“ปวีณา” พาแม่อุ้มลูกสาววัย 5 เดือนเข้าพบตำรวจบึงกุ่มให้เร่งคดีอวัยวะเพศฉีกขาดเย็บ 40 เข็ม โดยแม่เด็กเผยฝากลูกให้พี่เลี้ยงรับจ้างดูแลเด็กช่วยดูลูก ขณะไปทำงานนอกบ้าน พอกลับมาเจออวัยวะเพศลูกมีเลือดไหล เค้นเอาความจริงกับพี่เลี้ยงไม่ได้ข้อเท็จจริง เลยไปแจ้งความเอาผิดและร้องขอความช่วยเหลือต่อมูลนิธิปวีณาอีกทางหนึ่ง ด้านตำรวจเผยเรียกสอบพี่้เลี้ยงเด็กแล้ว รอผลตรวจร่างกายเด็กจาก รพ.ตำรวจประกอบอีกครั้ง
วันนี้ (31 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ สน.บึงกุ่ม นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุล เพื่อเด็กและสตรี ได้พานางต่าย (นามสมมติ) อายุ 21 ปี พร้อม ด.ญ.โบว์ (นามสมมติ) ลูกสาววัย 5 เดือน เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.สมิต เชิงสะอาด ผกก.สน.วังทองหลาง และรักษาราชการแทน ผกก.สน.บึงกุ่ม และ พ.ต.ท.ทรงธรรม ศรีกาญจนา พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.บึงกุ่ม เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีที่นางต่ายได้เดินทางมาแจ้งความว่าได้ฝากลูกสาวไว้ให้ น.ส.สุนีย์ กองหิรัญ อายุ 38 ปี เลี้ยงช่วงที่ต้องออกไปทำงาน แต่หลังจากไปรับกลับบ้านแล้วก็พบว่าอวัยวะเพศของลูกสาวฉีกขาดตั้งแต่ช่องคลอดจนถึงทวารหนัก ต้องเย็บถึง 40 เข็ม
นางต่ายเปิดเผยว่า เมื่อ 5 เดือนก่อนหลังจากคลอดน้องโบว์ออกมาแล้ว ตนต้องลาออกจากงานมาพักให้นมลูกอยู่ที่ห้องเพียงลำพังคนเดียว ซึ่งพอน้องโบว์อายุครบ 5 เดือน ตนต้องออกไปหางานทำ เนื่องจากสามีที่คบหากันมานั้นได้ขอแยกทางไปตั้งแต่รู้ว่าตนตั้งครรภ์แล้ว จากนั้นตนมาได้งานเป็นลูกจ้างร้านเสริมสวยแห่งหนึ่งย่านนวมินทร์ จึงพาน้องโบว์ไปฝากให้ น.ส.สุนีย์ ที่รับจ้างเลี้ยงเด็กอยู่ที่อาคารสินธนาคอนโดฯ ย่านซอยนวมินทร์ 54 ให้ช่วยตนดูแลน้องโบว์เป็นประจำทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยตนจะเอาลูกไปฝากไว้ในช่วง 09.00 น. และจะไปรับกลับบ้านในเวลา 21.00 น. พร้อมจ่ายค่าจ้างให้ น.ส.สุนีย์ วันละ 100 บาท
นางต่ายกล่าวต่อไปว่า ตนนำลูกสาวไปฝากเลี้ยงเป็นประจำทุกวัน ซึ่งไม่มีปัญหาอะไร จนกระทั่งช่วงค่ำวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมาได้ไปรับน้องโบว์กลับบ้านตามปกติ แต่ต้องตกใจเพราะอวัยวะเพศลูกสาวฉีกขาดไปจนถึงทวารหนัก ซึ่งเมื่อสอบถาม น.ส.สุนีย์ก็ได้รับคำตอบว่า อวัยวะเพศมีเลือดไหลเพราะโดนเล็บของ น.ส.สุนีย์ตอนอาบน้ำให้น้องโบว์ แต่ตนไม่เชื่อเพราะตนสังเกตเห็นว่า น.ส.สุนีย์ไม่ได้ไว้เล็บ โดยตนบอกไปว่าจะเดินทางไปแจ้งความ แต่ น.ส.สุนีย์ก็ขอไว้ว่าอย่าเพิ่งไปแจ้งความ และไม่ต้องตกใจ เนื่องจากเลือกที่ไหลออกมาเป็นประจำเดือน ซึ่งตนได้แย้งไปว่าลูกสาวตนเพิ่งอายุได้แค่ 5 เดือน ไม่มีทางจะมีประจำเดือนแน่นอน
