ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ผวจ.เชียงใหม่ระบุประชุมครม.สัญจรเลื่อนเป็น 14-15 ม.ค. “ยิ่งลักษณ์” มาถึงเชียงใหม่ 14 ม.ค.-เข้าประชุม กรอ.หารือภาคเอกชน ส่วน 15 ม.ค. ภาคเช้าประชุมครม.สัญจร ส่วนภาคบ่ายศึกษาดูงานห้วยฮ่องไคร้ ก่อนครม.เข้าร่วมพิธีเปิดงานพืชสวนโลกช่วงค่ำ เผยเชียงใหม่เตรียมเสนอ 3 เรื่องหลัก “พัฒนาระบบโครงข่าย-บริหารจัดการน้ำ-ระบบขนส่งมวลชน”
หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงความคืบหน้าของการจัดประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ที่จังหวัดเชียงใหม่ว่า ล่าสุดคณะรัฐมนตรีได้ปรับเปลี่ยนวันเวลาในการประชุม โดยจะเลื่อนกำหนดการลงพื้นที่และจัดประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรมาเป็นในระหว่างวันที่ 14-15 ม.ค.แทน จากเดิมที่จะจัดในระหว่างวันที่ 15-16 ม.ค.
สำหรับสถานที่ประชุมในครั้งนี้ จะจัดขึ้นที่หอประชุมธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ หลังจากที่คณะของรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมืองได้มาสำรวจสถานที่ไปแล้วเมื่อวันที่ 30 ธ.ค.ที่ผ่านมา และเห็นว่าสถานที่ดังกล่าวมีความเหมาะสมมากที่สุด ทั้งในการจัดการประชุมและการดูแลรักษาความปลอดภัย
ด้านกำหนดการของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ในการเดินทางมายังจังหวัดเชียงใหม่ หม่อมหลวงปนัดดากล่าวว่า ในวันที่ 14 ม.ค. นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจมีกำหนดการเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) โดยจะหารือกับภาคเอกชนในจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะต่างๆ ซึ่งในส่วนนี้เป็นสิ่งที่นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก
ต่อจากนั้นในวันที่ 15 ม.ค. ในช่วงเช้านายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีจะเข้าประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ที่หอประชุมธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ จ.เชียงใหม่
ส่วนในช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปยังศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ก่อนที่ในช่วงเย็นคณะรัฐมนตรีทั้งหมดจะเข้าร่วมรับเสด็จ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในพิธีเปิดงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554 ที่อุทยานหลวงราชพฤกษ์
ส่วนการกำหนดสถานที่ที่คณะรัฐมนตรีแต่ละรายจะลงพื้นที่ หม่อมหลวงปนัดดากล่าวว่า ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาความเหมาะสม ว่าจะจัดให้รัฐมนตรีลงพื้นที่ ณ จุดใดบ้าง
ผู้ว่าฯเชียงใหม่กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ได้ประสานกับทุกภาคส่วน โดยเฉพาะกลุ่มองค์กรหรือมวลชนที่ต้องการจะนำเสนอปัญหาความเดือดร้อน หรือยื่นเรื่องร้องเรียนต่างๆ เพื่อให้ทางจังหวัดได้รับทราบก่อน ซึ่งการเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนนั้นถือเป็นสิทธิที่สามารถทำได้ในระบอบประชาธิปไตย โดยในขณะนี้ก็มีการประสานงานเข้ามายังจังหวัดบ้างแล้ว
ขณะที่ประเด็นที่จังหวัดและท้องถิ่นเตรียมที่จะนำเสนอ ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติแล้ว ประกอบด้วย โครงการพัฒนาโครงข่ายในเขตผังเมืองรวม โครงการบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการ และโครงการเพิ่มประสิทธิภาพรับขนส่งมวลชนของจังหวัดเชียงใหม่
หม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงความคืบหน้าของการจัดประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ที่จังหวัดเชียงใหม่ว่า ล่าสุดคณะรัฐมนตรีได้ปรับเปลี่ยนวันเวลาในการประชุม โดยจะเลื่อนกำหนดการลงพื้นที่และจัดประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรมาเป็นในระหว่างวันที่ 14-15 ม.ค.แทน จากเดิมที่จะจัดในระหว่างวันที่ 15-16 ม.ค.
สำหรับสถานที่ประชุมในครั้งนี้ จะจัดขึ้นที่หอประชุมธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ หลังจากที่คณะของรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมืองได้มาสำรวจสถานที่ไปแล้วเมื่อวันที่ 30 ธ.ค.ที่ผ่านมา และเห็นว่าสถานที่ดังกล่าวมีความเหมาะสมมากที่สุด ทั้งในการจัดการประชุมและการดูแลรักษาความปลอดภัย
ด้านกำหนดการของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรี ในการเดินทางมายังจังหวัดเชียงใหม่ หม่อมหลวงปนัดดากล่าวว่า ในวันที่ 14 ม.ค. นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจมีกำหนดการเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน (กรอ.) โดยจะหารือกับภาคเอกชนในจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะต่างๆ ซึ่งในส่วนนี้เป็นสิ่งที่นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก
ต่อจากนั้นในวันที่ 15 ม.ค. ในช่วงเช้านายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีจะเข้าประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ที่หอประชุมธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ จ.เชียงใหม่
ส่วนในช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปยังศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ก่อนที่ในช่วงเย็นคณะรัฐมนตรีทั้งหมดจะเข้าร่วมรับเสด็จ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในพิธีเปิดงานมหกรรมพืชสวนโลกเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2554 ที่อุทยานหลวงราชพฤกษ์
ส่วนการกำหนดสถานที่ที่คณะรัฐมนตรีแต่ละรายจะลงพื้นที่ หม่อมหลวงปนัดดากล่าวว่า ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาความเหมาะสม ว่าจะจัดให้รัฐมนตรีลงพื้นที่ ณ จุดใดบ้าง
ผู้ว่าฯเชียงใหม่กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ได้ประสานกับทุกภาคส่วน โดยเฉพาะกลุ่มองค์กรหรือมวลชนที่ต้องการจะนำเสนอปัญหาความเดือดร้อน หรือยื่นเรื่องร้องเรียนต่างๆ เพื่อให้ทางจังหวัดได้รับทราบก่อน ซึ่งการเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนนั้นถือเป็นสิทธิที่สามารถทำได้ในระบอบประชาธิปไตย โดยในขณะนี้ก็มีการประสานงานเข้ามายังจังหวัดบ้างแล้ว
ขณะที่ประเด็นที่จังหวัดและท้องถิ่นเตรียมที่จะนำเสนอ ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติแล้ว ประกอบด้วย โครงการพัฒนาโครงข่ายในเขตผังเมืองรวม โครงการบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการ และโครงการเพิ่มประสิทธิภาพรับขนส่งมวลชนของจังหวัดเชียงใหม่
