โดย : หนุ่มลูกทุ่ง
ภาษาจีนนั้นถือว่าเป็นภาษาที่ใช้ในการสื่อสารมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก จะเห็นได้ชัดจากการที่ทุกวันนี้ให้บ้านเมืองเรามีการเรียนการสอนภาษาจีนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จะเป็นรองเพียงแค่ภาษาอังกฤษซึ่งเป็นภาษากลาง หลายๆ คนจึงอยากจะเรียนรู้ภาษาจีนเอาไว้บ้างเพื่ออนาคตในวันข้างหน้า
ฉันเองก็มีความสนใจเช่นเดียวกัน เลยอยากจะลองมาเรียนรู้ดูที่ “ห้องเรียนขงจื่อ” ที่ตั้งตามชื่อของ“ขงจื่อ”หรือ“ขงจื้อ”ที่คนไทยเราคุ้นเคย ผู้เป็นหนึ่งในสุดยอดปราชญ์แดนมังกร
“ห้องเรียนขงจื่อ” ก่อตั้งขึ้นโดยโรงเรียนมัธยมสาธิตเทียนจิน ประเทศจีน และโรงเรียนไตรมิตรวิทยาลัย โดยได้รับการสนับสนุนจากพระเทพภาวนาวิกรม (เจ้าคุณธงชัย) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม และประธานสถาบันขงจื่อ เค่อถัง ที่ได้เล็งเห็นความสำคัญของการศึกษาภาษาจีนของเยาวชนไทย
นอกจากนั้น ห้องเรียนขงจื่อแห่งนี้ก็ยังได้รับการอนุมัติให้เป็นห้องเรียนขงจื่อแห่งแรกของโลก จากสำนักงานส่งเสริมการเรียนการสอนภาษาจีนนานาชาติ (Hanban) จึงทำให้ที่นี่เป็นแหล่งเรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรมจีนสำหรับเยาวชนชาวไทยและผู้ที่สนใจทั่วไป
โดยจุดประสงค์หลักก็เพื่อให้เป็นห้องเรียนและห้องสมุดที่มีความน่าเชื่อถือและสง่างาม เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านไอซีทีที่สมบูรณ์แบบแห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งจะมีทั้งหนังสือเรียนภาษาจีนและคอมพิวเตอร์อย่างครบถ้วน รวมไปถึงมีการจัดแสดงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวจีนอย่างถูกต้องและชัดเจน
หากว่าเข้ามาถึงโรงเรียนวัดไตรมิตรวิทยาลัยแล้วก็ไม่ต้องกลัวว่าจะหาห้องเรียนขงจื่อไม่เจอ เพราะที่ด้านล่างนั้นจะมีรูปหล่อทองแดงของท่านขงจื่อให้เห็นกันชัดเจน ส่วนตัวห้องเรียนนั้นจะอยู่ที่ชั้นสองของตึก
ส่วนเมื่อเดินขึ้นไปถึงด้านหน้าห้องเรียนแล้ว จะเห็นบานประตูแบบจีนสีแดงบานใหญ่ตั้งอยู่ทางขวามือ ซึ่งก็เปรียบเสมือนว่ากำลังเดินเข้าสู่การเรียนรู้เมืองจีน ซึ่งเมื่อได้เดินเข้าไปถึงด้านในแล้ว ฉันก็รู้สึกว่าเหมือนมาอยู่ที่ประเทศจีนเลยทีเดียว เพราะมีการออกแบบและตกแต่งโดยชาวจีน ส่วนสิ่งของต่างๆ ที่อยู่ภายในห้อง ไม่ว่าจะเป็นของตกแต่งต่างๆ โต๊ะ เก้าอี้ พื้น หนังสือ หรือสิ่งของที่จัดแสดงอยู่ ก็ล้วนแต่นำเข้ามาจากประเทศจีนทั้งสิ้น
