หนุ่มใหญ่อ้างเป็นรองเลขาฯ รมว.คลัง แจกนามบัตรเด็กรับรถยันเด็กเสิร์ฟ กร่างกินเหล้าฟรี แถมพังร้านอาหารแถวแจ้งวัฒนะ พร้อมขู่มีปืนยิงได้ทุกเมื่อ ตำรวจควบคุมตัวเจรจาตกลงกับเจ้าของร้านที่โรงพัก แต่เจ้าตัวโทร.หาเมียแล้วให้เคลียร์กันทางโทรศัพท์ โดยปลายสายขู่ “ไม่ต้องพูดอะไรมาก จะเอาเท่าไหร่” พอรุ่งเช้ามียศ “พ.ต.ท.” มาประกันตัวออกไป ถูกตั้งข้อหาทำให้เสียทรัพย์ ส่วนจะแอบอ้างหรือไม่ตำรวจรอสอบรายละเอียดอีกครั้ง ถ้าหลอกลวงเจอพ่วงหลายกระทง
วันนี้ (24 ม.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น.ที่ สน.ทุ่งสองห้อง น.ส.พิมพ์เพชร คูณธนานันทนิษฏ์ อายุ 41 ปี เจ้าของห้องอาหารพิมพ์เพชร ตั้งอยู่เลขที่ 36/5-6 ปากซอยแจ้งวัฒนะ 12 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.พีระวิทย์ เปรมธนารักษ์ พนักงานสอบสวน (สบ1) สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมกรณีเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา มีชายแอบอ้างเป็นรองเลขานุการ นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เข้ามานั่งดื่มสุราในร้าน แล้วไม่ยอมจ่ายเงิน อีกทั้งยังทำลายทรัพย์สินในร้านได้รับความเสียหาย โดยมี พ.ต.อ.พงษ์ สังข์มุรินทร์ ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง ร่วมทำการสอบปากคำ
น.ส.พิมพ์เพชร ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 21.00 น.วานนี้ (23 ม.ค.) ได้มีลูกค้าเป็นชายคนหนึ่งขับรถตู้ยี่ห้อโฟล์คสวาเก้น คาราเวล สีเขียวฟ้า หมายเลขทะเบียน อษ-9565 กทม.เข้ามาที่ร้าน จากนั้นลงมาไล่แจกนามบัตรระบุชื่อ นายวัลลภ เพชรวิบูล รองเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (นายกรณ์ จาติกวณิช) ให้กับเด็กรับรถ และพนักงานคนอื่นๆในร้าน จากนั้น นายวัลลภ ได้มานั่งสั่งเบียร์ไฮเนเก้นดื่มเพียงลำพังอยู่คนเดียว ระหว่างที่นั่งดื่มก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่เริ่มมีอาการเมาเดินไปมาไม่อยู่นิ่ง และยังทำแก้วตก แต่ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับใคร
น.ส.พิมพ์เพชร กล่าวต่อไปว่า หลังจากเวลาผ่านไปถึงประมาณเที่ยงคืน ซึ่งเป็นเวลาปิดร้านแล้ว ลูกค้าโต๊ะอื่นก็กลับไปหมด เหลือเพียง นายวัลลภ นั่งอยู่เพียงคนเดียว พนักงานของร้านได้เข้าไปขอเช็กบิลเก็บค่าอาหารเป็น จำนวนเงิน 1,690 บาท ประกอบด้วย อาหาร 1 อย่าง และเบียร์ไฮเนเก้น 11 ขวด แต่ นายวัลลภ เปิดกระเป๋าสตางค์ให้ดูว่ามีเงินเพียงแค่ 750 บาท ตนจึงให้ลูกน้องผู้ชาย 2 คน พานายวัลลภออกไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มใกล้ๆ กับร้าน แต่ปรากฏว่า ตู้ขัดข้องได้เงินมาเพียง 500 บาท เท่านั้น