“หลังจากนั้นก็พาลูกไปหาหมอที่โรงพยาบาลแพทย์ปัญญา โดยหมอบอกว่าอวัยวะเพศของลูกฉีกขาดเป็นทางยาว ต้องวางยาสลบแล้วเย็บแผลถึง 2 ชั้น 40 เข็ม เพื่อห้ามเลือด พร้อมทั้งให้น้องโบว์นอนพักรักษาตัวรอดูอาการที่โรงพยาบาล 1 วัน ดิฉันจึงกลับมาเค้นเอาความจริงกับ น.ส.สุนีย์ อีกครั้ง จนเขาอ้างอีกครั้งว่าตอนเกิดเหตุกำลังอุ้มน้องโบว์อยู่ แล้วน้องโบว์เกิดดิ้นจึงทำนิ้วแหย่เข้าไปในอวัยวะเพศอย่างไม่ได้ตั้งใจจนมีเลือดไหลออกมา พออาการน้องโบว์ดีขึ้นก็รีบพามาแจ้งความไว้ทันที และเกรงว่า น.ส.สุนีย์จะหนี เลยไปขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิฯ อีกทาหนึ่ง” นางต่ายกล่าว
ด้าน นางปวีณากล่าวว่า หลังจากนางต่ายอุ้มน้องโบว์มาร้องขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิฯ เมื่อวันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา ตนได้รีบประสานมายัง พ.ต.อ.สมิต เชิงสะอาด รรท.ผกก.สน.บึงกุ่ม เพื่อให้เร่งสอบสวนและนำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี และในวันนี้ก็พานางต่ายกับน้องโบว์มาพบเจ้าหน้าที่อีกครั้ง เพื่อให้ช่วยเร่งรัดคดี ซึ่งทางมูลนิธิฯ จะช่วยเหลือดูแลด้านคดี และช่วยเหลือด้านครอบครัวของนางต่ายด้วย เนื่องจากขณะนี้นางต่ายต้องลาออกมาดูแลลูก ไม่มีรายได้ พร้อมทั้งฟื้นฟูด้านจิตใจของน้องโบว์ เพราะขณะนี้เด็กยังมีอาการหวาดกลัวอยู่อย่างมาก
นางปวีณากล่าวด้วยว่า เหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งมาก จึงขอฝากไปยังพ่อแม่ที่จะนำลูกสาวไปฝากเลี้ยง โดยให้ดูให้แน่ใจก่อนว่าสถานที่เลี้ยงเด็กนั้นน่าเชื่อถือได้มากแค่ไหน เพื่อความปลอดภัยของลูกหลานของท่านเอง และหากพบเห็นเด็กสตรีถูกทารุณกรรม สามารถแจ้งมายังสายด่วนมูลนิธิปวีณาฯ ได้ที่หมายเลข 1134 และ 08-1814-0244 ได้ทันที
ขณะที่ พ.ต.อ.สมิตกล่าวว่า หลังรับแจ้งความเจ้าหน้าที่ได้เรียกตัว น.ส.สุนีย์ พี่เลี้ยงเด็กมาสอบปากคำในเบื้องต้นแล้ว หากข้อเท็จจริงเป็นไปตามที่ น.ส.สุนีย์ อ้างก็เข้าความความผิดข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนกำลังรอผลตรวจร่างกายอย่างละเอียดจากนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจส่งมาให้อีกครั้ง ก่อนจะเรียกตัว น.ส.สุนีย์มาสอบปากคำอีกครั้ง ซึ่งหากแพทย์ระบุผลการตรวจร่างกายว่าเด็กได้รับบาดเจ็บรุนแรง ก็จะแจ้งข้อหาอื่นที่มีอัตราโทษรุนแรงกว่านี้
