“อาหารไทย” เป็นอาหารประจำชาติของประเทศไทย มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่รู้จักของนานาชาติ เรียกว่าหากใครได้ลองลิ้มอาหารไทย เป็นต้องติดใจและชื่นชอบในเสน่ห์ของอาหารไทย ทั้งหน้าตาของอาหารอันสวยงามประณีต และรสชาติอันครบรสชวนลิ้มลอง
ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้กล่าวอ้างเกินจริง เพราะว่าห้องอาหารที่ชื่อว่า “น้ำ” (nahm) เป็นห้องอาหารของโรงแรมเมโทรโพลิแทน กรุงเทพฯ ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งใน 50 ร้านอาหารที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งจัดขึ้นโดย The World’s 50 Best Restaurants Academy
อาหารไทยของที่ห้องอาหารน้ำแห่งนี้ ไม่น่าเชื่อว่าจะมีเชฟเป็นชาวออสเตรเลีย ชื่อว่า เดวิด ทอมป์สัน ผู้หลงใหลในเสน่ห์ของอาหารไทย และได้ทำการศึกษาค้นคว้าหาสูตรอาหารไทยดั้งเดิม และนำมาปรุงแต่งเป็นอาหารไทยที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ที่ทางเชฟได้รังสรรค์ขึ้นมาเป็นพิเศษ คัดสรรแต่วัตถุดิบที่มีคุณภาพและสดใหม่ เพื่อให้ได้ลิ้มรสอาหารไทยแบบต้นตำรับ
มื้อนี้ “ตระเวนกิน” เลยขอชวนแฟนๆ อาหารไทยมาสัมผัสรสชาติอาหารไทยของที่ห้องอาหารน้ำนี้กัน เพียงแค่มาถึงก็สัมผัสได้กับบรรยากาศของห้องอาหารที่ตกแต่งแบบโมเดิร์นแฝงไว้ด้วยกลิ่นอายความเป็นไทยเข้ากับบรรยากาศร่วมสมัยของโรงแรมเมโทรโพลิแทนได้อย่างลงตัว ชวนนั่งแบบผ่อนคลายมีความเป็นส่วนตัว มีห้องวีไอพีบริการ มีโซนโต๊ะนั่งแบบสบายๆ และโซนนั่งรับลมเย็นๆ ริมสระน้ำ
สำหรับอาหารไทยของที่นี่มีทั้งแบบอลาคาสและแบบเซ็ตเมนูให้เลือกสั่งมากินกันตามใจชอบ และมีเมนูหลากหลายให้ได้เลือกสั่งกัน ซึ่งในมื้อนี้เราขอเลือกสั่งแบบเป็นเซ็ตเมนูกลางวันมากินกัน แต่ก่อนที่จะได้กินอาหารที่สั่งไป ที่นี่จะเสิร์ฟม้าห้อให้ได้ลิ้มรสกันก่อน (ตามจำนวนคน) เป็นม้าห้อแบบไทยๆ รสชาติดี
และเซ็ตแรกที่เราเลือกสั่งมา คือ เซ็ตขนมจีน (800 บาท++/คน) โดยเซ็ตเมนูของที่นี่จะประกอบไปด้วย อาหารว่าง (เลือกได้ 2 อย่าง) อาหารจานหลัก และขนม (เลือกได้ 1 อย่าง) ซึ่งเซ็ตขนมจีนมีหลายน้ำยาให้เลือกหลายอย่าง (เลือกได้ 1 อย่าง) อาหารว่างที่เลือกมามี กอและหอยแมลงภู่ เป็นหอยแมลงภู่หมักน้ำกะทิและเครื่องแกงสูตรพิเศษนานข้ามคืน นำมาเสียบไม้ย่างและรมควันด้วยกากมะพร้าว กินแล้วอร่อยถูกปากกับเนื้อหอยสดนุ่มถึงเครื่องแกงเข้มข้นโดนใจ อีกอย่างคือ
ข้าวทอดแหนมสด ที่มีข้าวทอดที่กรอบนุ่มและแหนมสดออกเปรี้ยวกำลังดี ที่คลุกเคล้ามากับเครื่องสมุนไพรไทยอย่างขิง หอมซอย ใบสะระแหน่ ห่อกินกับใบชะพลูเคี้ยวกร้วมเข้ากันรสชาติกลมกล่อมลงตัว
ส่วนขนมจีนเสิร์ฟมาพร้อมกับเนื้อเค็มทอดและปลาสลิดทอด และเลือกน้ำยาเป็นแกงเขียวหวานลูกชิ้นปลา ที่กินแล้วขอยกนิ้วให้กับรสชาติอันเข้มข้นของแกงเขียวหวานที่ถึงพริกถึงเครื่องแกง หอมหวานมันกะทิกำลังดี และลูกชิ้นปลากรายก็เคี้ยวนุ่มหนึบหนับปากข้างในสอดไส้ไข่เค็มแดงด้วย