“พอกลับมาถึงร้าน พนักงานของร้านจะพาไปกดเงินที่ตู้อื่น แต่เขาไม่ยอมไปแล้ว พร้อมกับบอกว่า ไม่ไปแล้ว จะจ่ายแค่นี้ ไปกินที่ไหนไม่เคยจ่าย ทำไมต้องจ่ายด้วย แต่พนักงานของร้านได้พูดกับเขาดีๆ เนื่องจากเกรงว่าจะมีปัญหากับลูกค้าจ่ายเงินไม่ครบ ก็เลยพยายามจะพาเขาออกไปกดเงิน แต่เขาได้ล็อกคอ และกระชากคอเสื้อพนักงานอีก จากนั้นเขาพูดขู่ว่า พูดไม่รู้เรื่องเดี๋ยวกูยิงเลย ดิฉันเลยเดินไปบอกให้เขากลับไป ทางร้านไม่เอาเงินส่วนที่เหลือแล้ว จากนั้นเขาก็เดินกลับไปที่รถตู้ ดิฉันกับพนักงานก็กลัวว่าเขาจะมีปืนหรือไม่ เลยรีบบอกให้พนักงานปิดไฟปิดประตูร้าน แล้วออกทางหลังร้าน แต่เขากลับเดินย้อนกลับมาแล้วกระโดดถีบประตูร้านจนกระจกแตก” น.ส.พิมพ์เพชร กล่าว
น.ส.พิมพ์เพชร กล่าวอีกว่า หลังจาก นายวัลลภ พังประตูเข้ามาในร้านได้แล้ว ก็พูดว่า “มีปืนนะ จะยิงนะ” พวกตนก็รีบหนีออกจากร้าน แล้วโทรศัพท์แจ้งหมายเลข 191 ทันที หลังจากนั้นได้มีตำรวจสายตรวจของ สน.ทุ่งสองห้อง มาที่ร้านก่อนจะควบคุมตัวนายวัลลภ มาที่ สน.ทุ่งสองห้อง ระหว่างนั้น นายวัลลภ ได้โทรศัพท์ติดต่อกับผู้หญิงคนหนึ่งที่บอกว่าเป็นภรรยาของนายวัลลภ ก่อนจะยื่นโทรศัพท์มาให้ตนคุย พร้อมบอกตนว่า “ไม่ต้องพูดอะไรมาก จะเอาเท่าไหร่” แต่ตนก็บอกว่าดึกแล้วให้มาเคลียร์กันที่ สน.ทุ่งสองห้อง แต่หญิงคนดังกล่าวบอกว่า จะให้มาก็ได้ แต่ถ้ามาแล้ว ฝ่ายตนจะไม่ได้อะไรไปเลย
ด้าน พ.ต.อ.พงษ์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำผู้ต้องหาแล้ว พบว่าชื่อนามสกุลผู้ต้องหา คือ นายวัลลภ เพชรวิบูล อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 132/116 ถนนพระรามที่ 6 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม.ตรงกับนามบัตรที่ผู้ต้องหาได้ยื่นให้กับทางร้านไว้ ซึ่งหลังสอบปากคำ พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาทำให้เสียทรัพย์ กับนายวัลลภไปแล้ว โดยข้อหานี้มีอัตราโทษ 3 ปี หากใช้หลักทรัพย์ประกันตัวก็ต้องใช้เงินสด 40,000 บาท แต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้มีเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ระดับ 7 ยศ พ.ต.ท.คนหนึ่ง เดินทางมาที่ สน.ทุ่งสองห้อง พร้อมทั้งใช้ตำแหน่งประกันตัวนายวัลลภออกไปแล้ว ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบว่า นายวัลลภ เป็นรองเลขาฯ ของ รมว.คลัง ตามที่กล่าวอ้างไว้หรือไม่ ส่วนความผิดข้อหาอื่นนั้น ต้องรอสอบปากคำผู้เสียหายอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง หากพบว่าเข้าข่ายความผิดข้อหาอื่นก็จะแจ้งข้อหาดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อไป