วันนี้ (31 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ สน.บึงกุ่ม นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุล เพื่อเด็กและสตรี ได้พานางต่าย (นามสมมติ) อายุ 21 ปี พร้อม ด.ญ.โบว์ (นามสมมติ) ลูกสาววัย 5 เดือน เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.สมิต เชิงสะอาด ผกก.สน.วังทองหลาง และรักษาราชการแทน ผกก.สน.บึงกุ่ม และ พ.ต.ท.ทรงธรรม ศรีกาญจนา พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.บึงกุ่ม เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีที่นางต่ายได้เดินทางมาแจ้งความว่าได้ฝากลูกสาวไว้ให้ น.ส.สุนีย์ กองหิรัญ อายุ 38 ปี เลี้ยงช่วงที่ต้องออกไปทำงาน แต่หลังจากไปรับกลับบ้านแล้วก็พบว่าอวัยวะเพศของลูกสาวฉีกขาดตั้งแต่ช่องคลอดจนถึงทวารหนัก ต้องเย็บถึง 40 เข็ม
นางต่ายเปิดเผยว่า เมื่อ 5 เดือนก่อนหลังจากคลอดน้องโบว์ออกมาแล้ว ตนต้องลาออกจากงานมาพักให้นมลูกอยู่ที่ห้องเพียงลำพังคนเดียว ซึ่งพอน้องโบว์อายุครบ 5 เดือน ตนต้องออกไปหางานทำ เนื่องจากสามีที่คบหากันมานั้นได้ขอแยกทางไปตั้งแต่รู้ว่าตนตั้งครรภ์แล้ว จากนั้นตนมาได้งานเป็นลูกจ้างร้านเสริมสวยแห่งหนึ่งย่านนวมินทร์ จึงพาน้องโบว์ไปฝากให้ น.ส.สุนีย์ ที่รับจ้างเลี้ยงเด็กอยู่ที่อาคารสินธนาคอนโดฯ ย่านซอยนวมินทร์ 54 ให้ช่วยตนดูแลน้องโบว์เป็นประจำทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยตนจะเอาลูกไปฝากไว้ในช่วง 09.00 น. และจะไปรับกลับบ้านในเวลา 21.00 น. พร้อมจ่ายค่าจ้างให้ น.ส.สุนีย์ วันละ 100 บาท
นางต่ายกล่าวต่อไปว่า ตนนำลูกสาวไปฝากเลี้ยงเป็นประจำทุกวัน ซึ่งไม่มีปัญหาอะไร จนกระทั่งช่วงค่ำวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมาได้ไปรับน้องโบว์กลับบ้านตามปกติ แต่ต้องตกใจเพราะอวัยวะเพศลูกสาวฉีกขาดไปจนถึงทวารหนัก ซึ่งเมื่อสอบถาม น.ส.สุนีย์ก็ได้รับคำตอบว่า อวัยวะเพศมีเลือดไหลเพราะโดนเล็บของ น.ส.สุนีย์ตอนอาบน้ำให้น้องโบว์ แต่ตนไม่เชื่อเพราะตนสังเกตเห็นว่า น.ส.สุนีย์ไม่ได้ไว้เล็บ โดยตนบอกไปว่าจะเดินทางไปแจ้งความ แต่ น.ส.สุนีย์ก็ขอไว้ว่าอย่าเพิ่งไปแจ้งความ และไม่ต้องตกใจ เนื่องจากเลือกที่ไหลออกมาเป็นประจำเดือน ซึ่งตนได้แย้งไปว่าลูกสาวตนเพิ่งอายุได้แค่ 5 เดือน ไม่มีทางจะมีประจำเดือนแน่นอน