ภายในห้องเรียนจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนด้วยกัน ส่วนแรกก็คือส่วนที่จัดเป็นนิทรรศการเกี่ยวกับเรื่องราวของประเทศจีน โดยจะแบ่งออกเป็น 12 หัวข้อ อาทิ หุ่นทหารและม้าดินปั้นของสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ อิฐสมัยราชวงศ์ฉินและกระเบื้องราชวงศ์ฮั่น เครื่องเคลือบและเครื่องหยก การทำกระดาษและแท่นพิมพ์ การแพทย์แผนจีนและยาจีน เครื่องแต่งกายประจำเผ่า เป็นต้น โดยแต่ละหัวข้อจะมีการจัดแสดงสิ่งของ และมีข้อความบรรยายให้ความรู้เป็นภาษาจีนและภาษาอังกฤษ ส่วนที่เป็นภาษาไทยนั้นทางเจ้าหน้าที่กำลังจัดทำอยู่ เพื่อให้คนไทยอ่านแล้วเข้าใจได้ดีขึ้น
ส่วนที่ 2 จะจัดเป็นส่วนของห้องสมุด ที่จะมีซีดีการเรียนการสอน หนังสือภาษาจีน ทั้งหนังสือเรียน วรรณกรรม หนังสืออ่านเล่นต่างๆ เอาไว้ให้นั่งอ่านกัน ต้องขอบอกก่อนว่าโต๊ะที่นั่งอ่านหนังสือนั้นก็ไม่ธรรมดา เพราะนำเข้ามาจากประเทศจีน ส่วนตัวโต๊ะก็จะมีลักษณะคล้ายๆ กับแผ่นหินที่จารึกข้อความต่างๆ ไว้ ซึ่งข้อความเหล่านั้นก็จะเป็นประโยคที่ใช้สอนเด็กๆ ชาวจีนตอนเริ่มอ่านหนังสือ
และนอกจากที่จะมานั่งอ่านหนังสือภาษาจีนแล้ว ก็ยังสามารถยืมหนังสือกลับไปอ่านที่บ้านได้อีกด้วย ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากว่าที่ในอยู่ในย่านเยาวราชซึ่งมีชาวจีน และชาวไทยเชื้อสายจีนอาศัยอยู่มาก บางครั้งอาจจะหาหนังสือภาษาจีนอ่านได้ยาก จึงได้ทำที่นี่ให้เป็นแหล่งอ่านหนังสืออีกที่หนึ่ง แต่ถ้าจะยืมกลับบ้านก็คงต้องอดใจรอกันสักหน่อย เพราะทางห้องเรียนขงจื่อกำลังจัดทำระบบยืม-คืน ให้เสร็จเรียบร้อย
หนังสือที่มีอยู่ที่นี่แห่งนี้ก็ได้รับการสนับสนุนมาจากทางรัฐบาลจีนที่จะจัดส่งหนังสือมาให้ทุกๆ ปี ซึ่งก็ไม่ได้ใช้เฉพาะภายห้องสมุดขงจื่อ เพราะเวลาที่ออกไปเยี่ยมเยียนโรงเรียนต่างๆ ที่อยู่ในเครือข่าย ก็จะนำหนังสือที่ได้รับมาไปมอบให้ไว้ด้วย เพื่อให้โรงเรียนนั้นๆ ใช้เป็นสื่อการสอน และใช้อ่านเพิ่มทักษะภาษาจีน
ในส่วนสุดท้ายของห้องเรียนขงจื่อ ก็จะเป็นในส่วนของการเรียนรู้ และการเรียนการสอนภาษาจีน โดยที่นี่จะมีห้องเรียนที่เพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์การสอนต่างๆ ทั้งตำราเรียน คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ รวมไปถึงจะมีจอคอมพิวเตอร์ระบบสัมผัสขนาดใหญ่ให้ได้มาเรียนมาเล่นกันด้วย
ภายในคอมพิวเตอร์ก็จะบรรจุซอฟท์แวร์ที่มีให้เลือกเรียนหลายเรื่อง อย่างเช่น กังฟู เครื่องดนตรีจีน สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองจีน เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดก็จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับภาษา วัฒนธรรม และวิถีชีวิตชาวจีน โดยจะมีทั้งภาษาจีนและภาษาอังกฤษกำกับไว้ แต่ละเรื่องก็จะมีการนำเสนอที่แตกต่างกันไปให้สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง
ซอฟท์แวร์เหล่านี้จัดทำขึ้นโดยรัฐบาลจีน เพื่อส่งเสริมการเรียนการสอนภาษาและวัฒนธรรมจีนในประเทศต่างๆ และในอนาคตก็จะมีในส่วนที่เป็นภาษาไทยเพิ่มเติมเข้ามาด้วย ฉันว่าการเรียนแบบนี้ก็สนุกสนานดีไม่น้อย แถมยังเข้าใจได้ง่าย เพลิดเพลิน และยังได้เรียนรู้เรื่องของเมืองจีนได้อีกหลายอย่าง ถ้าเมืองไทยเราจัดทำซอฟท์แวร์แบบนี้ขึ้นมาบ้างก็คงจะดีไม่น้อย
สำหรับที่ห้องเรียนขงจื่อแห่งนี้เปิดให้เข้ามาเรียนภาษาจีนได้ทั้งนักเรียน นักศึกษา และผู้ที่สนใจทั่วไป โดยจะแบ่งการเรียนออกเป็นระดับต่างๆ ซึ่งถ้าหากสนใจก็สามารถติดต่อสอบถามได้เลย นอกจากนี้ ในทุกๆ ปีก็จะมีคุณครูสอนวัฒนธรรมจีน มาสอนวิชาต่างๆ เช่น กังฟู ตัดกระดาษ เล่นเครื่องดนตรีจีน ภายในห้องเรียนขงจื่อที่โรงเรียนวัดไตรมิตรวิทยาลัยแห่งนี้ รวมถึงเดินทางไปสอนนักเรียนในโรงเรียนเครือข่ายด้วย
สำหรับคนที่สนใจจะเข้ามาเยี่ยมชมห้องเรียนขงจื่อ ก็สามารถเข้ามาได้เลย เจ้าหน้าที่ที่นี่ยินดีต้อนรับทุกๆ คน และฉันก็เชื่อว่าหากได้เข้ามาแล้วก็จะต้องได้รับความรู้เกี่ยวกับภาษจีนและประเทศจีนมากขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“ห้องเรียนขงจื่อ” ตั้งอยู่ภายในโรงเรียนไตรมิตรวิทยาลัย เปิดทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0-2623-0209
ภาษาจีนนั้นถือว่าเป็นภาษาที่ใช้ในการสื่อสารมากเป็นอันดับต้นๆ ของโลก จะเห็นได้ชัดจากการที่ทุกวันนี้ให้บ้านเมืองเรามีการเรียนการสอนภาษาจีนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จะเป็นรองเพียงแค่ภาษาอังกฤษซึ่งเป็นภาษากลาง หลายๆ คนจึงอยากจะเรียนรู้ภาษาจีนเอาไว้บ้างเพื่ออนาคตในวันข้างหน้า
ฉันเองก็มีความสนใจเช่นเดียวกัน เลยอยากจะลองมาเรียนรู้ดูที่ “ห้องเรียนขงจื่อ” ที่ตั้งตามชื่อของ“ขงจื่อ”หรือ“ขงจื้อ”ที่คนไทยเราคุ้นเคย ผู้เป็นหนึ่งในสุดยอดปราชญ์แดนมังกร
“ห้องเรียนขงจื่อ” ก่อตั้งขึ้นโดยโรงเรียนมัธยมสาธิตเทียนจิน ประเทศจีน และโรงเรียนไตรมิตรวิทยาลัย โดยได้รับการสนับสนุนจากพระเทพภาวนาวิกรม (เจ้าคุณธงชัย) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม และประธานสถาบันขงจื่อ เค่อถัง ที่ได้เล็งเห็นความสำคัญของการศึกษาภาษาจีนของเยาวชนไทย
นอกจากนั้น ห้องเรียนขงจื่อแห่งนี้ก็ยังได้รับการอนุมัติให้เป็นห้องเรียนขงจื่อแห่งแรกของโลก จากสำนักงานส่งเสริมการเรียนการสอนภาษาจีนนานาชาติ (Hanban) จึงทำให้ที่นี่เป็นแหล่งเรียนรู้ภาษาและวัฒนธรรมจีนสำหรับเยาวชนชาวไทยและผู้ที่สนใจทั่วไป