ร.ต.ท.พีระวิทย์ กล่าวว่า เบื้องต้นแจ้งข้อหาทำให้เสียทรัพย์ กับนายวัลลภ เพียงข้อหาเดียวก่อน ส่วนข้อหาอื่นนั้น ต้องตรวจสอบเจตนาของผู้ต้องหาว่าเข้าข่ายความผิดข้อหาข่มขู่ทำให้ตกใจกลัวจากการขู่เข็ญหรือไม่ ส่วนเรื่องที่ว่าจะผู้ต้องหาจะแอบอ้างเป็นรองเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือไม่นั้น ต้องรอตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง หากพบว่าเป็นการแอบอ้างจริง จะแจ้งข้อหาแอบอ้างทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสียชื่อเสียงต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า จากการตรวจสอบรถตู้คันดังกล่าว พบว่า บริเวณกระจกหน้ารถมีสติกเกอร์ของกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์, สติกเกอร์ของกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ และสติกเกอร์ของพรรคประชาธิปัตย์
ขณะที่นายศิโรตม์ เสตะพันธ์ เลขานุการ รมว.คลัง กล่าวว่า ได้เดินทางไปสน.ทุ่งสองห้อง ในฐานะเจ้าทุกข์ที่ถูกแอบอ้าง และนำรายละเอียดดังกล่าวมาดูว่า นายวัลลภได้นำนามบัตรไปทำอะไรบ้าง หรือไปแอบอ้างที่ไหนอีก ก่อให้เกิดความเสียหายต่อตนเอง และรมว.คลังหรือไม่ โดยชั้นนี้จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการไปก่อน เนื่องจากมีการทำนามบัตรปลอมด้วย ซึ่งการพิมพ์นามบัตรลักษณะดังกล่าวนั้น ถือว่าเป็นการปลอมแปลงเอกสารทางราชการ ซึ่งจะมีความผิดมากกว่าธรรมดาในชั้นของกฎหมาย
“เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก แต่เคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ เช่น มีผู้แอบอ้างว่าเป็นหน้าห้องรมว.คลัง และต้องการขอเบอร์โทรศัพท์เคลื่อนที่หมายเลขพิเศษ จากบริษัท แอ็คเซ็สคอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค แต่ปรากฎว่า ทางดีแทคไม่มีเบอร์ที่บุคคลดังกล่าวต้องการ และแจ้งว่า หากต้องการจริง ๆ ให้ทำหนังสือไปยังกทช.เพื่อขอเบอร์พิเศษดังกล่าว ซึ่งเมื่อส่งเรื่องไปกทช.เอะใจ จึงสอบถามกลับมายังหน้าห้องรมว.คลัง ทำให้ทราบเรื่องว่า ไม่เป็นความจริง และมีผู้แอบอ้างแน่นอน เป็นต้น”
วันนี้ (24 ม.ค.) เมื่อเวลา 13.00 น.ที่ สน.ทุ่งสองห้อง น.ส.พิมพ์เพชร คูณธนานันทนิษฏ์ อายุ 41 ปี เจ้าของห้องอาหารพิมพ์เพชร ตั้งอยู่เลขที่ 36/5-6 ปากซอยแจ้งวัฒนะ 12 ถนนแจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ เดินทางเข้าพบ ร.ต.ท.พีระวิทย์ เปรมธนารักษ์ พนักงานสอบสวน (สบ1) สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมกรณีเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา มีชายแอบอ้างเป็นรองเลขานุการ นายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เข้ามานั่งดื่มสุราในร้าน แล้วไม่ยอมจ่ายเงิน อีกทั้งยังทำลายทรัพย์สินในร้านได้รับความเสียหาย โดยมี พ.ต.อ.พงษ์ สังข์มุรินทร์ ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง ร่วมทำการสอบปากคำ