และขนมเลือกเป็น ขนมเบื้องหวานลำไย ที่ กินแล้วได้ใจกับแป้งขนมเบื้องที่บางกรอบ เต็มปากเต็มคำกับไส้ฝอยทองหวานนุ่ม และยังมีเนื้อมะพร้าวอ่อน เนื้อลำไย ลูกเกด เปลือกแตงโมแช่อิ่ม และผิวส้มซ่าแช่อิ่ม
แล้วอีกเซ็ตที่สั่งคือ เซ็ตอาหารไทย (1,100 บาท++/คน) ซึ่งก็ให้เลือกอาหารว่าง (เลือกได้ 2 อย่าง) อาหารจานหลัก (เลือกได้ 3 อย่าง) ขนม (เลือกได้ 1 อย่าง) และข้าวสวยเป็นข้าวหอมมะลิหุงพิเศษมีความหอมเสิร์ฟฟรีเติมได้ตลอด
เซ็ตนี้เราเลือกอาหารว่างเหมือนเซ็ตเมนูขนมจีน ส่วนอาหารจานหลักที่เลือกมาลองลิ้มก็มี ยำตะไคร้ กินดีต่อสุขภาพเต็มไปด้วยตะไคร้สดซอยละเอียดยำใส่กุ้ง กะทิสดและเครื่องปรุงต่างๆ กินแล้วรสชาติดีถูกปากหอมกลิ่นตะไคร้ อีกอย่างคือ ผัดกระเทียมดองใส่กุ้ง ไก่ และไข่ เป็นกระเทียมโทนดอง เอามาผัดใส่ กุ้ง ไก่ และไข่ กินแล้วรสชาติอร่อยได้ใจ
อย่างสุดท้ายเป็น แกงเผ็ดไก่ ที่เลือกใช้ไก่จากโครงการหลวงนำมาผัดกับเครื่องแกงสูตรพิเศษ และเครื่องเทศต่างๆ ผัดมาแบบมีน้ำขลุกขลิก ชิมแล้วแกงเผ็ดเด็ดได้ใจ เนื้อไก่นุ่มชุ่มเครื่องแกงเผ็ดรสเข้มข้นถึงเครื่องแกง และขนมเลือกเป็น ลอดช่องทรงเครื่อง กินแล้วหวานชื่นใจกับลอดช่องน้ำกะทิหอมหวานมัน ใส่แตงไทย ลูกชิด เผือก ข้าวโพด ข้าวเหนียวดำ และยังมีลำไยสดกับตะโก้สาคูไส้แห้วให้กินคู่กันอีกด้วย
มื้อกลางวันนี้ทำเอาเราอิ่มท้องกับอาหารไทยเลิศรสนานาเมนู แต่ถ้าอยากจะมากินเป็นมื้อเย็นก็มีเมนูที่ชวนลองลิ้มอีกมากอาทิ แกงกะทิปู (580 บาท++) ปลาร้าปลาช่อนผัด (530 บาท++) ผัดเผ็ดกบ (500 บาท++) แกงจืดเป็ดย่างมะพร้าวอ่อน (260 บาท++) และเมนูอาหารไทยอื่นๆ อีกมากมาย ที่จะหมุนเวียนเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เพื่อที่จะได้ลิ้มรสอาหารไทยกันแบบหลากหลาย เรียกว่าถูกปากถูกใจแฟนๆ อาหารไทยกันเป็นแน่ ขอเพียงแค่เดินทางมาสัมผัสรสชาติกันด้วยตัวเองที่ห้องอาหาร “น้ำ” โรงแรมเมโทรโพลิแทน กรุงเทพฯ
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
ห้องอาหาร “น้ำ” (nahm) ตั้งอยู่ที่โรงแรมเมโทรโพลิแทน กรุงเทพฯ 27 ถ.สาทรใต้ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กทม. เปิดบริการทุกวัน มื้อเย็น เวลา 19.00-22.30 น. และมื้อกลางวัน เปิดจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.00-14.00 น. ถ้ามากินแนะนำว่าควรโทร. มาจองโต๊ะก่อน โทร. 0-2625-3388
คลิก!! อ่านรายละเอียดและแผนที่การเดินทางไปยังห้องอาหาร “น้ำ” (nahm)
* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของผู้จัดการท่องเที่ยว Travel @ Manager on Facebook รับข่าวสารทั้งเรื่องกินเรื่องเที่ยวแบบรวดเร็วทันใจ และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!!
สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล์ travel_astvmgr@hotmail.com