“หลังจากนั้นก็พาลูกไปหาหมอที่โรงพยาบาลแพทย์ปัญญา โดยหมอบอกว่าอวัยวะเพศของลูกฉีกขาดเป็นทางยาว ต้องวางยาสลบแล้วเย็บแผลถึง 2 ชั้น 40 เข็ม เพื่อห้ามเลือด พร้อมทั้งให้น้องโบว์นอนพักรักษาตัวรอดูอาการที่โรงพยาบาล 1 วัน ดิฉันจึงกลับมาเค้นเอาความจริงกับ น.ส.สุนีย์ อีกครั้ง จนเขาอ้างอีกครั้งว่าตอนเกิดเหตุกำลังอุ้มน้องโบว์อยู่ แล้วน้องโบว์เกิดดิ้นจึงทำนิ้วแหย่เข้าไปในอวัยวะเพศอย่างไม่ได้ตั้งใจจนมีเลือดไหลออกมา พออาการน้องโบว์ดีขึ้นก็รีบพามาแจ้งความไว้ทันที และเกรงว่า น.ส.สุนีย์จะหนี เลยไปขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิฯ อีกทาหนึ่ง” นางต่ายกล่าว
ด้าน นางปวีณากล่าวว่า หลังจากนางต่ายอุ้มน้องโบว์มาร้องขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิฯ เมื่อวันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา ตนได้รีบประสานมายัง พ.ต.อ.สมิต เชิงสะอาด รรท.ผกก.สน.บึงกุ่ม เพื่อให้เร่งสอบสวนและนำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี และในวันนี้ก็พานางต่ายกับน้องโบว์มาพบเจ้าหน้าที่อีกครั้ง เพื่อให้ช่วยเร่งรัดคดี ซึ่งทางมูลนิธิฯ จะช่วยเหลือดูแลด้านคดี และช่วยเหลือด้านครอบครัวของนางต่ายด้วย เนื่องจากขณะนี้นางต่ายต้องลาออกมาดูแลลูก ไม่มีรายได้ พร้อมทั้งฟื้นฟูด้านจิตใจของน้องโบว์ เพราะขณะนี้เด็กยังมีอาการหวาดกลัวอยู่อย่างมาก
นางปวีณากล่าวด้วยว่า เหตุการณ์ในลักษณะนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งมาก จึงขอฝากไปยังพ่อแม่ที่จะนำลูกสาวไปฝากเลี้ยง โดยให้ดูให้แน่ใจก่อนว่าสถานที่เลี้ยงเด็กนั้นน่าเชื่อถือได้มากแค่ไหน เพื่อความปลอดภัยของลูกหลานของท่านเอง และหากพบเห็นเด็กสตรีถูกทารุณกรรม สามารถแจ้งมายังสายด่วนมูลนิธิปวีณาฯ ได้ที่หมายเลข 1134 และ 08-1814-0244 ได้ทันที
ขณะที่ พ.ต.อ.สมิตกล่าวว่า หลังรับแจ้งความเจ้าหน้าที่ได้เรียกตัว น.ส.สุนีย์ พี่เลี้ยงเด็กมาสอบปากคำในเบื้องต้นแล้ว หากข้อเท็จจริงเป็นไปตามที่ น.ส.สุนีย์ อ้างก็เข้าความความผิดข้อหากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่อย่างไรก็ตาม พนักงานสอบสวนกำลังรอผลตรวจร่างกายอย่างละเอียดจากนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจส่งมาให้อีกครั้ง ก่อนจะเรียกตัว น.ส.สุนีย์มาสอบปากคำอีกครั้ง ซึ่งหากแพทย์ระบุผลการตรวจร่างกายว่าเด็กได้รับบาดเจ็บรุนแรง ก็จะแจ้งข้อหาอื่นที่มีอัตราโทษรุนแรงกว่านี้
