ตำรวจหัวหมากรวบสามผู้ต้องหาชาวไต้หวันใช้บัตรเอทีเอ็มปลอมตระเวนกดเงินสด อ้างได้ค่าจ้างแค่ครั้งละหมื่น แต่ ตร.เชื่อกระทำผิดเป็นขบวนการเพราะพบของกลางบัตรเอทีเอ็มปลอมพร้อมรหัสกดเกือบ 200 ใบ
วันนี้ ( 7 ธ.ค.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ สน.หัวหมาก พ.ต.อ.วัฒนา ยี่จีน ผกก.สน.หัวหมาก พ.ต.ท.รังสรรค์ ยิ่งยงคำรงสกุล รอง ผกก.ปป.สน.หัวหมาก พร้อมเจ้าหน้าที่สายตรวจ สน.หัวหมาก ร่วมกันแถลงข่าวจับกุม Mr.Yo kuo Hsiung อายุ 22 ปี Mr.Kao Ming Hung อายุ 19 ปี และ Mr.Chiu Chao Huang อายุ 36 ปี ทั้งหมดถือสัญชาติไต้หวัน พร้อมของกลางบัตรเอทีเอ็มธนาคารต่างๆ รวม 134 ใบ เงินสด 51,000 บาท โทรศัพท์มือถือ จำนวน 8 เครื่อง และกระเป๋าสะพาย 2 ใบ
พ.ต.อ.วัฒนา เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (6 ธ.ค.) ขณะที่ ด.ต.ปริญญ์ แก้วศรี ผบ.หมู่ ป.สน.หัวหมาก และ ด.ต.บุญช่วย โพธิ์จันทร์ทอง ผบ.หมู่ ป. สน.หัวหมาก กำลังปฏิบัติหน้าที่ออกตรวจตราท้องที่รับผิดชอบมาถึงบริเวณตู้เอทีเอ็มทางเข้าห้างบิ๊กซี สาขาหัวหมาก แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กทม. ก็พบผู้ต้องหาทั้ง 3 คน กำลังยืนกดเงินอยู่ด้วยท่าทางมีพิรุธ จึงขอเข้าทำการตรวจค้นก็พบบัตรเอทีเอ็มธนาคารต่างๆ จำนวน 73 ใบ จึงยึดไว้เป็นของกลาง ก่อนควบคุมตัวไปตรวจค้นภายในห้องพักเลขที่ 530 โรงแรมรัชดาซิตี้ ถนนประชาราษฎร์บำเพ็ญ ก็พบัตรเอทีเอ็มซุกซ่อนอยู่ในห้องอีก จำนวน 61 ใบ จึงยึดไว้เป็นของกลาง พร้อมควบคุมตัวทั้ง 3 คน มาทำการสอบปากคำที่ สน.หัวหมาก
จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 คนให้การรับสารภาพว่า พวกตนเดินทางเข้ามาในประเทศไทยในฐานะนักท่องเที่ยว จากนั้นก็มีชายชาวไทยไม่ทราบชื่อซึ่งพูดภาษาจีนได้ เข้ามาว่าจ้างให้นำบัตรเอทีเอ็มทั้งหมดซึ่งมีหมายเลขแปะไว้ด้านหลังไปกดเงินตามตู้เอทีเอ็มต่างๆ โดยแต่ละครั้งชายคนดังกล่าวจะเป็นคนโทรศัพท์มาสั่งว่าให้นำบัตรหมายเลขใดไปกดเงิน เมื่อได้เงินมาแล้วก็จะเอาไปให้ชายคนดังกล่าว โดยพวกตนจะได้ค่าจ้างคนละ 10,000 บาท ต่อการออกไปกดเงิน 1 ครั้ง หากได้เงินเยอะค่าค้างก็จะเพิ่มตามไปด้วย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อในคำให้การของผู้ต้องหาทั้ง 3 คน จึงได้แจ้งข้อหา ร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบในการที่จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน และร่วมกันมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งบัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่น โดยมิชอบในการที่จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน พร้อมทั้งจะสืบสวนขยายผลจับกุมผู้ที่อยู่ในขบวนการมาดำเนินคดีต่อไป