น.ส.พิมพ์เพชร ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 21.00 น.วานนี้ (23 ม.ค.) ได้มีลูกค้าเป็นชายคนหนึ่งขับรถตู้ยี่ห้อโฟล์คสวาเก้น คาราเวล สีเขียวฟ้า หมายเลขทะเบียน อษ-9565 กทม.เข้ามาที่ร้าน จากนั้นลงมาไล่แจกนามบัตรระบุชื่อ นายวัลลภ เพชรวิบูล รองเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง (นายกรณ์ จาติกวณิช) ให้กับเด็กรับรถ และพนักงานคนอื่นๆในร้าน จากนั้น นายวัลลภ ได้มานั่งสั่งเบียร์ไฮเนเก้นดื่มเพียงลำพังอยู่คนเดียว ระหว่างที่นั่งดื่มก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่เริ่มมีอาการเมาเดินไปมาไม่อยู่นิ่ง และยังทำแก้วตก แต่ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับใคร
น.ส.พิมพ์เพชร กล่าวต่อไปว่า หลังจากเวลาผ่านไปถึงประมาณเที่ยงคืน ซึ่งเป็นเวลาปิดร้านแล้ว ลูกค้าโต๊ะอื่นก็กลับไปหมด เหลือเพียง นายวัลลภ นั่งอยู่เพียงคนเดียว พนักงานของร้านได้เข้าไปขอเช็กบิลเก็บค่าอาหารเป็น จำนวนเงิน 1,690 บาท ประกอบด้วย อาหาร 1 อย่าง และเบียร์ไฮเนเก้น 11 ขวด แต่ นายวัลลภ เปิดกระเป๋าสตางค์ให้ดูว่ามีเงินเพียงแค่ 750 บาท ตนจึงให้ลูกน้องผู้ชาย 2 คน พานายวัลลภออกไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มใกล้ๆ กับร้าน แต่ปรากฏว่า ตู้ขัดข้องได้เงินมาเพียง 500 บาท เท่านั้น
“พอกลับมาถึงร้าน พนักงานของร้านจะพาไปกดเงินที่ตู้อื่น แต่เขาไม่ยอมไปแล้ว พร้อมกับบอกว่า ไม่ไปแล้ว จะจ่ายแค่นี้ ไปกินที่ไหนไม่เคยจ่าย ทำไมต้องจ่ายด้วย แต่พนักงานของร้านได้พูดกับเขาดีๆ เนื่องจากเกรงว่าจะมีปัญหากับลูกค้าจ่ายเงินไม่ครบ ก็เลยพยายามจะพาเขาออกไปกดเงิน แต่เขาได้ล็อกคอ และกระชากคอเสื้อพนักงานอีก จากนั้นเขาพูดขู่ว่า พูดไม่รู้เรื่องเดี๋ยวกูยิงเลย ดิฉันเลยเดินไปบอกให้เขากลับไป ทางร้านไม่เอาเงินส่วนที่เหลือแล้ว จากนั้นเขาก็เดินกลับไปที่รถตู้ ดิฉันกับพนักงานก็กลัวว่าเขาจะมีปืนหรือไม่ เลยรีบบอกให้พนักงานปิดไฟปิดประตูร้าน แล้วออกทางหลังร้าน แต่เขากลับเดินย้อนกลับมาแล้วกระโดดถีบประตูร้านจนกระจกแตก” น.ส.พิมพ์เพชร กล่าว
น.ส.พิมพ์เพชร กล่าวอีกว่า หลังจาก นายวัลลภ พังประตูเข้ามาในร้านได้แล้ว ก็พูดว่า “มีปืนนะ จะยิงนะ” พวกตนก็รีบหนีออกจากร้าน แล้วโทรศัพท์แจ้งหมายเลข 191 ทันที หลังจากนั้นได้มีตำรวจสายตรวจของ สน.ทุ่งสองห้อง มาที่ร้านก่อนจะควบคุมตัวนายวัลลภ มาที่ สน.ทุ่งสองห้อง ระหว่างนั้น นายวัลลภ ได้โทรศัพท์ติดต่อกับผู้หญิงคนหนึ่งที่บอกว่าเป็นภรรยาของนายวัลลภ ก่อนจะยื่นโทรศัพท์มาให้ตนคุย พร้อมบอกตนว่า “ไม่ต้องพูดอะไรมาก จะเอาเท่าไหร่” แต่ตนก็บอกว่าดึกแล้วให้มาเคลียร์กันที่ สน.ทุ่งสองห้อง แต่หญิงคนดังกล่าวบอกว่า จะให้มาก็ได้ แต่ถ้ามาแล้ว ฝ่ายตนจะไม่ได้อะไรไปเลย
