย์ประธานมีลักษณะเด่นคือ ฐานเป็นเจดีย์สี่เหลี่ยมจัตุรัสส่วนซุ้มจรนัมเรือนธาตุทำเป็นพระพุทธรูปนาคปรก สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพทรงสันนิษฐานไว้ว่า วัดเจดีย์เจ็ดแถวเเห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานพระอัฐิของพระราชวงศ์สุโขทัย
ลวดลายปูนปั้น “วัดนางพญา”
ต่อมาเป็น “วัดนางพญา” วัดเเห่งนี้มีลวดลายปูนปั้นงดงามที่ปรากฏอยู่บนซากผนังวิหารด้านตะวันตกเฉียงเหนือ เจดีย์ประธานของวัดเป็นเจดีย์ทรงกลม ผนังด้านใต้มีลวดลายปูนปั้นสมัยสุโขทัยถือเป็นไฮไลต์เด่นของวัดเเห่งนี้ ภายในบริเวณอุทยานศรีสัชนาลัยยังมีวัดต่างๆ ที่น่าสนใจอยู่อีกมากมาย อาทิ วัดช้างล้อม, วัดสวนแก้วอุทยานใหญ่, วัดชมชื่น
”วัดช้างรอบ” อุทยานประวัติศาสตร์กำเเพงเพชร
ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ “อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร” ก็จัดอยู่ในเมืองประวัติศาสตร์ที่สำคัญและยังเป็นเมืองบริวารของสุโขทัยด้วยเช่นกัน ในเมื่อครั้งอดีตเมืองกำแพงเพชรยังถือเป็นเมืองหน้าด่านที่สำคัญของอาณาจักรสุโขทัยอีกด้วย “อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร” ตั้งอยู่ในเขตอำเภอเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร ลักษณะของศิลปะและสถาปัตยกรรมในอุทยานแห่งนี้เป็นศิลปะแบบเดียวกับที่ปรากฏในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย มีโบราณสถานที่สวยงามและขนาดใหญ่มากมาย

โดยมี “วัดช้างรอบ” เป็นโบราณสถานที่เป็นไฮไลต์เด่นในเขตอุทยานฯ แห่งนี้ วัดช้างรอบอยู่บนเนินสูงของอุทยานฯ ในเขตอรัญญิก มีพระเจดีย์ใหญ่ตั้งอยู่กลางลานด้านบนโดยลานมีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยม ที่ฐานลานเจดีย์เป็นรูปปั้นช้างครึ่งตัวเห็นแต่ 2 ขาหน้าหันศีรษะออกจากฐานรายรอบฐานลานเจดีย์มีบันไดสี่ด้านเป็นทางขึ้น
เสาศิลาแลง “วัดพระนอน”
“วัดพระนอน” เป็นวัดขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ทางทิศเหนือ สิ่งก่อสร้างต่างๆ ภายในวัดใช้ศิลาแลงแทบทั้งสิ้นซึ่ง ฐานอุโบสถเป็นเสาแปดเหลี่ยมขนาดใหญ่เดิมประดิษฐานพระนอนซึ่งเป็นพระประธาน เสาวิหารใช้ศิลาแลงแท่งเดียวขนาดสูงใหญ่ปักเรียงรายอยู่ภายในซึ่งเป็นจุดเด่นของวัดแห่งนี้

ถัดมาในบริเวณใกล้กันนั้นจะเป็น “วัดพระสี่อิริยาบถ” อยู่ทางเหนือของวัดพระนอนสิ่งก่อสร้างสำคัญภายในวัดคือ วิหารที่สร้างบนฐานทักษิณขนาดใหญ่ ด้านหลังวิหารสร้างเป็นมณฑปทำหน้าที่เป็นเจดีย์ประธานของวัดลักษณะแบบจตุรมุขซึ่งทำเป็นมุมยื่นออกมาทั้ง 4 ด้านผนังแต่ละด้านของแท่งสี่เหลี่ยมก่อให้เว้าเข้าไปและประดิษฐานพระพุทธรูปปางแตกต่างกันออกไปในแต่ละด้าน คือ เดิน นั่ง ยืน นอน ปัจจุบันเหลือเเต่พระยืนขนาดด้านทิศใต้องค์พระมีพระพักตร์เป็นศิลปะสุโขทัยหมวดกำเเพงเพชร
“วัดพระสี่อิริยาบถ” อุทยานประวัติศาสตร์กำเเพงเพชร
โบราณสถานต่างๆ ภายในอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรนั้นยังมีสถานที่ที่น่าสนใจอยู่อีกมาก อาทิ ศาลพระอิศวะ,วัดพระแก้ว,พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติกำแพงเพชร และนี่ก็เป็นเพียงแค่บางส่วนของโบราณสถานในเรื่องราวของประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน ที่ทำให้ผู้ที่ได้มาเยี่ยมเยือนนั้นนึกย้อนถึงเรื่องราวความยิ่งใหญ่เมื่อครั้งอดีต เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่น่าประทับใจอีกเเห่งหนึ่งที่ควรจะมาเยือนสักครั้งหนึ่งในชีวิต

***********************************************************************************************************

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 06.00-21.00 น. (ปิดจำหน่ายบัตรเวลา 18.00 น.) อัตราค่าเข้าชมอุทยานฯนักท่องเที่ยว ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 40 บาท เเละในเวลาประมาณ 19.00-21.00 น. จะมีการส่องไฟชมโบราณสถานและยังสามารถปั่นจักรยานชมได้อีกด้วย ซึ่งบริเวณด้านหน้าอุทยานฯจะมีบริการรถจักรยานให้เช่าในราคาคันละ 20 บาท ทางอุทยานฯ ยังมีรถรางนำเที่ยว ในอัตราค่าบริการชาวไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 20 บาท โทร. 0-5569-7310

อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้ทุกวันตั้งแต่เวลา 08.00 - 17.00 น. อัตราค่าเข้าชมชาวไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 40 บาท และทางอุทยานฯ มีบริการรถรางนำชมโบราณสถาน ในอัตราชาวไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 30 บาท หากนักท่องเที่ยวที่ต้องการขอวิทยากรนำชมสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานอุทยานฯ โทร. 0-5567-9211

อุทยานประวัติศาสตร์กำเเพงเพชร เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 08.30 - 16.30 น. อัตราค่าเข้าชมคนไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 30 บาท โทร.0-5571-1921

***********************************************************

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของผู้จัดการท่องเที่ยว Travel @ Manager on Facebook รับข่าวสารทั้งเรื่องกินเรื่องเที่ยวแบบรวดเร็วทันใจ และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมายคลิกที่นี่เลย!!

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล travel_astvmgr@hotmail.com
กำลังโหลดความคิดเห็น