สสปน. ดันเชียงใหม่พร้อมสำหรับไมซ์เมืองไทย

ทุกวันนี้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวสามารถสร้างเม็ดเงินให้เกิดขึ้นกับประเทศได้อย่างมากมาย ซึ่งเม็ดเงินเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เกิดขึ้นมาจากการจับจ่ายใช้สอยของเหล่านักท่องเที่ยวหลากหลายกลุ่ม โดยมีหนึ่งในกลุ่มท่องเที่ยวที่มีความสำคัญและน่าสนใจอย่าง “กลุ่มไมซ์” (MICE : การประชุมสัมมนา การท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล และการจัดงานแสดงสินค้า) ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีคุณภาพ ช่วยสร้างรายได้ให้แก่แหล่งท่องเที่ยวในเมืองไทยของเราได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้เมื่อเล็งเห็นถึงความสำคัญของกลุ่มไมซ์ที่มีต่อการท่องเที่ยว ทางสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสนป. ได้ร่วมมือกับสมาคมองค์การบริการส่วนตำบลแห่งประเทศไทย โดยการสนับสนุนของสมาคมส่งเสริมการจัดประชุมนานาชาติ (ไทย) จัดกิจกรรมแฟมทริป “สัมผัสถิ่นล้านนา ตระการตาราชพฤกษ์ นึกถึงการประชุมเมืองไทย มั่นใจเชียงใหม่พร้อม” โดยเชิญนายกองค์การบริการส่วนตำบลที่มีศักยภาพในการจัดประชุมฝึกอบรมนอกพื้นที่จำนวน 30 ราย จากทุกภูมิภาคของประเทศ อาทิ ปัตตานี อุดรธานี นครสวรรค์ นนทบุรี ฯลฯ เข้าร่วมสัมผัสประสบการณ์ศึกษาดูความพร้อมรองรับการจัดกิจกรรมด้านไมซ์ในจังหวัดเชียงใหม่และลำปาง

จิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมตลาดในประเทศ สสปน. กล่าวถึงวัตถุประสงค์การจัดกิจกรรมแฟมทริปในครั้งว่า การพัฒนาเมืองไมซ์ในการรองรับการเป็นผู้นำการจัดงานไมซ์ทั้งในประเทศและระดับภูมิภาค เป็นหนึ่งในกลยุทธ์การพัฒนาไมซ์ในประเทศของ สสปน. โดยหวังผลการสร้างกิจกรรมเพิ่มมูลค่าภายในพื้นที่เป้าหมาย รวมทั้งให้แต่ละเมืองไมซ์มีความเข้มแข็งและความสามารถเป็นต้นแบบเมืองไมซ์แก่พื้นที่อื่นๆ ของประเทศ โดยเชียงใหม่มีศักยภาพความพร้อมสำหรับผู้เดินทางกลุ่มไมซ์ และยังเป็นเมืองน่าท่องเที่ยวชั้นนำของสหรัฐอเมริกา “ทราเวล แอนด์ เลเชอร์" (Travel and Leisure)

ด้านม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เผยถึงความพร้อมของการรองรับกลุ่มไมซ์ว่า จังหวัดเชียงใหม่มีความพร้อมในทุกๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องโรงแรม ภัตตาคาร ร้านอาหารชั้นนำ มีให้เลือกในทุกระดับตามความนิยมชมชอบ มีระบบขนส่งมวลชนขั้นพื้นฐานอำนวยบริการได้อย่างเต็มที่ และยังมีรถสี่ล้อแดงที่กำลังปรับปรุงคุณภาพในเรื่องเส้นทางในการเดินทางและอัตราการบริการให้ได้มาตรฐาน มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ถือว่าเป็นอัตลักษณ์ของประเทศไทยภาคเหนือ และในขณะนี้เชียงใหม่เอาเรื่องวัฒนธรรมมานำหน้าเรื่องการปกครอง เรื่องการเมือง เพื่อให้ผู้คนมีความภาคภูมิใจ ที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย เป็นชาวเชียงใหม่ มีความรักใคร่สามัคคีให้เกิดขึ้น ดังที่ในหลวงได้พระราชทานให้รู้รักสามัคคี

จิรุตถ์ ยังได้เผยถึงเหตุผลในการจัดกิจกรรมแฟมทริปในครั้งนี้ไว้ว่า กิจกรรมแฟมทริปครั้งนี้ได้เน้นการนำเสนอแนวคิดการจัดไมซ์ในประเทศไทยภายใต้ 2 แนวคิดหลัก คือ การสร้างประสบการณ์ทางธุรกิจการเรียนรู้ใหม่ๆ และกิจกรรมส่งเสริมความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR) ซึ่งเป็นหนึ่งในรูปแบบการจัดกิจกรรมส่งเสริมตลาดไมซ์ในประเทศ ภายใต้ “โครงการประชุม D-MICE มั่นใจเมืองไทยพร้อม” ซึ่งริเริ่มขึ้นเมื่อปี 2554 และยังสานต่อมาในปีนี้
การจัดแฟมทริปครั้งนี้มีกิจกรรมให้ผู้แทนจากอบต. ได้เข้าร่วม ไม่ว่าจะเป็นเยี่ยมชมความพร้อมของศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเชียงใหม่ จัดกิจกรรมผู้ซื้อพบผู้ขาย ไปชมงานมหกรรมพืชสวนโลกฯ 2554 ชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ที่สวยงามของดอยอินทนนท์ ไปเยี่ยมชมการเลี้ยงปลาเรนโบว์เทราต์ที่สถานีวิจัยประมงพื้นที่สูง โครงการหลวงอินทนนท์ ไปดูงานการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อมของภาคเอกชนที่ร่วมกับชุมชนในการอนุรักษ์ และอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างเป็นสุขที่โรงงานบริษัทปูนซิเมนต์ไทย จ. ลำปาง และไปเยี่ยมชมโรงงานการคัดแยกขยะของเทศบาลบ้านสา เพื่อเป็นแนวทางในการนำความรู้และประสบการณ์ต่างๆ ที่ได้ร่วมแฟมทริปในครั้งนี้ไปพัฒนา และปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชนของแต่ละ อบต. ต่อไป