โดยจุดประสงค์หลักก็เพื่อให้เป็นห้องเรียนและห้องสมุดที่มีความน่าเชื่อถือและสง่างาม เพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านไอซีทีที่สมบูรณ์แบบแห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งจะมีทั้งหนังสือเรียนภาษาจีนและคอมพิวเตอร์อย่างครบถ้วน รวมไปถึงมีการจัดแสดงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวจีนอย่างถูกต้องและชัดเจน
หากว่าเข้ามาถึงโรงเรียนวัดไตรมิตรวิทยาลัยแล้วก็ไม่ต้องกลัวว่าจะหาห้องเรียนขงจื่อไม่เจอ เพราะที่ด้านล่างนั้นจะมีรูปหล่อทองแดงของท่านขงจื่อให้เห็นกันชัดเจน ส่วนตัวห้องเรียนนั้นจะอยู่ที่ชั้นสองของตึก
ส่วนเมื่อเดินขึ้นไปถึงด้านหน้าห้องเรียนแล้ว จะเห็นบานประตูแบบจีนสีแดงบานใหญ่ตั้งอยู่ทางขวามือ ซึ่งก็เปรียบเสมือนว่ากำลังเดินเข้าสู่การเรียนรู้เมืองจีน ซึ่งเมื่อได้เดินเข้าไปถึงด้านในแล้ว ฉันก็รู้สึกว่าเหมือนมาอยู่ที่ประเทศจีนเลยทีเดียว เพราะมีการออกแบบและตกแต่งโดยชาวจีน ส่วนสิ่งของต่างๆ ที่อยู่ภายในห้อง ไม่ว่าจะเป็นของตกแต่งต่างๆ โต๊ะ เก้าอี้ พื้น หนังสือ หรือสิ่งของที่จัดแสดงอยู่ ก็ล้วนแต่นำเข้ามาจากประเทศจีนทั้งสิ้น
ภายในห้องเรียนจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนด้วยกัน ส่วนแรกก็คือส่วนที่จัดเป็นนิทรรศการเกี่ยวกับเรื่องราวของประเทศจีน โดยจะแบ่งออกเป็น 12 หัวข้อ อาทิ หุ่นทหารและม้าดินปั้นของสุสานจิ๋นซีฮ่องเต้ อิฐสมัยราชวงศ์ฉินและกระเบื้องราชวงศ์ฮั่น เครื่องเคลือบและเครื่องหยก การทำกระดาษและแท่นพิมพ์ การแพทย์แผนจีนและยาจีน เครื่องแต่งกายประจำเผ่า เป็นต้น โดยแต่ละหัวข้อจะมีการจัดแสดงสิ่งของ และมีข้อความบรรยายให้ความรู้เป็นภาษาจีนและภาษาอังกฤษ ส่วนที่เป็นภาษาไทยนั้นทางเจ้าหน้าที่กำลังจัดทำอยู่ เพื่อให้คนไทยอ่านแล้วเข้าใจได้ดีขึ้น
ส่วนที่ 2 จะจัดเป็นส่วนของห้องสมุด ที่จะมีซีดีการเรียนการสอน หนังสือภาษาจีน ทั้งหนังสือเรียน วรรณกรรม หนังสืออ่านเล่นต่างๆ เอาไว้ให้นั่งอ่านกัน ต้องขอบอกก่อนว่าโต๊ะที่นั่งอ่านหนังสือนั้นก็ไม่ธรรมดา เพราะนำเข้ามาจากประเทศจีน ส่วนตัวโต๊ะก็จะมีลักษณะคล้ายๆ กับแผ่นหินที่จารึกข้อความต่างๆ ไว้ ซึ่งข้อความเหล่านั้นก็จะเป็นประโยคที่ใช้สอนเด็กๆ ชาวจีนตอนเริ่มอ่านหนังสือ
และนอกจากที่จะมานั่งอ่านหนังสือภาษาจีนแล้ว ก็ยังสามารถยืมหนังสือกลับไปอ่านที่บ้านได้อีกด้วย ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากว่าที่ในอยู่ในย่านเยาวราชซึ่งมีชาวจีน และชาวไทยเชื้อสายจีนอาศัยอยู่มาก บางครั้งอาจจะหาหนังสือภาษาจีนอ่านได้ยาก จึงได้ทำที่นี่ให้เป็นแหล่งอ่านหนังสืออีกที่หนึ่ง แต่ถ้าจะยืมกลับบ้านก็คงต้องอดใจรอกันสักหน่อย เพราะทางห้องเรียนขงจื่อกำลังจัดทำระบบยืม-คืน ให้เสร็จเรียบร้อย
