ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” พระเอกใจบุญ นำทีมช่วยเหลือ “ยายทอง” วัย 87 ปี ชาวโคราชคนขายฟืนมัดละบาทเลี้ยงชีพ ด้านคุณยายยอดนักสู้ชีวิตเผยจะเก็บเงินไว้ใช้จ่ายซื้อของกินของใช้จำเป็น และบางส่วนเก็บไว้เป็นค่าทำศพตัวเอง ยันออกไปขายฟืนจนกว่าเดินไม่ไหว
วันนี้ (27 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ดารานักแสดง และผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง พร้อมอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยพุทธธรรมการกุศล (ฮุก 31) จ.นครราชสีมา ได้เดินทางมาที่บ้านเลขที่ 342 ม.1 ต.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา หลังได้รับการประสานจากเครือข่ายเฟซบุ๊กว่ามีหญิงชราชื่อนางสายทอง ขอปล้องกลาง หรือคุณยายทอง อายุ 87 ปี หาเลี้ยงชีพด้วยการขายฟืนมัดละ 1 บาท อยู่ในตลาดสดแม่กิมเฮง ใกล้อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี (ย่าโม) เขตเทศบาลนครนครราชสีมา
ทั้งนี้ พบว่าคุณยายทองอาศัยอยู่ในบ้านเพิงสังกะสีเก่าสภาพชำรุดทรุดโทรมเพียงลำพัง ซึ่งปลูกอยู่ใกล้กับบ้านหลานสะใภ้ โดยเฉพาะเครื่องนอนมีสภาพเก่ามาก เบื้องต้นนายบิณฑ์ได้มอบเงินจำนวน 5,000 บาท เพื่อปรับปรุงซ่อมแซมที่อยู่อาศัย พร้อมจัดซื้อเครื่องนอนใหม่ให้จำนวน 1 ชุด
บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ กล่าวว่า ตนได้รับการประสานทางเครือข่ายเฟซบุ๊กว่า ที่ จ.นครราชสีมา มีหญิงชราหาเลี้ยงชีพตัวเองด้วยการมานั่งขายฟืนมัดละ 1 บาทอยู่ในตลาดสดแม่กิมเฮง เขตเทศบาลนครนครราชสีมา เมื่อตนเดินทางมาพบคุณยายทองด้วยตัวเองก็พบว่าสภาพความเป็นอยู่ค่อนข้างลำบากยากจนมาก ไม่มีญาติพี่น้องคอยดูแล มีเพียงหลานสะใภ้ที่สร้างเพิงสังกะสีให้อยู่อาศัย และแต่ละวันจะหาเก็บฟืนเป็นไม้เล็กๆ น้อยๆ จากบริเวณรอบบ้านไปนั่งขายที่ตลาดสดแม่กิมเฮงเพียงลำพัง
นอกจากตนได้มอบเงินจำนวน 5,000 บาท เพื่อซ่อมแซมที่อยู่อาศัยแล้ว ยังมอบเงินสดอีก 20,000 บาทฝากไว้ในบัญชีธนาคารให้ เพื่อให้ยายทองเก็บไว้ใช้จ่ายซื้อเครื่องอุปโภคบริโภคสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิต พร้อมขอร้องให้ผู้ใหญ่บ้าน และเพื่อนบ้านช่วยกันดูแล รวมทั้งขอร้องให้คุณยายทองเลิกออกไปขายฟืน เนื่องจากอายุมากแล้วเกรงว่าจะเกิดอันตรายด้วย
ด้านคุณยายทองได้กล่าวขอบคุณบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ที่มาช่วยเหลือ และรับปากว่าจะเก็บเงินที่ได้รับมาไว้ใช้จ่ายซื้อของกินของใช้ภายในบ้าน และบางส่วนจะเก็บเอาไว้เป็นค่าทำศพตัวเอง เนื่องจากทุกวันนี้ต้องหาเลี้ยงชีพตัวเองและใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพัง มีเพียงหลานสะใภ้ที่คอยดูแลบ้างเป็นบางครั้ง ส่วนอาชีพขายฟืนมัดละ 1 บาทก็จะยังคงออกไปนั่งขายตามเดิมจนกว่าจะเดินไม่ไหว