ด้าน พ.ต.อ.พงษ์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำผู้ต้องหาแล้ว พบว่าชื่อนามสกุลผู้ต้องหา คือ นายวัลลภ เพชรวิบูล อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 132/116 ถนนพระรามที่ 6 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม.ตรงกับนามบัตรที่ผู้ต้องหาได้ยื่นให้กับทางร้านไว้ ซึ่งหลังสอบปากคำ พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาทำให้เสียทรัพย์ กับนายวัลลภไปแล้ว โดยข้อหานี้มีอัตราโทษ 3 ปี หากใช้หลักทรัพย์ประกันตัวก็ต้องใช้เงินสด 40,000 บาท แต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้มีเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ระดับ 7 ยศ พ.ต.ท.คนหนึ่ง เดินทางมาที่ สน.ทุ่งสองห้อง พร้อมทั้งใช้ตำแหน่งประกันตัวนายวัลลภออกไปแล้ว ซึ่งหลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบว่า นายวัลลภ เป็นรองเลขาฯ ของ รมว.คลัง ตามที่กล่าวอ้างไว้หรือไม่ ส่วนความผิดข้อหาอื่นนั้น ต้องรอสอบปากคำผู้เสียหายอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง หากพบว่าเข้าข่ายความผิดข้อหาอื่นก็จะแจ้งข้อหาดำเนินคดีเพิ่มเติมต่อไป
ร.ต.ท.พีระวิทย์ กล่าวว่า เบื้องต้นแจ้งข้อหาทำให้เสียทรัพย์ กับนายวัลลภ เพียงข้อหาเดียวก่อน ส่วนข้อหาอื่นนั้น ต้องตรวจสอบเจตนาของผู้ต้องหาว่าเข้าข่ายความผิดข้อหาข่มขู่ทำให้ตกใจกลัวจากการขู่เข็ญหรือไม่ ส่วนเรื่องที่ว่าจะผู้ต้องหาจะแอบอ้างเป็นรองเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังหรือไม่นั้น ต้องรอตรวจสอบข้อเท็จจริงอีกครั้ง หากพบว่าเป็นการแอบอ้างจริง จะแจ้งข้อหาแอบอ้างทำให้ผู้อื่นเสื่อมเสียชื่อเสียงต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า จากการตรวจสอบรถตู้คันดังกล่าว พบว่า บริเวณกระจกหน้ารถมีสติกเกอร์ของกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์, สติกเกอร์ของกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ และสติกเกอร์ของพรรคประชาธิปัตย์
ขณะที่นายศิโรตม์ เสตะพันธ์ เลขานุการ รมว.คลัง กล่าวว่า ได้เดินทางไปสน.ทุ่งสองห้อง ในฐานะเจ้าทุกข์ที่ถูกแอบอ้าง และนำรายละเอียดดังกล่าวมาดูว่า นายวัลลภได้นำนามบัตรไปทำอะไรบ้าง หรือไปแอบอ้างที่ไหนอีก ก่อให้เกิดความเสียหายต่อตนเอง และรมว.คลังหรือไม่ โดยชั้นนี้จะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการไปก่อน เนื่องจากมีการทำนามบัตรปลอมด้วย ซึ่งการพิมพ์นามบัตรลักษณะดังกล่าวนั้น ถือว่าเป็นการปลอมแปลงเอกสารทางราชการ ซึ่งจะมีความผิดมากกว่าธรรมดาในชั้นของกฎหมาย
“เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก แต่เคยเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ เช่น มีผู้แอบอ้างว่าเป็นหน้าห้องรมว.คลัง และต้องการขอเบอร์โทรศัพท์เคลื่อนที่หมายเลขพิเศษ จากบริษัท แอ็คเซ็สคอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค แต่ปรากฎว่า ทางดีแทคไม่มีเบอร์ที่บุคคลดังกล่าวต้องการ และแจ้งว่า หากต้องการจริง ๆ ให้ทำหนังสือไปยังกทช.เพื่อขอเบอร์พิเศษดังกล่าว ซึ่งเมื่อส่งเรื่องไปกทช.เอะใจ จึงสอบถามกลับมายังหน้าห้องรมว.คลัง ทำให้ทราบเรื่องว่า ไม่เป็นความจริง และมีผู้แอบอ้างแน่นอน เป็นต้น”