หนังสือที่มีอยู่ที่นี่แห่งนี้ก็ได้รับการสนับสนุนมาจากทางรัฐบาลจีนที่จะจัดส่งหนังสือมาให้ทุกๆ ปี ซึ่งก็ไม่ได้ใช้เฉพาะภายห้องสมุดขงจื่อ เพราะเวลาที่ออกไปเยี่ยมเยียนโรงเรียนต่างๆ ที่อยู่ในเครือข่าย ก็จะนำหนังสือที่ได้รับมาไปมอบให้ไว้ด้วย เพื่อให้โรงเรียนนั้นๆ ใช้เป็นสื่อการสอน และใช้อ่านเพิ่มทักษะภาษาจีน
ในส่วนสุดท้ายของห้องเรียนขงจื่อ ก็จะเป็นในส่วนของการเรียนรู้ และการเรียนการสอนภาษาจีน โดยที่นี่จะมีห้องเรียนที่เพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์การสอนต่างๆ ทั้งตำราเรียน คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ รวมไปถึงจะมีจอคอมพิวเตอร์ระบบสัมผัสขนาดใหญ่ให้ได้มาเรียนมาเล่นกันด้วย
ภายในคอมพิวเตอร์ก็จะบรรจุซอฟท์แวร์ที่มีให้เลือกเรียนหลายเรื่อง อย่างเช่น กังฟู เครื่องดนตรีจีน สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองจีน เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดก็จะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับภาษา วัฒนธรรม และวิถีชีวิตชาวจีน โดยจะมีทั้งภาษาจีนและภาษาอังกฤษกำกับไว้ แต่ละเรื่องก็จะมีการนำเสนอที่แตกต่างกันไปให้สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง
ซอฟท์แวร์เหล่านี้จัดทำขึ้นโดยรัฐบาลจีน เพื่อส่งเสริมการเรียนการสอนภาษาและวัฒนธรรมจีนในประเทศต่างๆ และในอนาคตก็จะมีในส่วนที่เป็นภาษาไทยเพิ่มเติมเข้ามาด้วย ฉันว่าการเรียนแบบนี้ก็สนุกสนานดีไม่น้อย แถมยังเข้าใจได้ง่าย เพลิดเพลิน และยังได้เรียนรู้เรื่องของเมืองจีนได้อีกหลายอย่าง ถ้าเมืองไทยเราจัดทำซอฟท์แวร์แบบนี้ขึ้นมาบ้างก็คงจะดีไม่น้อย
สำหรับที่ห้องเรียนขงจื่อแห่งนี้เปิดให้เข้ามาเรียนภาษาจีนได้ทั้งนักเรียน นักศึกษา และผู้ที่สนใจทั่วไป โดยจะแบ่งการเรียนออกเป็นระดับต่างๆ ซึ่งถ้าหากสนใจก็สามารถติดต่อสอบถามได้เลย นอกจากนี้ ในทุกๆ ปีก็จะมีคุณครูสอนวัฒนธรรมจีน มาสอนวิชาต่างๆ เช่น กังฟู ตัดกระดาษ เล่นเครื่องดนตรีจีน ภายในห้องเรียนขงจื่อที่โรงเรียนวัดไตรมิตรวิทยาลัยแห่งนี้ รวมถึงเดินทางไปสอนนักเรียนในโรงเรียนเครือข่ายด้วย
สำหรับคนที่สนใจจะเข้ามาเยี่ยมชมห้องเรียนขงจื่อ ก็สามารถเข้ามาได้เลย เจ้าหน้าที่ที่นี่ยินดีต้อนรับทุกๆ คน และฉันก็เชื่อว่าหากได้เข้ามาแล้วก็จะต้องได้รับความรู้เกี่ยวกับภาษจีนและประเทศจีนมากขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
“ห้องเรียนขงจื่อ” ตั้งอยู่ภายในโรงเรียนไตรมิตรวิทยาลัย เปิดทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0-2623-0209